ประชาธิปัตย์ตบเท้าเชียร์ ‘เฉลิมชัย’ นั่งหัวหน้าพรรคคนที่ 9
ประชาธิปัตย์ตบเท้าเชียร์ ‘เฉลิมชัย’ นั่งหัวหน้าพรรคคนที่ 9 ‘นราพัฒน์’ พร้อมถอยหากเฉลิมชัยตัดสินใจลงชิงตำแหน่ง เชื่อเป็นผู้กอบกู้พรรค คืนความเป็นหนึ่ง ’เดชอิศม์’ พร้อมเป็นเลขาฯ ถ้าหัวหน้าชื่อเฉลิมชัย ลั่น ความรักซื้อไม่ได้ ยกเป็นผู้เสียสละที่สุด ‘ชัยชนะ‘ ขอเป็นน้องคนเล็กรักเหนียวแน่นกับพี่ชาย ’เฉลิมชัย-เดชอิศม์’
วันนี้ (8 ธ.ค. 66) เวลา 12:10 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ กลุ่มสมาชิกพรรคและตัวแทนสาขา จากหลายจังหวัด ทั้ง 4 ภาค เช่น กรุงเทพมหานคร สมุทรสงคราม ปราจีนบุรี สุพรรณบุรี เป็นต้น เข้ามอบดอกไม้ให้กำลังใจ ถือป้าย และสนับสนุนให้ ’นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน‘ เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คนที่ 9 ก่อนจะมีการประชุมวิสามัญพรรคเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคในวันพรุ่งนี้
นายนราพัฒน์ แก้วทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรค และหนึ่งในผู้ประกาศชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ได้มอบต้นกล้วยไม้ให้กับนายเฉลิมชัย พร้อมกล่าวต่อสื่อมวลชนว่า ที่ผ่านมาการที่มีโอกาสได้เข้าชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ตนเองได้มีการประสาน และพูดคุยกับนายเฉลิมชัยมาโดยตลอด วันนี้เมื่อได้เห็นภาพว่าปัญหาของพรรคคือความสม่ำเสมอ ความสามัคคี และความเป็นหนึ่งเดียว เมื่อวานนี้ได้เห็นภาพ สส.ลงชื่อสนับสนุนให้นายเฉลิมชัยเป็นหัวหน้าพรรคคนต่อไปเพื่อนำพาพรรคกลับมาเป็นที่ชื่นชมชื่นชอบของพี่น้องประชาชน ทำให้พรรคกลับมาอยู่ในความรู้สึกที่ดีของประชาชน ตนเองมองเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ และได้พูดมาตลอดว่าตนเองตั้งใจมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อลดความขัดแย้งและจะอยู่ในตำแหน่งเพียงหนึ่งปีหรือหนึ่งปีครึ่งเพื่อทำให้พรรคเกิดความเรียบร้อยเป็นหนึ่งเดียวเป็น One Democrat แล้วจะถอยออกมา
แต่เมื่อวานนี้ ตนได้เห็นพลังของ สส.ทั้ง 21 ท่านรวมเป็นหนึ่งแล้ว ถือว่าได้บรรลุเจตนารมย์ที่ต้องการแล้ว วันนี้จึงมายืนยันว่า ตนเองเป็นหนึ่งเสียงที่พร้อมสนับสนุนให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ได้นำพาพรรคไปในทางที่ถูกที่ควร กลับมาสู่ความเป็นหนึ่งเดียวสักที ซึ่งตนเองมั่นใจว่าปัญหาประชาธิปัตย์เป็นปัญหาภายใน เราไม่เคยเสียจุดยืนในอุดมการณ์ เรายังเป็นความหวังของประชาชนอยู่ จึงอยากให้นายเฉลิมชัยรับตำแหน่งตรงนี้ เพื่อให้ทุกคนสบายใจ และเริ่มนับหนึ่งในการเดินหน้าเป็นความหวังของประชาชนต่อไป
นายเดชอิศม์ ขาวทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรค กล่าวว่า สืบเนื่องจากการประชุม สส.พรรคประชาธิปัตย์เมื่อวานนี้มี สส. 21 ท่าน (เข้าประชุม 20 คน ลาป่วย 1 คน) ได้หารือ สอบถามความเห็นของทุกคนให้ทุกคนได้แสดงความเห็น ปรากฏว่าเมื่อย้อนไปถึงการประชุมวิสามัญพรรคครั้งที่ 1 และ 2 ที่ประชุมล่ม องค์ประชุมไม่ครบ ก็ไม่มีชื่อนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นแคนดิเดตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หากประชุมไม่ล่มเราคงได้หัวหน้าพรรคเป็นคนอื่นไปแล้ว และแสดงให้เห็นว่านายเฉลิมชัย ไม่ได้วางแผนและพยายามเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ด้วยตัวเอง แต่ในที่ประชุม สส.มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า เหตุการณ์อย่างนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเชิญนายเฉลิมชัยมากอบกู้ และประคองพรรคให้เดินไปข้างหน้าได้
