‘เฉลิมชัย’ ขอคุย สส.อีกครั้งก่อนตัดสินใจลงชิงหัวหน้าพรรคหรือไม่
‘เฉลิมชัย’ ขอคุย สส.อีกครั้งก่อนตัดสินใจลงชิงหัวหน้าพรรคหรือไม่ ลั่นไม่เคยกระสันตำแหน่ง ถาม ในรอบ 30 ปี มีผู้บริหารคนใดกล้าถวายชีวิตเพื่อพรรคเท่าตน ย้อน สส.รักผิดตรงไหน
วันนี้ (8 ธ.ค. 66) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการหัวหน้าและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ สส.มีมติเชิญให้มาลงสมัครหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า ต้องขอคุยกับ สส.กลุ่มนี้อีกครั้ง เพราะยังไม่ได้คุยกันในรายละเอียด ซึ่งขอบอกตรงๆ ว่าเป็นสิ่งที่ตนเองต้องคิดมากที่สุดเพราะเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตแต่สิ่งที่ตนเองได้แสดงให้ทุกคนเห็นคือ นับตั้งแต่หลังเลือกตั้ง ตนเองไม่เคยแสดงความกระสันหรืออยากจะเป็นอะไร แค่อยากให้พรรคเดินไปข้างหน้าเท่านั้นเอง พร้อมยืนยันว่าไม่เคยเชิญ สส.ไปรับประทานอาหารที่บ้านมา 2 เดือนแล้ว และคนที่รู้ดีที่สุดคือนางสาววทันยา บุนนาค หรือ มาดามเดียร์ เพราะตนเองคุยด้วยเป็นประจำ
ทั้งนี้ นายเฉลิมชัย กล่าวย้ำว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นบ้านของตน จึงต้องการให้พรรคเดินไปข้างหน้าด้วยความราบรื่น มีเรื่องภายในหลายเรื่องที่คนภายนอกไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร และจะเกิดอะไรขึ้น จึงต้องขอคุยอีกครั้ง ซึ่งการจัดตัดสินใจอย่างไรต้องมีเหตุและผลมากกว่านี้
นายเฉลิมชัย กล่าวว่าก่อนที่จะมีการวิพากษ์วิจารณ์อะไรขอให้ใช้เหตุผล และข้อเท็จจริง ซึ่ง 2 วันที่ผ่านมาตนเองโดนด่าฟรีไปเยอะ จึงอยากถามสั้นๆ กับทั้งสมาชิกพรรค ทั้งคนที่เคยเลือก และไม่เคยเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ขอให้มองด้วยใจเป็นกลาง จะเห็นความจริง และรู้คำตอบ ว่ามีผู้บริหารคนไหนที่กล้าถวายชีวิตอย่างตนบ้าง ที่เอาชีวิตมาให้พรรค และปกป้องผู้นำพรรค พร้อมย้อนถามกลับว่าผู้บริหารคนไหนที่กล้าทำแบบตนเองบ้าง ตนเองไม่ได้อยากดัง แต่สักวันหนึ่งจะพูดให้ฟังว่าทั้งหมดคืออะไร เหตุการณ์เป็นอย่างไร เพราะมีความพยายามเบี่ยงเบนว่าที่ตนเองประกาศว่าจะเลิกเล่นการเมือง เพราะอวดดี แต่อยากบอกว่าคนที่ไม่ได้อยู่ในพรรคประชาธิปัตย์คงไม่รู้ ว่าตนเองใช้ชีวิตทั้งชีวิตปกป้องพรรคประชาธิปัตย์
“สิ่งที่ผมมีคือความจริงใจให้กับพรรค ผมเคยถามว่า น้องๆ สส.เขานับถือผมนี่ผมผิดใช่หรือไม่ ที่ผมดีกับเขา ดูแลพรรค ดูแลเขา แล้วผมมีตรงไหนบ้างที่เสียหาย ว่าผมเป็นรัฐมนตรี ที่สุจริตคนหนึ่งเหมือนกัน ผมถึงกล้าพูด และเมื่อถึงเวลา ผมจะออกมาชี้แจงทั้งหมดล่ะครับไม่ต้องห่วง รอผมนิดนึง รอให้ผมได้คุยกันอีกครั้งว่าเป็นอย่างไร แต่ผมว่าต้องมีเหตุและผล บางเรื่องเป็นเรื่องภายในที่พูดออกมาไม่ได้ ผมจึงต้องขอให้เขาพูดให้ผมฟังว่าเป็นอย่างไร “
นายเฉลิมชัย ปฏิเสธการตอบคำถามว่าพร้อมจะถอนคำพูด ว่าเลิกเล่นการเมือง แล้วทำเพื่อพรรคหรือไม่