‘สมชัย’ ชี้เลือกตั้ง อบจ.ปทุมฯ ‘เพื่อไทย’ ขาดทุน
ใช้ทั้งชื่อพรรค-บุคคลสำคัญลงพื้นที่ช่วยยังชนะไม่ขาด มอง ‘ทักษิณ’ ใช้อภิสิทธิ์หลายเรื่อง ทำคะแนนนิยมเพื่อไทยลด
วันนี้ (6 ก.ค.67) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงผลการเลือดลกตั้งนากองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานีว่า ถ้ามองจากคะแนนเสียงรู้แล้วว่าชนะกันเพียงเล็กน้อย กรณีดังกล่าวต้องมองภาพให้ออกว่าการเลือกตั้งนายก อบจ. แตกต่างจากการเลือกตั้ง สส.ทั่วไป ที่มีการแบ่งเป็นเขต ซึ่งแต่ละเขตจะทดสอบคะแนนนิยมของคนในพื้นที่ แต่การเลือกตั้งเป็นจังหวัด คนที่จะแข่งขันต้องมีการวางเครือข่าย อาศัยนักการเมืองท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่ หรืออดีต สจ.ให้เป็นคนทำคะแนน ดังนั้นภาพของการแพ้หรือชนะการเลือกตั้งจะเป็นภาพรวมทั้งจังหวัด จำนวนเสียงแพ้ชนะที่เกิดขึ้นไม่มาก ไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกว่าการเลือกตั้ง สส.จะชนะหรือแพ้ เพราะการเลือกตั้ง สส.จะเป็นการแบ่งเขตใครเขตมัน มีความแตกต่างระหว่างพื้นที่เขตเมืองและพื้นที่รอบนอก
ส่วนการใช้แบรนด์และชื่อของพรรคการเมือง ในการเลือกตั้ง อบจ.ทำให้เห็นความต่างว่าฝั่งที่ชนะใช้ชื่อพรรค ใช้คนสำคัญของพรรคช่วยรณรงค์ ส่วนฝ่ายที่แพ้การเลือกตั้งเป็นการสมัครแบบอิสระ การใช้ชื่อของพรรค การใช้บุคคลสำคัญของพรรคทุ่มเท เพื่อให้ชนะยังขาดทุนอยู่ น่าจะชนะถล่มทลายมากกว่านี้ เพราะผลที่เกิดขึ้นเป็นการชนะแบบฉิวเฉียด ส่วนการร้องเรียนเรื่องทุจริตการเลือกตั้ง ขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายที่ลงเลือกตั้งด้วยกันจะเอาเรื่องดังกล่าวไปยื่นต่อ กกต.หรือไม่ เชื่อว่าการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น มีการใช้เงินและใช้อิทธิพลมาก และอาจใช้ทั้งสองฝ่าย แต่จะเอาจริงเอาจังกับหลักฐานที่เกิดขึ้นจนให้ใบเหลือง ใบแดง หรือใบส้มแก่ผู้ชนะหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ขึ้นอยู่กับว่า กกต.จะดำเนินการอย่างไร
เมื่อถามว่าการชนะกันไม่กี่คะแนนสะท้อนว่าพลังของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีแผ่วลงแล้วใช่หรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่านายทักษิณห่างเหินจากการเมืองไทยมาเป็นเวลานาน การกลับมาคนทั่วไปรู้สึกว่ามีการใช้อภิสิทธิ์หลายเรื่อง ทำให้คะแนนนิยมที่มีลดน้อยถอยลง แม้นายทักษิณพยายามเดินสาย สร้างผลกระทบทางการเมืองต่าง ๆ แต่ผลสำเร็จที่เกิดขึ้นยังได้ไม่เท่าที่ควร เป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยและนายทักษิณต้องประเมินว่าหากอยากทำการเมืองระดับประเทศให้พรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นที่นิยม วิธีการที่เป็นอยู่ปัจจุบันใช้แล้วเกิดประโยชน์จริงหรือไม่