นายเดชอิศม์ กล่าวว่าพวกเราทราบดีว่าคนที่เจ็บช้ำ เป็นตำบลกระสุนตกมากที่สุด คือนายเฉลิมชัย เพราะเคยลั่นวาจาไว้ว่าจะเลิกเล่นการเมือง ตนเองอยู่เคียงข้างนายเฉลิมชัยมาก่อน เข้าใจดีว่าวันที่ท่านพูดเป็นเหตุการณ์ที่พรรคกำลังจะล่มสลาย เลือดไหลออกจากพรรคประชาธิปัตย์ มี กก.บห.หญิงของพรรคจะลาออกทั้งหมด เนื่องจากมีรองหัวหน้าพรรคคนหนึ่งถูกกล่าวหาคดีอื้อฉาว
การที่นายเฉลิมชัยตัดสินใจวันนั้น เป็นความเด็ดเดี่ยว เด็ดขาด ของความเป็นผู้นำ หากไม่พูดในวันนั้น ตนเองคิดว่าอาจจะมี สส.ไม่ถึง 25 คน เหมือนในวันนี้อย่างแน่นอน และหลังจากนั้นเราสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ในการเลือกตั้งมาโดยตลอด ท่านทำหน้าที่เป็นแม่ทัพอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง และท่านเป็นคนเดียวที่ชนะใจผู้สมัคร สส.เขตทุกคน ทั้งที่สอบตกและสอบได้ ตนเองมั่นใจว่านายเฉลิมชัยคือผู้เสียสละที่สุด เสียสละมาทั้งชีวิตแล้ว และพวกเราขอร้องให้ท่านเสียสละอีกครั้งหนึ่ง
“ความรัก ความศรัทธา ความเชื่อมั่น มันซื้อกันไม่ได้ มันออกมาจากใจและเปล่งออกมาเป็นคำพูด จึงขอฝากไปยังคนที่ยังไม่เข้าใจด้วยว่า อย่ามาโจมตีนายเฉลิมชัยเลย ผมถือว่าท่านคือผู้เสียสละอย่างยิ่งใหญ่ที่สุด” นายเดชอิศม์ กล่าว
ทั้งนี้ นายเดชอิศม์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองพร้อมทำหน้าที่เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ หากหัวหน้าพรรคชื่อว่าเฉลิมชัย ศรีอ่อน แต่หากเป็นบุคคลอื่นก็จะปฏิเสธ ตอนนี้ยังมั่นใจ 50:50 ระหว่างนายเฉลิมชัยกับ น.ส.วทันยา ว่าใครจะได้เป็นหัวหน้าพรรค
ด้านนายชัยชนะ เดชเดโช สส.จ.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์และรักษาการรองหัวหน้าพรรค กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์เดินหน้าเข้าสู่ปีที่ 78 หัวหน้าพรรคมี 8 คน เราอยู่ในยุคเปลี่ยนผ่านมาโดยตลอด การเข้าสู่ปีที่ 78 อย่างมั่นคงและแข็งแรง ตนดองเชื่อว่าการตัดสินใจของ สส.ส่วนใหญ่ทั้ง 21 ท่าน มีความเห็นตรงกันว่าในการนำพาเข้าสู่ปี 78 กลับมาฟื้นฟูพรรคเป็นพรรคที่มั่นคง นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นบุคคลที่มีความเหมาะสม เพราะตลอดระยะเวลาที่ท่านได้สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ได้ทุ่มเททำงานเหน็ดเหนื่อยเพื่อพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นรัฐมนตรีที่ไม่มีข้อครหาเรื่องการทุจริตคอรัปชั่น
“ผมในฐานะที่เป็นน้องคนเล็กสุด โดยมีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นพี่ชายคนโต และนายเดชอิศม์ ขาวทอง เป็นพี่ชายคนที่สอง ตนเองเป็นน้องชายคนที่สาม เราสามคนพี่น้องรักกัน ไม่ว่าพายุ อุทกภัย ความแปรปรวนจะเข้ามาอย่างไร แต่ไม่สามารถทำให้จิตใจหัวใจของเราทั้งสามคนที่เป็นลูกผู้ชายนั้นแตกแยกออกจากกันได้ สายลมที่พัดผ่านคือสายลมแห่งความเปลี่ยนแปลง ถึงเวลาวันนี้แล้ว มวลมิตรทั้งหลายของพรรคมาเชิญชวนนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 9 ด้วยความรัก“ นายชัยชนะ กล่าว
