‘ธนกร’ ชี้ควรให้สภาโหวต ‘พิธา’ แค่ครั้งเดียว
หากไม่ได้ควรเปิดทางให้พรรคลำดับสองแทน ลั่นเลือกนายกฯ ไม่ใช่หัวหน้าชั้นเรียน วอนเลิกใช้วาทกรรมฝ่ายประชาธิปไตยโจมตีพรรคอื่น
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงเหตุผลที่ในช่วงนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ตอบประเด็นคำถามทางการเมือง เนื่องจากต้องการเปิดให้เป็นช่วงที่พรรคการเมืองเตรียมจัดตั้งรัฐบาลดำเนินการตามขั้นตอนของสภาผู้แทนราษฎร เมื่อได้ประธานและรองประธานสภาแล้ว จะเข้าสู่ขั้นตอนรอนัดประชุมเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี และจะทำหน้าที่รัฐบาลรักษาการให้ดีที่สุด ส่งมอบตำแหน่งให้รัฐบาลชุดใหม่
สำหรับกรณีที่ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาคนที่ 2 ระบุว่าจะให้เวลาการโหวตเลือกนายกฯ ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล 3 ครั้งนั้น นายธนกร กล่าวว่า วันที่ 13 ก.ค.นี้ จะเป็นการนัดเลือกนายกฯ นัดแรก ถือว่ามีเวลามากถึง 7 วัน ประกอบกับที่ผ่านมากว่า 1 เดือน เพียงพอสำหรับการเจรจาขอคะแนนสนับสนุนจาก ส.ส.และ ส.ว. ส่วนตัวจึงมองว่า การโหวตครั้งเดียวก็พอที่จะเห็นทิศทางการเมืองแล้ว หากไม่ถึง 376 เสียง ครั้งที่ 2 ควรให้ลำดับที่ 2 เสนอชื่อต่อไป
นายธนกร กล่าวต่อว่า การเลือกนายกฯ ไม่ใช่เลือกหัวหน้าชั้นเรียน เพราะขนาดเลือกหัวหน้าชั้นเรียนยังเลือกแค่ครั้งเดียว ยกเว้นคะแนนเท่ากัน หากจะเสนอชื่อนายพิธาอีกเป็นครั้งที่ 2 ต้องมีองค์ประกอบหรือเงื่อนไขใหม่เพิ่มให้สภาพิจารณา หากไม่มีอะไรใหม่ ให้โอกาสครั้งเดียวพอ เพื่อไม่ให้เสียเวลาสภา
“ถ้าครั้งแรกเสียงไม่ถึง ก็ไม่ควรดันทุรังดึงดันเสนอซ้ำเป็นครั้งที่ 2-3 อีก เพราะเวลาการจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะยิ่งถูกดึงเวลาให้ยาวออกไป ก็จะส่งผลกระทบต่อการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ และกฎหมายสำคัญอีกหลายฉบับล่าช้าออกไปด้วย จึงเรียกร้องให้นายพิธา และพรรคก้าวไกลเร่งใช้เวลาที่มีอยู่ 7 วันก่อนที่จะโหวตนายกฯ ครั้งนี้ ขอการสนับสนุนให้มากที่สุดเพื่อจัดตั้งรัฐบาลให้ได้อย่างรวดเร็ว ก็ขอเป็นกำลังใจให้ แต่ประเด็นแก้ไขยกเลิกมาตรา112 ก็อาจเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ ส.ว.ต้องพิจารณาทบทวน” นายธนกร กล่าว
ทั้งนี้ นายธนกร ยืนยันว่า พรรครวมไทยสร้างชาติจะไม่ส่งนายพีระพันธุ์หัวหน้าพรรคลงแข่ง เนื่องจากพรรคมี 36 เสียง แม้ตามรัฐธรรมนูญทุกพรรคที่มีเสียง ส.ส. 25 เสียงสามารถเสนอชื่อได้ก็ตาม แต่ขอให้เป็นไปตามลำดับขั้นตอนของสภาและรอดูมติพรรคที่จะหารือทิศทางกันอีกครั้ง
“ผมอยากฝากถึงบางพรรคการเมือง ขอให้เลิกใช้วาทกรรมฝ่ายประชาธิปไตย ฝ่ายเผด็จการได้แล้ว เพราะเราผ่านการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยมาไม่ควรใช้วาทกรรมโจมตีพรรคอื่น ไหนบอกจะทำการเมืองแบบใหม่ แต่ก็ยังสาละวนกับวงจรเดิม ๆ อยู่” นายธนกร กล่าว
