POLITICS

‘ก้าวไกล’ ผิดหวัง ส.ว.-ส.ส. รับใบสั่งจากทำเนียบ

‘ก้าวไกล’ ผิดหวัง ส.ว.-ส.ส. รับใบสั่งจากทำเนียบ ลั่นไม่ร่วมสังฆกรรมระบอบสืบทอดอำนาจนายกฯ หวั่นเกิดเดดล็อคจน ‘ประยุทธ์’ เขียนกฎเอง

วันนี้ (7 ก.ค. 65) เวลา 11:05 น. พรรคก้าวไกล นำโดย นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล และ นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคก้าวไกล แถลงข่าวต่อกรณีรัฐสภาลงมติเห็นชอบสูตรคำนวณ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อด้วยการหาร 500

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า เมื่อคืนนี้การลงมติของรัฐสภา มิได้เป็นไปเพื่อออกแบบระบบการเลือกตั้งที่ดีให้กับประชาชน แต่เป็นการลงมติเพียงเพื่อความต้องการสืบทอดอำนาจของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชาเท่านั้น เป็นการลงมติที่อัปยศที่สุด

“พรรคก้าวไกลยืนยันว่าเราไม่เห็นด้วยกับการแก้ พ.ร.ป. การเลือกตั้งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ และจะคัดค้านอย่างถึงที่สุด รวมถึงคัดค้านการสืบทอดอำนาจของพลเอก ประยุทธ์ และร่วมมือกับพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยเพื่ออกจากระบอบประยุทธ์ให้ได้ ทั้งการผลักดันผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจและปมวาระการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีด้วย” เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าว

นายชัยธวัช ยังกล่าวถึงเส้นทางของร่างกฎหมายดังกล่าวในอนาคตว่า หากศาลรัฐธรรมนูญส่งความเห็นกลับมาว่าขัดรัฐธรรมนูญ สภาฯ ก็จะได้แก้ไขอีกครั้ง เราจะต่อสู้อย่างเต็มที่ให้เกิดการแก้ไขร่าง พ.ร.ป. ให้ชอบด้วยรัฐธรรมนูญให้ได้

“แต่สิ่งที่เราเป็นกังวลมากที่สุดคือ หากมีเจตนาจะสืบทอดอำนาจโดยไม่สนใจกระบวนการอะไรเลย การชุลมุนแบบนี้อาจนำไปสู่เดดล็อค ไม่มี พ.ร.ป. เลือกตั้งฯ แม้มีการยุบสภาฯ ก็เท่ากับกติกาเลือกตั้งอยู่ในมือ พลเอก ประยุทธ์ ต่อไปอีก” เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าว

ส่วน นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ชี้แจงในฐานะ กมธ. เสียงส่วนน้อยผู้แปรญัตติหาร 100 ว่า การแปรญัตติของผมที่ยื่นไปเพราะเห็นว่าร่างฯ กมธ. เสียงส่วนใหญ่ เป็นร่างที่ไม่รอบคอบ เพราะนำกฎหมายเลือกตั้งปี 54 มาใช้ผสมกับระบบเลือกตั้งปี 40 จนอาจเกิดปัญหา ส.ส. ปัดเศษได้

ด้าน นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส. จังหวัดพิษณุโลก พรรคก้าวไกล กล่าวว่า พรรคก้าวไกลเรามีจุดยืนสม่ำเสมอคือระบบการเลือกตั้งจะต้องออกแบบประณีตและเห็นแก่ประชาชน โดยใช้กระบวนการสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) แต่เมื่อกระท่อนกระแท่นแบบนี้ เราไม่มีตัวเลือกเลยนอกจากระบบคู่ขนานหารด้วย 100

“น่าผิดหวัง กมธ. เสียงส่วนใหญ่ที่ยืนยันมาตลอดว่าให้หาร 100 แต่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์กลับมีการเปลี่ยนท่าทีให้เอา 500 ให้ได้ นี่คือเรื่องที่ฝ่ายบริหารแทรกแซงฝ่ายนิติบัญญัติอย่างน่าสงสัยที่สุด อย่างไรก็ดี ระบบการเลือกตั้งรอบนี้ อย่างไรก็เป็นเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มอำนาจเดิม เราจะไม่ร่วมสังฆกรรมกับการสืบทอดอำนาจแน่นอน” นายปดิพัทธ์ กล่าว

สุดท้าย นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เราเชื่อว่าทุกคนรู้ว่าตอนแรกจะเป็นระบบหาร 100 แต่วันสองวันก็พลิกกลับ ผมสงสัยว่าไหนคือความอิสระของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่ท่านพูดเสมอ สุดท้าย ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาลไปคุยที่ทำเนียบตามที่เข้าใจ น้่นหมายความว่าไม่มีความเป็นอิสระอย่างแท้จริง กลับไปใช้ระบบหาร 500 เป็นความพยายามสืบทอดอำนาจ และคาดว่าจะมีต่อไปในภายภาคหน้า

“เราผิดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้นแบบนี้ นี่ไม่ใช่การออกแบบที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ประชาชนจริง เพราะคิดแค่ใครได้เปรียบเสียเปรียบ แตไม่มีประชาชนอยู่ในสมการเลย เรายืนยันทำหน้าที่ต่อไปอย่างเต็มที่” นายรังสิมันต์ กล่าว

Related Posts

Send this to a friend