ใช้ของมือสองสบายใจสบายกระเป๋า ทำความสะอาดถูกวิธีช่วยเซฟเงินได้อีกเยอะ

คนรักของมือสองหลายคนที่มักหงุดหงิด เกี่ยวกับความกังวลเรื่องการทำความสะอาดสิ่งของเครื่องใช้ second hand โดยเฉพาะเครื่องนุ่งห่มยอดฮิต ในช่วงที่บ้านเราอากาศเย็น อาทิ เสื้อกันหนาว รองเท้ามือสอง ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอนมือสอง ถือเป็นไอเท็มที่ได้รับความนิยม ไม่แพ้สินค้ามือหนึ่งแกะป้าย เพราะนอกจากราคาจะถูกลงกว่าครึ่งแล้ว แต่ยังให้คุณหนุ่มๆสาวแต่งตัวกันได้อย่างไม่มีลิมิต หรือเปลี่ยนผ้าปูที่นอนหมอนมุ้ง ได้อย่างไม่กระทบเงินในกระเป๋าแต่อย่างใด

ล่าสุด “พญ.ณัฐชญา ไมตรีเวช” แพทย์ทางเลือกเวชศาสตร์ชะลอวัย เจ้าของคลินิคเสริมความงาม NATCHAYA CLINIC (ณัฐชญา คลินิค) มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับดูแลทำความสะอาด เครื่องนุ่งห่มมือสองไว้น่าสนใจ โดยเฉพาะโรคผิวหนังยอดฮิตอย่าง “โรคหิด” ที่หลายคนไม่ทราบมาก่อน ซึ่งพบได้ในเสื้อกันหนาวมือสองแถบบริเวณภาคเหนือของบ้านเรา

หมอชะลอวัย แนะ ซื้อเสื้อกันหนาวมือสอง “ต้ม” ทำความสะอาด วิธีคลาสสิคฆ่าเชื้อได้

พญ.ณัฐชญา ไมตรีเวช (หมอกุ๊กไก่) แพทย์ผู้บริหารสถานเสริมความงามณัฐชญาคลินิก ให้ข้อมูลว่า “ ของมือสองทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อกันหนาว ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน รองเท้ามือสองนอกจากโรคผิวหนังที่เราพบได้ทั่วไปอย่าง กลาก เกลื้อน เชื้อราในร่มพรากแล้ว เรายังพบ โรคหิด ที่เป็นโรคผิวหนังยอดฮิตในเสื้อกันหนาว ที่บริจาคมายังบริเวณภาคเหนือของไทยด้วยเช่นกัน ซึ่งโรคผิวหนังดังกล่าวพบได้ในแถบทางภาคเหนือ แม้จะยังไม่ถือว่าเยอะมาก แต่ก็เป็นพื้นที่ที่พบได้มากกว่าภาคอื่นๆ เนื่องจากเสื้อกันหนาวมือสองยังไม่ได้ซักทำความสะอาด ดังนั้นการทำความสะอาด เสื้อกันหนาวมือสอง สิ่งสำคัญ หมอแนะนำให้ต้มด้วยความร้อน แม้ว่าจะเป็นวิธีที่คลาสสิคแต่ก็ยังได้อยู่ จากนั้นจึงค่อยนำไปแช่และซักในผงซักฟอก ตามด้วยการตากแดดให้นานที่สุด เพราะโรคหิดนั้นไม่สามารถฆ่าหรือทำลายได้ ด้วยการแช่น้ำยาฆ่าเชื้อตามท้องตลาด

“นอกจากการต้มเสื้อผ้าเพื่อฆ่าเชื้อโรคหิดแล้ว การตากแดดเสื้อผ้าให้นานที่สุด ก็เป็นวิธีกำจัดเชื้อโรคได้ดีเช่นเดียวกัน แม้ว่ามันจะไม่ 100 % แต่ก็ถือว่าปลอดภัยถึง 90 % จึงเป็นวิธีที่ใช้ได้ค่ะ ส่วนคำถามว่าน้ำยาฆ่าเชื้อที่ได้รับความนิยมอย่าง “เดทตอล” สามารถแช่ทำความเสื้อผ้ามือสองได้หรือไม่ ต้องบอกว่าน้ำยาเดทตอลนั้นมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อราได้เป็นอย่างดีค่ะ แต่อาจมีปัญหาว่าเสื้อกันหนาวบางชนิดนั้น ตัวเนื้อผ้าเสี่ยงต่อการสีตก หรือมีความเป็นขุยอยู่แล้ว หากแช่ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อดังกล่าว อาจยิ่งทำให้เสื้อผ้าเป็นขุยได้ ดังนั้นจำเป็นต้องแช่น้ำยาเดทตอล ในเสื้อกันหนาวที่ไม่เป็นขุย หรือเนื้อผ้าทนได้ดีกับน้ำยาเดทตอลค่ะ” หมอกุ๊กไก่ กล่าว

