POLITICS

‘มาดามเดียร์’ ไม่ถอยขอสู้ชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่หวั่น สส.เตรียมเสนอชื่อ ‘เฉลิมชัย’

หวังสมาชิกกล้าเปลี่ยนเพื่อให้พรรคเป็นความหวังของประชาชนได้ ย้ำ อนาคตพรรคอยู่ในมือทุกคน พร้อมทบทวนย้ายพรรคถ้า ปชป.ไม่เป็นอย่างที่ศรัทธา

วันนี้ (8 ธ.ค. 66) เวลา 09:20 น. น.ส.วทันยา บุนนาค หรือ มาดามเดียร์ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ผู้แสดงตัวลงสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คนที่ 9 แถลงข่าวที่ลานพระแม่ธรณี ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันจะลงสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเหมือนเดิม หลัง 20 สส. ประชาธิปัตย์ เตรียมขอให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ลงสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคด้วย

น.ส.วทันยา กล่าวว่า จุดยืนและความตั้งใจของตนเองที่เสนอตัวเองเป็นทางเลือกลงรับเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพราะมีความเชื่อมั่นและศรัทธาว่า หนทางเดียวที่จะที่จะทำให้พรรคประชาธิปัตย์กลับมาเป็นที่ไว้วางใจ เป็นความหวังของประชาชนได้อีกครั้งหนึ่ง คือการทำจุดยืนการเมือง และทำอุดมการณ์พรรคประชาธิปัตย์ให้กลับมาชัดเจน เพื่อให้เป็นทางที่หวังและได้รับความไว้วางใจจากประชาชนอีกครั้ง และพรรคประชาธิปัตย์จะต้องเปลี่ยนแปลง ซึ่งไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงเพื่อตัวเอง แต่ต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อประชาชน เพื่อสังคมที่กำลังเผชิญความท้าทายอย่างมากจากวิกฤตต่างๆ ในโลกที่ท้าทาย ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์จะต้องแสดงวิสัยทัศน์เป็นทางเลือกให้กับประชาชน ไม่ใช่เปลี่ยนแปลงเพื่อตัวเองแต่เป็นการเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคม พรรคการเมืองต้องยึดโยงกับประชาชน เคารพในเสียงประชาชน ฟังทุกความต้องการของประชาชน และการตัดสินใจเพื่อประชาชนไม่ใช่เพื่อตัวเราเอง

น.ส.วทันยา ย้ำว่า ตนตั้งใจและศรัทธากับวิถีและอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ จึงเป็นเหตุผลที่เสนอตัวเองเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้นจะไม่เปลี่ยนแปลงคำพูดใดๆ จะไม่เปลี่ยนแปลงจุดยืนของตัวเอง แต่จะขอสู้ให้ถึงที่สุด

ส่วนกรณีที่ 20 สส.จะเสนอชื่อนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นหัวหน้าพรรค ขณะที่นายเฉลิมชัยเองเคยพูดว่าจะวางมือทางการเมืองแล้ว รู้สึกอย่างไรนั้น น.ส.วทันยา กล่าวว่า ตนไม่รู้สึกอะไร ยิ่งในพรรคมีแคนดิเดตผู้สมัครรับเลือกตั้งมากขึ้นเท่าไหร่ เหมือนที่ตนเสนอตัวเองเป็นหนึ่งทางเลือก เป็นโอกาสที่ดีที่สมาชิกจะมีตัวเลือกได้มากขึ้น

สำหรับความคิดเห็นเรื่องคำพูด น่าจะต้องเป็นการตัดสินใจของประชาชนมากกว่า ว่าเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วประชาชนจะรู้สึกอย่างไรกับพรรคประชาธิปัตย์ ประชาชนจะยังให้ความไว้วางใจพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังคงมีความหวังว่า สส.จะเปลี่ยนใจมาเลือกตนเองหรือไม่ เพราะตอนนี้เหมือนล็อคผลไปทางนายเฉลิมชัยแล้ว น.ส.วทันยา กล่าวว่า อย่างที่ได้บอกไปว่า สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจ ยังศรัทธาในวิถีอุดมการณ์แบบนี้ มีความฝันว่าในการเมืองแบบนี้ ดังนั้นตนเองจึงตัดสินใจลงมือทำ มันไม่ได้เป็นการตัดสินใจเพราะว่าไปหวังผลประโยชน์ใดๆ หรือไปคำนวณผลแพ้ ผลชนะในการเลือกตั้ง จึงเป็นเหตุผลว่าไม่ว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้น ตนเองจะขอยืนยันในจุดยืนตัวเอง ขอทำตามความฝันและจะขอสู้จนถึงที่สุด

