POLITICS

ศาลชั้นต้น พิพากษา จำคุกตลอดชีวิต โจ้ อดีตผู้กำกับ สภ.เมืองนครสวรรค์ คดีคลุมถุงดำ ชี้ฆ่าโดยทารุณ โหดร้าย

ส่วน จำเลยที่ 6 ด.ต.ศุภากร คุก 5 ปี 4 เดือน ฐานปฎิบัติหน้าที่มิชอบ ก่อนการฟังคำพิพากษาผ่านระบบคอนเฟอเรนซ์ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ขออ่านแถลงการณ์เพราะอยากกล่าวขอโทษทุกคนและอยากอธิบายให้เข้าใจในสิ่งที่ทำ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยเห็นคำแถลงปิดคดีของตัวเอง แต่ศาลไม่อนุญาต เพราะได้รับเอกสารทั้งหมดแล้วและวันนี้เป็นการฟังคำพิพากษา

วันนี้ (8 มิ.ย.65) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.เลียบทางรถไฟ ได้นัดฟังคำพิพากษา คดีอาญาหมายเลขดำที่ อท.180/2564 ที่อัยการฝ่ายคดีอาญาทุจริต3 เป็นโจทก์ฟ้อง พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือผกก.โจ้ อดีตผกก. สภ.เมืองนครสวรค์ ,พ.ต.ต.รวีโรจน์ ดิษทอง สว.สส. ,ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค รอง สวป. ,ร.ต.ท.ธรณินทร์มาศวรรณา รอง สวป. ,ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว ผบ.หมู่ ป. ,ด.ต.ศุภากร นิ่มชื่น ผบ.หมู่ ป. และ ส.ต.ต.ปวีณ์กร คำมาเร็ว ผขบ.หมู่ ป. เป็นจำเลยที่ 1-7

หลังพ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ พร้อมพวกรวม7คน ใช้ถุงดำคลุมศรีษะนายจิระพงษ์ หรือมาวิน ธนะพัฒน์ ผู้ต้องหาคดียาเสพติดถึงแก่ความตาย ต่อมาอัยการยื่นฟ้องต่อศาลในฐานความผิด4 ข้อหา เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต , ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย และ ร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,157,288,289(5), 309 วรรค 2 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561

สืบเนื่องจากนายจิระพงษ์ ธนะพัฒน์ หรือมาวิน ผู้เสียชีวิต ขณะถูกจับและควบคุมไว้ในคดียาเสพติดและถูกฆ่าถึงแก่ความตายขณะอยู่ในความความควบคุมของเจ้าพนักงาน เมื่อช่วงระหว่างวันที่ 4 – 6 สิงหาคม พ.ศ. 2564 ที่ สภ.เมืองนครสวรรค์

ศาลจึงมีคำพิพากษาว่า จำเลยที่ 1-5,7 กระทำความผิดตามฟ้อง เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทให้ลงโทษทุกกระทงความผิด โดยให้ลงโทษมาตรา 289(5) ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและกระทำด้วยการทรมานทารุณโหดร้ายฯ ซึ่งเป็นหนักสุกตามมาตรา 90 ลงโทษประหารชีวิต ส่วนด.ต.ศุภากร จำเลย 6 มีความผิดตามมาตรา 157 ละเว้นหรือปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ร่วมกันข่มขืนใจให้กระทำการใดหรือไม่กระทำการใด ให้ลงโทษ จำคุก 8 ปี แต่อย่างไรก็ตามจำเลย 1-7 ให้การเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีการให้เงินค่าปรงศพ 30,000 บาท เพื่อบรรเทาผลร้ายให้บิดามารดาผู้ตาย คนละ 300,000 บาท และช่ววปฐมพยาบาล ก่อนนำส่งไปโรงพยาบาล จนกู้สัญญานชีพกลับมาได้ จึงลดโทษให้จำเลยคนละ 1ใน3 คงจำคุกตลอดชีวิต ส่วน ด.ต.ศุภากร จำเลยที่ 6 คงจำคุก 5 ปี 4 เดือน

โดยบรรยากาศ การฟังคำพิพากษาผ่านระบบคอนเฟอร์เรนซ์จากเรือนจำกลางคลองเปรม ผู้สื่อข่าวสังเกตสีหน้าก่อนอ่านคำพิพากษา พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ไม่แสดงถึงความวิตกกังวล และจัดตำแหน่งกล้องที่ส่งสัญญาณภาพด้วยตนเอง และก่อนเริ่มได้สอบถามทนายว่าได้ยื่นบันทึกผลการทำงานตลอดช่วงการรับราชการประกอบไปกับแถลงการณ์ปิดคดีของตนแล้วหรือไม่ ในระหว่างรอการฟังคำพิพากษา พ.ต.อ.ธิติสรรค์ได้ก้มอ่านเอกสารตลอดเวลาและมีการพูดคุยกับจำเลยรายอื่นเป็นบางจังหวะ

ทั้งนี้ในขณะที่ผู้พิพากษากำลังจะเริ่มอ่านคำพิพากษาในช่วง 10.00 น. พ.ต.อ.ธิติสรรค์ได้ขออนุญาตอ่านแถลงการณ์ต่อศาล แต่ศาลได้ชี้แจงกลับว่าวันนี้เป็นการนัดฟังคำพิพากษาแล้ว ก่อนหน้าทางศาลได้รับคำแถลงการณ์ปิดคดีทั้งหมด 454 หน้าซึ่งประกอบด้วยรายละเอียดการปิดคดี คำแถลง และผลการทำงานในขณะที่รับราชการเป็นตำรวจ ซึ่ง พ.ต.อ.ธิติสรรค์ได้กล่าวกับศาลว่า อยากกล่าวขอโทษทุกคนและอยากอธิบายให้เข้าใจในสิ่งที่ทำเพราะที่ผ่านมาทนายความของตนไม่เคยเดินทางมาพบที่เรือนจำ ตนไม่เคยเห็นคำแถลงปิดคดีของตัวเอง อย่างไรก็ตามศาลไม่อนุญาตให้อ่านแถลงการณ์ดังกล่าวเพราะศาลได้ทำการพิจารณารายละเอียดเรียบร้อย

อย่างไรก็ตามในระหว่างที่ศาลได้อ่านพฤติการณ์จากหลักฐานคลิปภาพว่าระหว่างเกิดเหตุมาวินส่งเสียงร้องโอดโอยจากการถูกทรมาน จันทร์จิรามารดาของผู้เสียชีวิตได้ร้องไห้ ซับน้ำตาตลอดเวลา

Related Posts

Send this to a friend