ทำความสะอาดที่นอน ผ้านวม ไปจนถึงรองเท้ามือสองต้องทำอย่างไร

ส่วนวิธีทำความสะอาด “ผ้าปูที่นอนมือสอง” การต้มก็ยังเป็นวิธียอดฮิต คุณหมอแนะนำว่าให้ต้มผ้าปูที่นอนด้วยความร้อน จากนั้นนำมาแช่และซักด้วยผงซักฟอก และนำไปตากแดดให้นานๆ ก็สามารถนำมาใช้ได้แล้ว

สำหรับ “ผ้านวมมือสอง” การทำความสะอาดนั้น เนื่องจากเป็นผ้าที่ไม่สามารถต้มเพื่อฆ่าเชื้อได้ แนะนำให้ซักทำความสะอาดด้วยผงซักฟอก 1 รอบ จากนั้นนำมาแช่น้ำยาเดทตอลสักพัก และนำกลับไปทำความสะอาด ด้วยผงซักฟอกอีกครั้ง และตากแดดให้นานๆ ก็จะได้ผ้านวมมือสองผืนใหม่ที่สะอาดไว้ใช้แล้ว ส่วนใครที่ซื้อ “ที่นอนมือสอง” มาใช้ก็ถือว่าทำได้ค่ะ แต่แนะนำว่าให้ตากแดดให้นานทั้งสองด้านเช่นเดียวกัน เนื่องจากที่นอนไม่สามารถซักทำความสะอาดได้เหมือนผ้าห่ม หรือหากซื้อเครื่องดูดฝุ่นมาทำความสะอาดสินค้ามือสอง อาจจะไม่คุ้มค่า หรือไม่เซฟค่าใช้จ่ายเท่าที่ควรค่ะ

ส่วนการทำความสะอาด “รองเท้ามือสอง” หมอแนะนำว่า หากไม่ใช่รองเท้าหนัง แต่เป็นรองเท้าผ้าใบ สามารถใช้สเปรย์แอลกอฮอล์ฉีดทำความสะอาดได้เลย แต่หากเป็นรองเท้าหนัง แนะนำว่าให้ใช้น้ำยาไฮโปคลอรัส ที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามท้องตลาด หรือปัจจุบันมีเครื่องผลิตน้ำยาไฮโปคลอรัสจำหน่าย ซึ่งคุณสมบัติของน้ำยาไฮโปคลอรัส จะมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักหรือ H2O ดังนั้นในน้ำยาดังกล่าวจะมีการเพิ่มโมเลกุลของน้ำเข้าไปอีก จึงทำให้น้ำมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโรคได้ดี ทั้งเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัสต่างๆ โดยใช้น้ำยาน้ำยาไฮโปคลอรัส เช็ดทำความสะอาดรองเท้าหนัง

ย้ำภูมิแพ้ไม่เกี่ยวกับการใช้ของมือสอง

“หลายคนที่ตั้งข้อสังเกตว่าการใช้เสื้อผ้าหรือสินค้ามือสอง มีส่วนทำให้เป็นโรคภูมิแพ้ได้หรือไม่นั้น หมอต้องบอกว่า โรคภูมิแพ้ไม่เกี่ยวกับการใช้เสื้อผ้าและของมือสอง หรือสินค้ามือหนึ่งค่ะ เพราะบางครั้งคนไข้เลือกใช้เสื้อผ้ามือหนึ่งเกาะป้ายก็เป็นค่ะ แต่โรคภูมิแพ้เกิดจากแพ้ชนิดของสิ่งของที่เลือกใช้ เช่น แพ้อาหาร หรือแพ้เพราะการรับประทานอาหารบางชนิด ดังนั้นหลายคนที่บอกว่าตัวเองเป็นโรคภูมิแพ้ หรือมีอาการของโรคภูมิแพ้จากใช้สินค้ามือสอง ต้องบอกว่าไม่ใช่ แต่ถ้าหากคนไข้ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่า คนไข้เกิดอาการภูมิแพ้จากการสวมใส่เสื้อผ้า มันขึ้นอยู่กับชนิดของเนื้อผ้าที่ไปกระตุ้นโรคภูมิแพ้ของคนไข้ ซึ่งคุณแพ้มันอยู่แล้ว เช่น หากคนไข้แพ้เสื้อผ้าที่เป็นขุยอยู่แล้ว ดังนั้นโรคภูมิแพ้จึงเกิดขึ้นได้ แม้ว่าคุณจะเลือกเสื้อผ้ามือหนึ่ง ที่มีลักษณะเป็นขุยนั่นเอง ตรงกันข้ามถ้าคนไข้ไม่ได้เลือกเสื้อผ้ามือสองที่เป็นขุย เสื้อผ้ามือสองก็ไม่ได้ทำให้เป็นภูมิแพ้ค่ะ” พญ.ณัฐชญา กล่าว

เรื่อง: ชาลิณี คำภีระ