POLITICS

สส.แจ้ เปิดคลิปเสียง-แชทไลน์ แฉ ‘ผู้ช่วย ส.’ ของ สส.ที่เป็น กก.บห. พรรค

เรียกรับผลประโยชน์บ่อขยะ จ.ปราจีนบุรี ตั้งใจเอาประเด็นคุกคามทางเพศเอาผิดตน และ กก.บห.ดังกล่าวมีส่วนในการสอบขับตนพ้นพรรค เมิน ‘มงคลกิตติ์‘ ชวนเข้าไทยศรีวิไลย์

วันนี้ (6 พ.ย. 66) ที่รัฐสภา นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี ที่ถูกพรรคก้าวไกลขับออกหลังพบพฤติกรรมคุกคามทางเพศ แถลงต่อสื่อมวลชนอีกครั้ง กรณีความไม่ชอบมาพากลในการขับตัวเองออกจากพรรคก้าวไกล โดยได้นำภาพหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่า มีความพยายามทำให้ตนอยู่ในพื้นที่ไม่ได้ หลังจากไปเจอและสืบทราบว่า “ผู้ช่วย ส.” ท่านหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ช่วย สส. หนึ่งในคณะกรรมการบริหารพรรค เกี่ยวพันกับการเอื้อรับผลประโยชน์จากโรงงานกำจัดขยะในพื้นที่ปราจีนบุรี​ หลายล้านบาท พร้อมโชว์หลักฐานแชท และคลิปเสียงการซื้อขายที่ดินดังกล่าว ก่อนที่จะนำหลักฐานส่วนนี้ให้กับพรรคก้าวไกล เพื่อตรวจสอบการทุจริต แต่กลับถูกเพิกเฉย เนื่องจากมีกรรมการบริหารพรรคท่านหนึ่ง เข้ามาชงเรื่องเอง ทำเอง ตรวจสอบเอง และสรุปเองว่า ไม่มีความผิด

นายวุฒิพงศ์ อธิบายถึงข้อสังเกตการทุจริตเรียกรับผลประโยชน์นั้น ผู้ช่วย ส. เป็นภาคประชาสังคมด้านสิ่งแวดล้อมในจังหวัดที่ค้านบ่อขยะทุกบ่อ ยกเว้นที่นี่ (บ่อขยะในเขต อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี) เพราะสามารถขายที่ดินติดบ่อขยะนี้ได้ พื้นที่ 5 ไร่ ในราคา 3.5 ล้านบาท สูงกว่าราคาประเมินที่ 1.7 ล้านบาท เป็นที่ดินที่ติดกับบ่อขยะ จึงเป็นที่น่าสงสัย กลิ่นขยะก็ยังอยู่ ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมก็ยังมี และเชื่อได้ว่า ผู้ช่วย สส. คนดังกล่าว จะใช้คอนเนคชั่นของตัวเองเคลียร์คำร้องในระดับต่างๆ ได้ และตั้งราคาสูงต่ำลดหลั่นกันไป

นายวุฒิพงศ์ จึงมั่นใจว่า การถูกขับออกของตน เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แน่นอน พร้อมเปิดภาพให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างผู้เสียหายที่ร้องสอบพฤติกรรมของตนกับ “ผู้ช่วย ส.” ว่าความสนิทสนมกัน และ”ผู้ช่วย ส.” คนนี้ก็เป็นคนพาผู้เสียหายคนดังกล่าวเข้ามาร้องเรียนตนถึงพรรค รวมถึงเดินสายให้สัมภาษ​ณ์สื่อ ที่อยู่ตรงข้ามพรรคก้าวไกล โดยอ้างว่าตนเองเป็นชาวบ้าน เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุกคามทางเพศ ก่อนจะนำไปสู่การขับตนออกจากพรรค โดยใช้เวลาแค่ 22 วัน ตนจึงไม่แน่ใจว่า ไปเหยียบเท้ากรรมการบริหารพรรคคนไหนหรือไม่ เพราะกรรมการบริหารพรรคท่านนี้ ก็พยายามเข้ามามีบทบาทในการตรวจสอบเรื่องคุกคามทางเพศของตน

นายวุฒิพงศ์ กล่าวว่า การออกมาแถลงต่อสื่อมวลชนอีกครั้ง ตนไม่ได้ต้องการขอความเป็นธรรมหรืออุทธรณ์มติพรรคใดๆ เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความไม่ชอบมาพากล และสิ่งที่ตนถูกกระทำ เพราะวันนี้ หากผู้แทนไม่สามารถปกป้องตนเองได้ ประชาชนก็ไม่ต้องพูดถึง นอกจากนี้ยัง อยากจะชี้แจงให้เพื่อน สส. ที่ลงมติขับตนออกเข้าใจข้อเท็จจริง เพราะ บางคนไม่เคยคุยกับตนด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตามตอนนี้อยู่ระหว่างพิจารณา ว่าจะยื่นขอความเป็นธรรมกับ กกต.หรือไม่

“ผมไม่ได้มีองคาพยพอะไร เชื่อว่าพรรคก็ต้องแถลง อยากจะพูดในมุมที่ให้ยอมรับบ้าง อย่าปฏิเสธ อะไรที่ว่าไม่เคยคุยกันเลย อะไรที่เก็บไว้ซุกไว้ ก็เอาออกมาคุยกันเยอะๆ ปัญหาจะได้ไม่เกิด” นายวุฒิพงศ์ กล่าวถึงพรรคก้าวไกล

นายวุฒิพงศ์ กล่าวอธิบายในข้อกล่าวหาดังกล่าว ว่าตนมีพยานหลักฐานทุกอย่าง ขาดเพียงสลิปโอนเงิน แต่ไม่ขอลงในรายละเอียด และตอนนี้ยังไม่ได้มีการตัดสินใจแจ้งความดำเนินคดีกับ “ผู้ช่วย ส.” เพราะอยากให้เห็นกระบวนการของพรรคก้าวไกลมากกว่า

ส่วนที่ “ผู้ช่วย ส.”ได้มีการฟ้องหมิ่นประมาทนายวุฒิพงศ์ ความคืบหน้าเป็นอย่างไร นายวุฒิพงศ์ กล่าวว่า ตนไม่สนใจเรื่องนี้ เพราะเขาไปแจ้งความไว้ตามสถานีตำรวจ และข้อมูลไม่เป็นไปตามความเป็นจริง

ส่วนความคืบหน้าในการย้ายเข้าสังกัดพรรคใหม่ตามกรอบเวลา 30 วัน นายวุฒิพงศ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คิด ขอลงพื้นที่พูดคุยกับชาวบ้านก่อน ว่า ชาวบ้านอยากจะให้เข้าสังกัดพรรคไหน ส่วนที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เอ่ยปากชวน เข้าสังกัดพรรคนั้น​ นายวุฒิพงศ์ กล่าวว่า นายมงคลกิตติ์ ถือเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัย แต่ส่วนตัวอยากจะทำงานกับพรรคที่สามารถทำงานได้เต็มที่มากกว่านี้

เมื่อถามว่านายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำ​องค์กร​รัก​ชาติ​รัก​แผ่นดิน​ ออกมาขู่ว่าถ้าพรรคไหนรับเข้าสังกัดพรรค จะร้องยุบพรรคดังกล่าวทันที นายวุฒิพงศ์ กล่าวว่า นายศรีสุวรรณ อาจจะยังไม่ได้เห็นข้อมูลจากฝั่งตน แต่ยืนยันว่าพร้อมชี้แจง

Related Posts

Send this to a friend