POLITICS

‘สมคิด’ เปิดนโยบาย พักหนี้ 5 ปี เพิ่มทุน ธ.ก.ส. ปรับโครงสร้างหนี้

พร้อมต่อยอด OTOP เติมเงินกองทุนหมู่บ้าน ผุดนโยบาย “ปุ๋ยคนละครึ่ง” หนุนปัจจัยการผลิตให้เกษตรก

วันนี้ (5 พ.ย. 65) ที่ จ.อุบลราชธานี พรรคสร้างอนาคตไทย นำโดย ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรค กล่าวเปิดนโยบายพรรคสร้างอนาคตไทย ว่า วันนี้ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย ไม่สบายจึงไม่ได้เดินทางมาด้วย แต่ได้ฝากมาบอกว่า พวกท่านไม่ได้อยู่โดดเดี่ยว พวกเราอยู่กับท่านเสมอ ตนเองไม่ใช่คนพูดมาก พูดคำไหนไม่เคยลืม จะพยายามทำให้ดีที่สุดในสิ่งที่ได้สัญญาไว้ ไม่ว่าในยุคสมัยไหน

สำหรับที่มาในวันนี้ ตนไม่ได้บอกว่าจะเป็นนายกฯ แต่ตนบอกว่าขอให้ชาวอีสานพ้นทุกข์ เพราะความทุกข์ที่มีอยู่นี้เราเห็นมาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่มาอีสานเพื่อพบกับพี่น้องประชาชน ทุกครั้งที่มาอีสานมีทั้งสุขและทุกข์ ความสุขคือทำให้คิดถึงความหลังเมื่อเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา สมัยนั้นที่ได้ร่วมก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ด้วยอุดมการณ์ว่าจะทำให้มีพรรคการเมืองที่ดี ทำประโยชน์ให้พี่น้อง ไม่มีการแบ่งแยกฝ่าย ไม่แบ่งแยกคนรวย คนจน คนชั้นกลาง ทุกคนเป็นคนไทยเหมือนกัน วันนั้นมีความสุขมาก เป็นความสุขในชีวิตที่ได้พยายามคิดค้นสิ่งที่มีประโยชน์กับชาวบ้านและมีโอกาสเข้าไปทำจริง มีความสุขที่ได้เห็นรอยยิ้มของชาวบ้าน

ดร.สมคิด กล่าวว่า เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่ได้มีการดำเนินนโยบายพักหนี้เกษตรกร 3 ปี แต่พักหนี้อย่างเดียวไม่พอเพราะส่วนใหญ่จะมีหนี้นอกระบบ ในฐานะที่กำกับดูแลธนาคารออมสิน จึงได้ประกาศนโยบาย ธนาคารประชาชนปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กับคนยากจน นำหนี้นอกระบบเข้ามาอยู่ในธนาคารออมสิน และยังได้รับมอบหมายให้จัดสรรงบประมาณเพื่อประกันราคาข้าว แต่ไม่ใช่จำนำตะบี้ตะบัน เราทำเพื่อชี้นำตลาด ไม่ให้พ่อค้าคนกลางกดราคา เราไม่เอาประกันรายได้ เพราะจุดรั่วไหลมีเยอะมาก ซึ่งได้กำชับหน่วยงานในกำกับดูแลไม่ให้มีการทุจริตเรื่องข้าวและกำหนดราคามาตรฐานไม่เปิดช่องโหว่ให้พ่อค้าคนกลางเอาเปรียบชาวนา และยังมีการจัดตั้งกองทุนหมู่บ้าน ใช้งบประมาณ 76,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการกระจายเงินสู่ชนบทหมู่บ้านละ 1 ล้านบาททั่วประเทศ

อย่างไรก็ตาม ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่า เราละลายเงินไปสู่สิ่งที่สูญเปล่า แต่เขาไม่รู้ว่าที่จริงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกษตรกร ชาวนาชาวไร่ คนยากจน ได้เริ่มต้น ทุกอย่างมีข้อดีข้อเสีย แต่ถ้าเมื่อไหร่ข้อดีมากกว่าข้อเสีย ตนจะลืมตรงนั้นแล้วดำเนินการไปให้ถึงที่สุด และยังมีสิ่งที่ภูมิใจคือการเริ่มโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือ OTOP เพื่อให้ชุมชนเริ่มผลิตสินค้าชุมชน รวมถึงการสร้างมาตรฐาน ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างรายได้ให้กับประชาชน จนกระทั่งมีการยุบพรรคไทยรักไทย ซึ่งแม้พรรคไทยรักไทยถูกยุบไปแล้ว และตัวเองต้องเว้นวรรคทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี แต่อยากจะบอกว่า ‘ถึงแม้พรรคถูกยุบไปแล้วแต่สมคิดยังอยู่’ คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราสามารถสร้างอนาคตให้กับลูกหลานได้ ให้เขาใฝ่ดี ใฝ่รู้ รักการศึกษา ไม่เสเพล ไม่ติดยาเสพติด ทุกคนก็สามารถสร้างอนาคตที่ดีให้กับลูกหลานได้

