POLITICS

‘อนุทิน-ศักดิ์สยาม’ ติดตามผลการดำเนินงานการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

วันนี้ (6 ก.ค. 65) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ครั้งที่ 2/2565 (ครั้งที่ 4) ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารรัฐสภา โดยมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรองประธานกรรมการ และมีกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม มีผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร เป็นกรรมการและเลขานุการ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การประชุมในวันนี้ สืบเนื่องมาจากนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมเพิ่มขีดความสามารถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งได้มีการประชุมมาแล้ว 3 ครั้ง โดยตามมติที่ประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 1/2565 (ครั้งที่ 3) ได้มอบหมายให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ดำเนินการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารหลักด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ซึ่งคณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการฯ ไว้แล้ว และเร่งรัดศึกษาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization : ICAO) เพื่อให้คณะกรรมการฯ ได้มีข้อมูลมาประกอบการพิจารณาร่วมกับผลการศึกษาของสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association : IATA) ซึ่งศึกษาแล้วเสร็จเมื่อเดือนสิงหาคม 2564

นอกจากนี้ การประชุมในวันนี้ ได้มีการติดตามผลการดำเนินงานตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2565 ซึ่งได้มอบหมายให้คณะกรรมการฯ พิจารณาข้อร้องเรียนของเอกชนคู่สัญญาโครงการสนามบินอู่ตะเภาฯ

โดยตรวจสอบผลกระทบจากทั้ง 2 สนามบิน (ดอนเมือง/สุวรรณภูมิ) ต่อสนามบินอู่ตะเภาด้วย ดังนี้

1) ความก้าวหน้าการดำเนินงานจ้าง ICAO เพื่อศึกษาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่ประชุมรับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงานเพื่อจ้าง ICAO ซึ่งขณะนี้ ทอท. อยู่ระหว่างหารือร่วมกับสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาร่างข้อตกลง (Agreement) สำหรับการจ้าง ICAO ศึกษาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อให้ได้ข้อสรุปแนวทางการดำเนินงานตามกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง ก่อนลงนามในสัญญาจ้าง โดยคาดว่าสำนักงานอัยการสูงสุดจะพิจารณาร่างข้อตกลงแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2565

2) ความก้าวหน้าการดำเนินงานเพื่อก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารหลักด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ที่ประชุมรับทราบแนวทางการปรับแบบอาคารผู้โดยสารส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออก เพื่อให้สอดคล้องกับบริบททางการบินในปัจจุบัน โดยใช้ระยะเวลา 7 เดือน แล้วเสร็จประมาณเดือนธันวาคม 2565 และจะนำเสนอคณะกรรมการ ทอท. ก่อนนำเสนอ ครม. พิจารณาเห็นชอบตามขั้นตอนต่อไป ดังนั้น คาดว่าจะดำเนินการจัดหาผู้รับจ้างและก่อสร้างได้ในปี 2566 ใช้ระยะเวลา 29 เดือน แล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2568 ซึ่งจะทำให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีความพร้อมรองรับผู้โดยสารที่คาดว่าจะกลับมาในระดับประมาณ 65 ล้านคนต่อปี เท่ากับช่วงก่อนเกิดโรคโควิด-19 ได้ในปี 2568

3) การดำเนินงานตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2565 ที่ประชุมมอบหมายให้ ทอท. พิจารณาตรวจสอบข้อสัญญาและเงื่อนไขการร่วมลงทุนโครงการสนามบินอู่ตะเภาฯ ให้ชัดเจนว่า การพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมือง ของ ทอท. มีลักษณะส่งผลกระทบต่อการประกอบการ และ/หรือการดำเนินโครงการฯ และวัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการสนามบินอู่ตะเภาฯ อันเป็นการกระทำที่ผิดต่อสัญญาร่วมลงทุนตามข้อใดหรือไม่ อย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อพิพาทและฟ้องร้องต่อรัฐได้ และให้กระทรวงคมนาคมมีหนังสือแจ้งยืนยันผลการพิจารณาไปให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ทราบด้วย

Related Posts

Send this to a friend