‘ศิริกัญญา‘ เชื่อ เปิดตัวพรรคใหม่ทุกอย่างราบรื่น ก่อนถกสมาชิกเลือก กก.บห. ทันที
‘ศิริกัญญา‘ เชื่อ เปิดตัวพรรคใหม่วันพรุ่งนี้ทุกอย่างราบรื่นดี ก่อนถกสมาชิกเลือก กก.บห. ทันที ชี้ ไม่ต้องสลับฟันปลาวางตัวเป็นผู้นำเผื่อเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ด้าน ‘พิธา‘ ยัน พร้อมเป็นกองหนุนเท่าที่กฎหมายอนุญาต ลั่น “หันมาข้างหลังก็ยังจะมีผมอยู่เสมอ”
วันนี้ (8 ส.ค. 67) นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล อดีตรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล และ สส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการเตรียมแถลงตั้งพรรคใหม่ว่า วันพรุ่งนี้ (9 ส.ค. 67) จะประชุมหารือเป็นกระบวนการภายในกับสมาชิก มั่นใจว่าจะราบรื่นและเป็นไปได้ด้วยดี และสมาชิกที่จะไปต่อด้วยกันจะมาอย่างพร้อมหน้า ส่วนชื่อพรรคขอให้รอฟังวันพรุ่งนี้
นางสาวศิริกัญญา กล่าวถึงกระแสข่าวว่าไม่มีใครอยากขึ้นมาเป็นกรรมการบริหารพรรค เพราะกลัวถูกตัดสิทธิทางการเมือง โดยมองว่าเป็นเรื่องที่คนอาจคิดกันได้ แต่วันพรุ่งนี้จะมีความชัดเจนว่าจะมีกรรมการบริหารพรรคกี่คน ส่วนจะมีใครบ้างให้รอฟังผลการประชุมอีกครั้ง
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ผู้ที่จะมาเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง เป็นพาหนะที่เป็นตัวแทนของประชาชน ถูกระบบแบบไหนที่ทำให้คนไม่กล้าเข้ามาเป็นกรรมการบริหารพรรค เพราะฉะนั้น คนที่จะมีวุฒิภาวะเป็นผู้นำก็ต้องมีความกล้าหาญ และระบบสมควรที่จะเป็นอย่างไร
อย่างไรก็ตาม ส่วนที่เป็นของอดีตพรรคก้าวไกล มองว่าเป็นเรื่องล้อเล่นกันมากกว่า ไม่ได้มีอะไรซีเรียส พอถึงเวลาก็ต้องมีการเลื่อนขั้นขึ้นมา เพื่อที่จะสามารถเดินหน้าต่อไป และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ซึ่งก็เป็นเรื่องของพวกเขา ตนเองก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวแล้ว ที่เหลือเป็นเรื่องของการบริหารจัดการ คงตอบแทนไม่ได้ ขอให้เขาได้ประชุมหารือก่อนที่จะมาตอบความชัดเจน นั่นคือจากอนาคตใหม่มาเป็นก้าวไกล ส่วนก้าวไกลจะเป็นอะไรต่อขอให้รอความชัดเจนในวันที่ 9 สิงหาคม
นางสาวศิริกัญญา ยังระบุว่า กรรมการบริหารจะต้องมีวิจารณญาณและอุดมการณ์ มีความมั่นคงที่จะตัดสินใจแทนสมาชิกในเรื่องสำคัญได้ และมองว่าไม่จำเป็นจะต้องมีการสลับฟันปลาเผื่อเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง
ทั้งนี้ นายพิธา กล่าวว่าเสริมขึ้นมาว่า อยู่กับความสามารถในการบริหาร ไม่ได้ดูว่าเป็น สส.หรือไม่ ส่วนคนรับจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเพื่อน ๆ
นางสาวศิริกัญญา กล่าวต่อว่า หากมองตั้งแต่สมัยอนาคตใหม่มาก้าวไกล ก็โดนคำสบประมาท โดนคำปรามารถเหมือนกัน แต่ก็สามารถสั่งสมความนิยมจนกลายมาเป็นพรรคที่ชนะการเลือกตั้งในปี 2566 ซึ่งน่าจะเป็นบทพิสูจน์ได้แล้ว และคงจะต้องดูกันยาว ๆ ยังตัดสินวันนี้ไม่ได้ ทั้งนี้ ไม่ว่าพรรคใหม่จะเป็นอะไร แต่จะเป็นสถาบันการเมืองมากขึ้นกว่าเดิม แม้จะมีหรือไม่มีนายพิธา เราก็ต้องรักษาความนิยมไปให้ได้จนถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า และจะต้องทำให้ได้มากกว่าเดิม
นายพิธา กล่าวเสริมว่า ยังไม่ได้หายไปไหน เพราะคนที่ยังอยู่ก็เป็นคนที่สนับสนุนตอนที่ตนเองเป็นผู้นำ ตอนนี้ก็ยังจะสนับสนุนพวกเขาตามที่กฎหมายอนุญาต กระแสไม่ได้เป็นสิ่งเดียวที่สำคัญทางการเมือง นโยบาย บุคลากร ความตรงไปตรงมา ความสม่ำเสมอในการทำงาน ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่ากระแส ภาพใหญ่จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ กระแสอย่างเดียววัดอะไรมากไม่ได้ ไม่กังวลเรื่องกระแสและผลโพล ยังมั่นใจว่าเพื่อนจะยังทำงานต่อไปได้ดี “หันมาข้างหลังก็ยังจะมีผมอยู่เสมอ”