‘เฉลิมชัย‘ ขอคุย สส.ถามเหตุผลเสนอชื่อชิงหัวหน้าพรรคอีกครั้ง ประเมินด้านบวก-ด้านลบ
‘เฉลิมชัย‘ ขอคุย สส.ถามเหตุผลเสนอชื่อชิงหัวหน้าพรรคอีกครั้ง ประเมินด้านบวก-ด้านลบ หากทำให้เลือดไหลไม่หยุดอีกจะพิจารณาทบทวน ลั่นกรีดเลือดเป็นประชาธิปัตย์ แม้จะเป็นวิญญาณแต่ยังมีสำนึก ยันไม่มีอำนาจสั่งใครได้ เป็นคนมีประชาธิปไตยมากที่สุดคนหนึ่งในพรรค
วันนี้ (8 ธ.ค. 66) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลัง สส.กลุ่มหนึ่งของพรรคประชาธิปัตย์ แกนนำพรรค และสมาชิกพรรค ตัวแทนสาขาพรรค เดินทางมาให้กำลังใจในการรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 9 ด้วยความเชื่อว่านายเฉลิมชัยจะสามารถกอบกู้พรรคจากวิกฤตได้ เป็นผู้เสียสละ เป็นที่เคารพของ สส.และสมาชิกพรรค
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน กล่าวว่า เมื่อวานนี้ตนเองได้มีโอกาสคุยกับกลุ่ม สส.ประมาณ 5 นาที จึงนัดคุยกับทุกคนในช่วงบ่ายวันนี้อีกครั้ง ถึงรายละเอียดทั้งหมดว่ามีความเป็นมาเป็นไปอย่างไร วันนี้ตำแหน่งนี้ถึงมาลงที่ตน ดังนั้นจึงขอเรียนว่าตนเองเข้าใจความรู้สึกของสมาชิกพรรคทุกคน ตนต้องตัดสินใจอยู่แล้วไม่ว่าอย่างใดอย่างหนึ่ง และวันพรุ่งนี้ก็ต้องชัดเจนว่าตนเองจะเดินหน้าต่อหรือไม่เดิน แต่ว่าตนเองจำเป็นต้องรู้ข้อเท็จจริงว่า ความรู้สึก สส.ในพรรคทั้งหมดเป็นอย่างไร วันนี้มีเหตุผลอะไร
“ผมอยู่ประชาธิปัตย์กับทุกคนมา 4 ปี ผมไม่เคยใช้อำนาจ ก็ถ้าใครคิดว่าผมเป็นคนใช้อำนาจสั่งได้ขอบอกว่าไม่ใช่ ผมเป็นคนที่ยึดหลักการในประชาธิปัตย์มากที่สุดคนหนึ่ง ผมเป็นคนที่มีประชาธิปไตยในประชาธิปัตย์มากที่สุดคนหนึ่ง ทุกครั้ง ผมจะถาม สส. ถามทุกคนว่าเรื่องนี้มีความคิดเห็นอย่างไร ไม่เคยสั่งให้ไปทำโน้นทำนี่ ไม่ใช่นิสัยของผม เพราะฉะนั้นผมก็ยังเป็นผม ต้องมีเหตุผลเพียงพอในการที่ผมจะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง และสำคัญที่สุดคือผมต้องมีคำตอบให้กับตัวเองได้” นายเฉลิมชัย กล่าว
นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า ทุกท่านไม่ต้องห่วง ตนเองรู้ว่าได้เคยพูดอะไรออกไป แต่ในอีกมุมนึงทุกคนก็ต้องรู้ว่าเพราะอะไรมีความจำเป็นต้องออกมาพูดตอนน้้น จึงยืนยันว่าอีกสักครู่ตนเองจะไปคุยกับกลุ่ม สส.อีกครั้งว่าเพราะอะไร อึดอัดตรงไหน อะไรจะเกิดขึ้น จะเป็นอย่างไรสำหรับพรรคประชาธิปัตย์
“ทุกคนรู้ว่าผมรักประชาธิปัตย์ พรรคประชาธิปัตย์คือส่วนหนึ่งของตัวผม ของสายเลือดผม ทุกคนถึงมีความรู้สึกว่าผมควรจะกลับเข้ามา ผมเรียนทุกท่านว่า ผมก็เป็นคนการตัดสินใจของผมไม่ว่าเรื่องใด มีแต่เสมอตัวกับขาดทุน แต่ผมมีสำนึก“
นายเฉลิมชัย กล่าวย้ำอีกว่า สิ่งที่ตนเรียกหากับประชาธิปัตย์ที่ผ่านมาคือสำนึก วันนี้สิ่งที่ผมตนเองพูดไป ตนเป็นศพไปแล้วเหลือแต่วิญญาณ แต่วิญญาณผมยังมีคุณค่า ถึงผมจะมีวิญญาณผมก็มีสำนึก ผมจะไปคุยเหตุผล บวกลบคูณหาร ถ้าทำให้ประชาธิปัตย์เดินได้ผมจะพิจารณา แต่ถ้ามีเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง ที่ประชาธิปัตย์จะต้องแตก เลือดจะต้องไหลไม่หยุดอีก ผมก็จะต้องพิจารณา เพราะฉะนั้นอย่างไรก็แล้วแต่ พรุ่งนี้มีคำตอบแน่นอน”