POLITICS

การรถไฟฯ แจงยิบ งบฯ 33 ล้านไม่ใช่แค่ค่าปรับปรุงป้ายสถานีกลางบางซื่อ

วันนี้ (6 ม.ค. 66) การรถไฟแห่งประเทศไทย ชี้แจงเพิ่มเติม กรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการปรับปรุงป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อ เป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ โดยใช้งบประมาณปรับปรุงป้ายชื่อ สูงถึงตัวอักษรละ 5 แสนบาท ว่า เป็นเรื่องที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงอย่างมาก

ทั้งนี้ โครงการปรับปรุงป้ายชื่อสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ดังกล่าว ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนป้ายชื่อจำนวน 56 อักษร อย่างที่มีการตั้งข้อสังเกต ในความจริง มีการปรับปรุงป้ายชื่อมากถึง 112 ตัวอักษร (110 ตัวอักษร กับ 2 ตราสัญลักษณ์ฯ) เพราะมีการติดตั้งป้ายชื่อสถานีอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง ทั้งบริเวณโดมด้านหน้าสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก และยังมีจำนวนตัวอักษรที่เพิ่มขึ้นจากป้ายเดิมอีกด้วย

สำหรับรายละเอียดของการติดตั้งตัวอักษร ได้แบ่งเป็นตัวอักษรภาษาไทยฝั่งละ 24 ตัวอักษร อักษรภาษาอังกฤษฝั่งละ 31 ตัวอักษร และตราสัญลักษณ์การรถไฟฯ ฝั่งละ 1 ตราสัญลักษณ์ ซึ่งหากรวมทั้ง 2 ฝั่ง จะมีการติดตั้งอักษรภาษาไทยรวมถึง 48 ตัวอักษร อักษรภาษาอังกฤษรวม 62 ตัวอักษร และ 2 ตราสัญลักษณ์ของการรถไฟฯ รวมทั้งสิ้น 112 ตัวอักษร (110 ตัวอักษร กับ 2 ตราสัญลักษณ์ฯ)

ส่วนการกำหนดขอบเขตของงานโครงการฯ ในวงเงิน 33 ล้านบาทนั้น ไม่ได้มีเพียงแค่ค่าใช้จ่ายการปรับปรุงป้ายชื่อตัวอักษรเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงงานรื้อถอน การเปลี่ยนผนังกระจก โครงผนังกระจกอะลูมิเนียม การจัดทำระบบไฟแสงสว่าง ค่าการออกแบบด้านวิศวกรรมโครงสร้าง และรูปแบบการติดตั้งที่มีขอบเขตงานที่เกี่ยวกับการรื้อถอนของเดิม และติดตั้งของใหม่ที่กระทบต่อโครงสร้างของอาคารสถานีที่ดำเนินการก่อสร้างเสร็จแล้ว

ตลอดจนมีการกำหนดการรับประกันความชำรุดบกพร่องภายในขอบเขตงานอีก 365 วันด้วย รวมถึงความรับผิดชอบบำรุงรักษางานระบบไฟแสงสว่าง ที่ไม่มีค่าใช้จ่ายที่การรถไฟแห่งประเทศไทยจะจ่ายให้ แต่ผู้รับจ้างต้องรับผิดชอบตลอดระยะเวลาการรับประกันผลงาน โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

งานส่วนที่ 1 งานโครงสร้างวิศวกรรม : งานรื้อถอนผนังกระจก 85 ตารางเมตร โครงผนังกระจก 188 ตารางเมตร และป้ายสถานีเดิม 2 ฝั่ง เป็นเงิน 4,098,329.16 ล้านบาท , งานโครงสร้างเหล็ก น้ำหนักเหล็ก 13,014 กิโลกรัม เป็นเงิน 1,524,824.35 บาท , งานกระเช้าไฟฟ้ารองรับการทำงานที่สูง 28 เมตร เป็นเงิน 605,368.00 บาท

งานส่วนที่ 2 งานสถาปัตยกรรม : การจัดหาและติดตั้งกระจกชุดใหม่ ที่ต้องสั่งหล่อเป็นพิเศษโดยเว้นรูเจาะให้พอดีจุดยึดโครงเหล็กกับตัวอักษรแต่ละตัวไว้ล่วงหน้า เป็นเงิน 2,657,882.85 บาท , งานจัดหาและติดตั้งโครงกระจกอะลูมิเนียม เป็นเงิน 2,094,915.02 บาท , งานจัดหาติดตั้งป้ายที่มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และสัญลักษณ์การรถไฟฯ ทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตก รวม 110 ตัวอักษร และ 2 ตราสัญลักษณ์ เป็นเงิน 19,642,043.52 บาท

งานส่วนที่ 3 งานออกแบบรายละเอียดพร้อมรายการคำนวณ : งานออกแบบด้านวิศวกรรมโครงสร้าง และรูปแบบการติดตั้ง เป็นเงิน 918,700.89 บาท

