POLITICS

มูลนิธิสืบฯ แถลงการณ์ ฉ.3 ชี้ นายกฯ – ทส. ไร้ความจริงใจแก้ปัญหา – คืนความเป็นธรรม

วันนี้ (6 ก.พ. 66) มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 3 กรณี นายรัชฏา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ถูกกล่าวหาว่าเรียกรับเงินการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งจากผู้ใต้บังคับบัญชา รายละเอียดตามที่ปรากฎเป็นข่าว และในวันที่ 3 ก.พ. 66 นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เผยถึงความคืบหน้าการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง นายรัชฎา ว่า ได้มีการออกคำสั่ง ให้ นายรัชฎา ออกจากราชการ ตามกฎ ก.พ. ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ. 2556 ข้อ 83 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ. 66 เป็นต้นไป

มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในครั้งนี้ที่ให้ความสำคัญและให้ นายรัชฎา สุริยกุล ออกจากราชการการไว้ก่อนนั้น ย่อมช่วยรักษาภาพพจน์ของข้าราชการไว้ได้ แต่มูลนิธิสืบฯ ยังคงมีข้อกังวลถึงกระบวนการตรวจสอบในครั้งนี้และตั้งข้อสังเกตถึงกรณีการตั้งคณะกรรมการการแก้ไขปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ที่ไม่มีตัวแทนหรือหน่วยงานภายนอกเข้ามาร่วมในกระบวนการพิจารณา จึงขอแถลงการณ์ต่อข้อกังวลดังกล่าว ดังนี้

1.จากการแถลงข่าวของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดย ดร.รุ่งนภา พัฒนวิบูลย์ รองอธิบดีกรมอุทยานฯ ยังขาดความชัดเจนในกระบวนการพิจารณาเเก้ไขปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม เช่น ขาดกรอบการพิจารณาและระยะเวลาที่ชัดเจน หรือการนำเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ (Career Path) มาใช้ในการพิจารณาทั้งระยะเร่งด่วนและระยะยาว เพราะการไม่นำระบบ Career Path มาใช้ประกอบการพิจารณาควบคู่กับการพิจารณาคำร้องของผู้ถูกโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรมจะไม่สามารถนำไปสู่การแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2.ปัจจุบัน ผลของการโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรมก่อให้เกิดการทุจริตการบริหารงานในพื้นที่ให้เห็นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะหัวหน้าพื้นที่ต้องการเพิ่มรายได้จากโครงการต่างๆ จากเงินรายได้นักท่องเที่ยว ฯลฯ เพื่อส่งให้กับผู้บริหาร และผู้เข้ามาทำหน้าที่ขาดความรู้ ความเข้าใจ ในการบริหารพื้นที่อนุรักษ์อย่างแท้จริง ส่งผลให้งานดูแลคุ้มครองพื้นที่ขาดประสิทธิภาพและกระทบต่อระบบนิเวศในพื้นที่อย่างรุนแรง เช่น ไม่มีการประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวตามกติกาเพื่อให้แหล่งท่องเที่ยวและทรัพยากรธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติเกิดการฟื้นตัว ไม่มีการควบคุมปริมาณนักท่องเที่ยวตามขีดความสามารถในการรองรับ โดยเปิดให้เข้าพื้นที่อย่างเสรีในช่วงเวลาสำคัญแบบไม่จำกัดรอบและที่สำคัญไม่เร่งดำเนินการนำระบบตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket) มาใช้เพื่อให้เกิดระบบการจำหน่ายบัตรและการควบคุมนักท่องเที่ยว บริหารจัดการด้วยความอย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ

3.ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมอุทยานแห่งชาติฯ และนายกรัฐมนตรี ไม่มีความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหาคืนความเป็นธรรมให้กับบุคลากรในกรมอุทยานฯ ขาดธรรมาภิบาลในการบริหารองค์กร มีแต่ประวิงเวลาและจบไปพร้อมกับการยุบสภาเพื่อหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ

Related Posts

Send this to a friend