ดร.สมคิด กล่าวว่า สำหรับนโยบายของพรรคสร้างอนาคตไทยที่จะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอีสานดีขึ้น เราจะพักหนี้ พักเงินต้น พักดอกเบี้ย เป็นเวลา 5 ปี และต้องมีการเติมเงินใหม่ มีการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งไม่ใช่นำเงินที่ได้จากการปล่อยสินเชื่อไปตัดดอก แต่ต้องนำเงินไปชำระเงินต้น เพื่อให้ดอกเบี้ยลดลง ทุกอย่างอยู่ที่นโยบาย ส่วนการประเมินผลการดำเนินงานของ ธ.ก.ส. จะพิจารณาจากการที่สามารถช่วยเหลือเกษตรกรที่ยากจนให้เข้มแข็งขึ้นได้กี่ราย ไม่ใช่วัดจากกำไร หรือ หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อย่างในปัจจุบัน ซึ่งในปีที่ผ่านมา ธ.ก.ส. มีเอ็นพีแอล 17 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าสูงมาก ทำให้ไม่สามารถปล่อยสินเชื่อได้ เพราะต้องรักษาระดับเอ็นพีแอลไว้ตามนโยบายของรัฐบาล แต่ถ้าทำแบบนี้แล้วชาวนาครึ่งประเทศอดตายคุณก็อยู่ไม่ได้ ดังนั้น จึงจะมีการเพิ่มทุนให้ ธ.ก.ส. เพื่อแก้ปัญหาเอ็นพีแอล ซึ่งหาก ธ.ก.ส. มีวงเงินปล่อยสินเชื่อให้กับเกษตรกรได้ 50,000 ล้านบาท ก็จะสามารถต่อยอดให้กับเกษตรกรได้ถึง 100,000 ล้านบาท

รวมถึงจะมีการปรับโครงสร้างหนี้ โดยเจรจาลดดอกเบี้ย ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น น้ำท่วม เพื่อลดภาระให้เกษตรกร รวมถึงผลักดันให้มีกระทรวงน้ำ เพื่อให้มีผู้รับผิดชอบในการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง

นอกจากนี้ จะมีการต่อยอดโครงการ OTOP ให้ไปถึงระดับหมู่บ้าน OTOP ไปถึงแหล่งผลิต นำนักท่องเที่ยวเข้ามาเพื่อจำหน่ายไปต่างประเทศ รวมทั้งจะมีการเติมเงินให้กองทุนหมู่บ้าน ซึ่งกลไกของกองทุนหมู่บ้านไม่ใช่มีหน้าที่แค่ปล่อยสินเชื่อ แต่ต้องเติมเงินให้กองทุนหมู่บ้าน เพื่อพัฒนาให้แต่ละชุมชนต้องมีสินค้าชุมชน โรงสีชุมชน แหล่งท่องเที่ยวชุมชน เพื่อให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนภายในหมู่บ้านด้วย

“…สำหรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราคิดขึ้นมาก็จะดำเนินการต่อยอด แต่ยังไม่บอกในขณะนี้จะเก็บไว้เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับพวกท่าน ตนไม่ได้เป็นคู่แข่งกับพรรคพลังประชารัฐ ใครจะคิดแข่งก็สามารถคิดนโยบายแข่งมาได้ ซึ่งเป็นเรื่องดีที่ประชาชนจะได้ประโยชน์ นักการเมืองไม่ว่าพรรคไหน อย่ามาบอกว่าพรรคนี้ประชาธิปไตย พรรคนี้เผด็จการ ทุกคนคือประชาธิปไตยทั้งนั้น อยู่ที่การนำเสนอนโยบาย ต้องถามประชาชนว่าคุณเชื่อมั่นพรรคไหน คุณมั่นใจคนไหน ถ้ามั่นใจสมคิดก็เลือกพรรคสร้างอนาคตไทยพรรคเดียว เราไม่สร้างแลนสไลด์แต่เราจะสร้างสึนามิ…” ดร.สมคิด กล่าว

นอกจากนี้ ยังจะใช้นโยบายคนละครึ่งกับเรื่องปุ๋ย โดยในหนึ่งฤดูการผลิต รัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณให้ครึ่งหนึ่ง เพื่อสนับสนุนปัจจัยการผลิต ซึ่งมองว่าราคาปุ๋ยมีโอกาสจะแพงขึ้นอีก จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือเกษตรกร ขณะเดียวกัน ยังจะมีการแก้ไขกฎหมายที่ล้าสมัย ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้องดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกร นี่คือคำสัญญา

รวมถึงจะมีการสร้างรายได้จากพลังงานชุมชน จะมีการต่อยอดกองทุนหมู่บ้านที่มีมากกว่า 70,000 หมู่บ้าน โดยให้การศึกษาเพื่อให้เกิดเป็นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ จะมีการประกาศนิคมอุตสาหกรรมเกษตร ทำเกษตรสีเขียว เกษตรแปรรูป นี่คือวิธีการ เอางานมาให้คนอีสาน ไม่ใช่ให้คนอีสานออกไปหางานข้างนอก ไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัยนโยบายนี้ไม่เปลี่ยน

“…ถ้าเชื่อใจสมคิด ขอให้เลือกทีมสมคิด เลือก ส.ส. ที่มีรูปถ่ายกับสมคิดและอุตตม ขอให้ช่วยกันเลือกพรรคสร้างอนาคตไทย…” ดร.สมคิด กล่าว

Related Posts

Send this to a friend