งานส่วนที่ 4 งานเผื่อเลือก (Provisional Sum) : งานติดตั้งและรื้อถอนวัสดุปิดแทนกระจกระหว่างเปิดใช้งาน เป็นเงิน 1,627,662.60 บาท แต่ในส่วนรายการนี้ ได้กำหนดไว้ว่า จะจ่ายให้ก็ต่อเมื่อผู้ว่าจ้างสั่งให้ดำเนินการ สำหรับงานติดตั้งและรื้อถอนวัสดุปิดแทนผนังกระจก เช่น แผ่นผนังอะครีลิกใส เป็นต้น เพื่อป้องกันไม่ให้ลมหรือฝนสาดเข้าตัวอาคารสถานี ระหว่างที่รอการผลิตและติดตั้งผนังกระจกใหม่ โดยในกรณีที่ผนังกระจกใหม่สามารถผลิตและติดตั้งให้แล้วเสร็จได้ทันภายใน 90 วัน ยอดเงินเผื่อจ่าย (Provisional Sum) รายการนี้ผู้ว่าจ้างก็จะไม่ต้องสั่งให้ผู้รับจ้างดำเนินการและผู้รับจ้างก็จะไม่สามารถขอเบิกจ่ายเงินค่าจ้างได้ ซึ่งก็คือ ถ้าไม่ต้องดำเนินการก็จะไม่ต้องจ่ายเงินค่าจ้างรายการนี้ การรถไฟฯ ก็จะสามารถประหยัดเงินค่าจ้างลงได้ส่วนหนึ่งด้วย

ดังนั้น เห็นได้ว่าการตั้งข้อสังเกตที่ระบุว่า การรถไฟฯ ใช้งบประมาณในการปรับปรุงป้ายชื่อสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ในราคาตัวอักษรละ 5 แสนบาท จึงไม่ใช่ความจริง เพราะในข้อเท็จจริงมีการติดตั้งตัวอักษรมากถึง 112 ตัวอักษร ไม่ใช่ 56 ตัวอักษร อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายการดำเนินงานอื่น ๆ เข้าไปรวมอยู่ในเนื้องานอีกจำนวนมากด้วยและที่สำคัญราคาการเปลี่ยนป้ายชื่อดังกล่าวยังสอดคล้องกับราคาประมาณการของชมรมป้าย ซึ่งประเมินค่าใช้จ่ายตัวอักษร เนื่องจากขนาดตัวอักษร

ป้ายชื่อมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ มีความสูงถึง 3 เมตร กว้าง 2.6 เมตร หนา 40 เซนติเมตร มีความยาวของป้ายใหม่รวม 60 เมตร ตามจำนวนอักษรของชื่อพระราชทาน ในส่วนที่เป็นอักษรภาษาอังกฤษ มีความสูง 2.1 เมตร กว้าง 2.2 เมตร หนา 40 เซนติเมตร อีกทั้งยังผลิตด้วยวัสดุพิเศษ เป็นอะคริลิกสีขาวนม ยกขอบ ซึ่งมีความทนทานต่อแดดและฝน รวมถึงซ่อนไฟแสงสว่างไว้ด้านหลังป้ายด้วย ขณะที่ตราสัญลักษณ์ของการรถไฟฯ ยังมีความสูงถึง 7 เมตรเช่นกัน

ส่วนประเด็นการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับความเหมาะสม ในการใช้วิธีจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจงนั้น การรถไฟฯ ขอชี้แจงเหตุผลที่ต้องจ้างโดยวิธีดังกล่าว เนื่องจากการจ้างปรับปรุงป้ายชื่อสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นการจ้างปรับปรุงงานก่อสร้างที่ได้ดำเนินงานก่อสร้างจนแล้วเสร็จเรียบร้อยแล้ว และยังอยู่ระหว่างการรับประกันความชำรุดบกพร่องของกิจการร่วมค้า เอส ยู

ประกอบด้วย บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) โดยบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างสถานี ซึ่งงานจ้างปรับปรุงฯ นี้ มีขอบเขตงานที่เกี่ยวกับการรื้อถอนของเดิมและติดตั้งของใหม่ที่กระทบต่อโครงสร้างของอาคารสถานีที่ดำเนินการก่อสร้างเสร็จแล้ว ย่อมส่งผลต่อการรับประกันความชำรุดบกพร่องของงาน การรถไฟฯ จึงได้กำหนดขอบเขตของงานให้ผู้รับจ้างต้องดำเนินงานภายใต้เงื่อนไข ข้อกำหนดรายการจำเพาะ ตามขอบข่ายวัตถุประสงค์ ของโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต สัญญาที่ 1 ซึ่งมีเพียงบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไข จึงเป็นไปตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 56 (2) (ค) ที่ให้หน่วยงานของรัฐสามารถดำเนินการจัดจ้างจากผู้ประกอบการซึ่งมีคุณสมบัติโดยตรงเพียงรายเดียว ซึ่งถือเป็นการดำเนินการตามระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และหลักธรรมมาภิบาลทุกประการ

Related Posts

Send this to a friend