POLITICS

‘ชวน’ โอดรัฐบาลเมินสภาฯ หวัง ‘วิษณุ’ กระซิบนายกฯ กำชับพรรคร่วมมาประชุม

‘ชวน’ โอดรัฐบาลเมินสภาฯ ต้องดูแลกันเอง หวัง ‘วิษณุ’ กระซิบนายกฯ กำชับพรรคร่วมมาประชุม พร้อมปลุกใจ ส.ส. อย่าย่อท้อ ขอให้รับผิดชอบด้วย

วันนี้ (8 ธ.ค. 65) นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่อาคารรัฐสภา โดยกล่าวว่า มีร่างกฎหมายที่มีความจำเป็นและสำคัญที่จะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จ เช่น ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ หรือ ร่าง พ.ร.บ. มหาวิทยาลัยนราธิวาส ราชนครินทร์ ซึ่งเป็นเรื่องด่วนที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่งมา และรวมกับร่างกฎหมายฉบับอื่นรวมแล้วกว่า 10 ฉบับ หากรัฐบาลต้องการให้กฎหมายผ่านต้องดูแลเรื่ององค์ประชุม หากองค์ประชุมไม่มีปัญหา เชื่อว่าเวลาที่เหลือของสภา 2 เดือน ยังเพียงพอ

พร้อมมองว่า เหตุสภาล่มนั้น ไม่ใช่เกมการเมืองในสภาฯ เพื่อยื้อร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง แต่เป็นเรื่องที่ฝ่ายค้านไม่ร่วมเป็นองค์ประชุมในการโหวตมาตรา 9/1 ร่าง พ.ร.บ. การเข้าชื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น เชื่อว่าปัญหาองค์ประชุมล่มไม่ได้มีเหตุมาจาก ส.ส.โดดประชุม เพื่อลงพื้นที่หาเสียง ขณะที่บางคนก็ไปภารกิจต่างประเทศ แต่สมาชิกบางคนก็ไม่ทราบหายไปไหน ซึ่งก็มีทุกพรรค

ทั้งนี้ นายชวน ยังยอมรับว่า ตนเองก็ลืมกดบัตรแสดงตนในการประชุมสภาฯ เมื่อวานนี้ (7 ธ.ค. 65) เช่นเดียวกัน เพราะยุ่งอยู่กับการชี้แจง และปรากฏว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้แสดงตนด้วยวาจาไปแล้ว แต่กลับกดบัตรซ้ำ เป็นเหตุให้องค์ประชุมลดลง จนสภาล่ม อย่างไรก็ตาม ขอให้สมาชิกอย่าย่อท้อ เพราะเวลายังมีอยู่ และในสัปดาห์ต่อๆ ไปขอให้รับผิดชอบมาร่วมประชุม

นายชวน ยังเผยว่าได้หารือกับ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะฝ่ายรัฐบาลที่ดูแลด้านกฎหมาย เพื่อให้ขอเป็นคนกลางประสานพรรครัฐบาลให้มาร่วมประชุมสภาฯ เพราะถือเป็นหน้าที่ของทุกฝ่าย แต่กลไกระบบนี้ รัฐบาลเสียงข้างมากต้องคุมเสียงให้พิจารณาให้ได้ และเมื่อถามว่า จำเป็นจะต้องเปิดการประชุมสมัยวิสามัญหรือไม่ นายชวน มองว่า ก็สามารถทำได้ จะต้องเปิดในช่วงเดือนมีนาคม 2566 แต่ขนาดการประชุมสามัญธรรมดายังยากเลย

นายชวน ยังได้ขอความร่วมมือทุกฝ่ายให้ร่วมเข้าประชุม เพราะเวลาเป็นของมีค่า โดยหวังได้รับความร่วมมือระดับดีกว่าที่ผ่านมา เพราะที่ผ่านมาค่อนข้างยากที่จะทำให้องค์ประชุมครบ โดยหวังว่าเมื่อแจ้ง นายวิษณุ ไปแล้ว หวังว่าจะแจ้งต่อนายกรัฐมนตรีรับทราบเพื่อให้เรียกหัวหน้าพรรคทั้งหลายมาหารือ ว่าแต่ละพรรคต้องกำชับลูกพรรค

“สภาปัจจุบันไม่เหมือนในอดีต ที่นายกฯ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง เป็นเสียงข้างมาก แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีผู้ใหญ่ ผู้บริหารระดับสูงที่เป็นหลักในการดูแล มีการมอบหมาย นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมาดูแล ซึ่งก็ดูแลไม่ทั่วถึง ในสภาฯ ขณะนี้จึงต้องทำหน้าที่กันเอง ประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ต้องหารือกันเองแทนที่จะเป็นฝ่ายบริหารเข้ามาดูแล ก็ทำให้ไม่เหมือนสมัยก่อน”

สำหรับญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 นั้น เวลานี้พรรคร่วมฝ่ายค้านยังไม่ได้เสนอมา ซึ่งวาระของการประชุมรัฐสภาตอนนี้จบแล้ว ล่าสุดลงมติ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมปลดล็อกท้องถิ่น แต่มีอีกฉบับโดยยังอยู่ในขั้นตอนการหากลุ่มสนับสนุน ขณะที่ ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งทั้ง 2 ฉบับคือ ร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมืองและ ร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ได้ส่งไปยังนายกรัฐมนตรีแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีมีเวลา 5 วัน ก่อนที่จะนำร่างขึ้นสู่กระบวนการประกาศบังคับใช้

Related Posts

Send this to a friend