ส่วนที่ สส.กลุ่มหนึ่ง บอกว่านายเฉลิมชัย ดูแลกัยมา 4 ปีจึงต้องเลือกนายเฉลิมชัย นั้น น.ส.วทันยา กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการตัดสินใจของสมาชิกพรรคทุกท่าน ซึ่งตนเคารพในเสรีภาพและความเห็นที่แตกต่าง คงตอบแทนสมาชิกท่านอื่นถึงความคิดเห็นไม่ได้ แต่เห็นว่าอนาคตของพรรคประชาธิปัตย์คือเราจะสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อไปดักรอการเปลี่ยนแปลงของสังคมในอนาคตได้หรือไม่ เราจะเป็นทางเลือกให้กับประชาชนได้หรือไม่ ดังนั้นวันนี้ชัดเจนว่าอนาคตของพรรคประชาธิปัตย์และผู้สมัครทุกคน ไม่ได้อยู่ในมือใครเลย แต่อยู่ในมือของพวกเราเอง ดังนั้นทุกคนต้องตัดสินใจเลือก

“การทำงานกับพรรคการเมือง คือการยึดโยงกับประชาชน ทำงานเพื่อประชาชน ไม่ใช่เป็นการทำงานภายใน ไม่ใช่ทำเพื่อตัวเองหรือเป็นการทำงานเพียง เฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือคนภายในพรรคประชาธิปัตย์อย่างเดียวเท่านั้น” น.ส.วทันยา กล่าว

ส่วนถ้าผลเลือกตั้งหัวหน้าพรรคไม่เป็นดังหวัง จะพิจารณาลาออกจากพรรคหรือไม่ น.ส.วทันยา ระบุว่า คงต้องขอกลับมาประเมินเพราะตนศรัทธาในพรรคประชาธิปัตย์ ในสิ่งที่เป็นอุดมการณ์เช่นนี้และเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงเลือกเข้ามาทำงานกับพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่วันแรก เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่มีประชาชนเป็นเจ้าของ เป็นพรรคที่ไม่มีเจ้าของมากดปุ่มชี้นิ้วสั่งการ สมาชิกทุกคนมีเสรีภาพทางความคิด ในการแสดงออก และยึดโยงกับประชาชน ซึ่งจะเป็นจุดสำคัญที่กลับมาประเมินว่าหลังจากนี้แล้วพรรคประชาธิปัตย์จะยังคงมีอุดมการณ์เหมือนตอนที่ได้เดินเข้ามาหรือไม่ เหมือนที่ได้ศรัทธาหรือไม่ หากไม่เหมาะกับองค์กรใดก็ต้องพิจารณาตัวเอง

“หลายคนบอกว่าเดียร์เป็นเลือดใหม่ประชาธิปัตย์ เดียร์เข้ามาทำงานกับพรรคเพียงแค่หนึ่งปีเศษ แต่วันนี้ในฐานะคนคนหนึ่งที่เป็นเลือดใหม่ประชาธิปัตย์ เดียร์ก็เชื่อในหลักวิถีอุดมการณ์และเดียร์ก็เลือกขอยืนหยัดต่อสู้ เพื่อทำตามความฝันและความเชื่อความศรัทธาของตัวเอง

แต่ความศรัทธานี้ของเดียร์ และเพื่อนๆอีกหลายคนที่มองไม่ต่างกัน มันจะไปถึงฝั่งไม่ได้เลย ถ้าไม่ได้รับความยินยอมพร้อมใจ หรือรับความสนับสนุนจากเพื่อนสมาชิกคนอื่นๆ

แต่ว่าอนาคตของพรรคประชาธิปัตย์ ณ วันนี้มันไม่ได้อยู่ที่มือของใครเลย การเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงของพรรคประชาธิปัตย์จะเกิดขึ้นได้จริงก็อยู่ในมือของพวกเราทุกคน“

Related Posts

Send this to a friend