วุฒิสภา มีมติเห็นชอบ ร่างแก้ไขข้อบังคับการประชุม ปรับลดคณะกรรมาธิการเหลือ 21 คณะ ป้องกันทำงานซ้ำซ้อน
วันนี้ (5 ส.ค. 67) ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภาครั้งที่ 2 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1) ที่มี นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ในวาระการแก้ไขร่างข้อบังคับ นายแพทย์เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกสมาชิกวุฒิสภา เสนอญัตติแก้ไขร่างข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา ได้กล่าวหลักการและเหตุผลในการเสนอแก้ไขข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา อ้างอิงเรื่องที่มาของวุฒิสภาจาก 20 กลุ่มสาขาอาชีพ และการมีกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรที่ทำงานสอดรับกับวุฒิสภา จึงเสนอเปลี่ยนให้มีกรรมาธิการสามัญประจำวุฒิสภา จำนวน 28 คณะ แต่ละคณะ ประกอบด้วยกรรมาธิการไม่น้อยกว่า 9 คน ไม่เกิน 18 คน
ด้าน นายประภาส ปิ่นตบแต่ง สมาชิกวุฒิสภา อภิปรายหลักการเหตุผลในการเสนอแก้ไขข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา ควรปรับปรุงคณะกรรมาธิการให้มีความเหมาะสมโดยคำนึงถึงความรู้ความเชี่ยวชาญของสมาชิกแต่ละคน และสอดคล้องกับกลุ่มอาชีพของวุฒิสภา ในการตรวจสอบบริหารราชการแผ่นดินให้มีประสิทธิภาพสูงสุด จึงต้องมีการปรับปรุงจำนวนและองค์ประกอบรวมถึงหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมาธิการสามัญประจำวุฒิสภาและคณะกรรมาธิการวิสามัญให้มีความสอดรับกับภารกิจที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเสนอให้มีกรรมาธิการ 26 คณะ โดยมีจำนวนไม่น้อยกว่า 8 คนไม่เกิน 15 คน ส่วนใหญ่ยังเป็นกรรมาธิการคงเดิมและมีการปรับแก้ชื่อกรรมาธิการบางคณะ โดยเสนอเพิ่มคณะกรรมการประชาสังคมองค์กรสาธารณะประโยชน์และองค์กรชุมชน พร้อมกันนี้ก็เสนอเพิ่มเติมคณะกรรมการวิสามัญศึกษาแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ
นอกจากนี้ นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สมาชิกวุฒิสภา เสนอญัตติแก้ไขข้อบังคับข้อ 76 ให้เผยแพร่บันทึกการลงมติการออกเสียงลงคะแนนของสมาชิกแต่ละคนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศประเภทอื่นเพื่อให้ประชาชนรับทราบได้ทั่วไป
ขณะที่ นายเอกชัย เรืองรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา เสนอญัตติให้มีกรรมาธิการ 26 คณะและอนุกรรมาธิการไม่เกิน 4 คณะ เพื่อให้สว.ได้ใช้ความรู้ความสามารถ ที่แตกต่างกัน ช่วยกันแก้ปัญหาสนับสนุนภารกิจและดำเนินงานด้านนิติบัญญัติให้กับประชาชนได้อย่างแท้จริง เสนอให้มีตามคณะกรรมาธิการเพิ่มศักยภาพ ทางเศรษฐกิจ และแต้มต่อให้คนไทย และเสนอปรับเพิ่มในกรรมาธิการข้อ 17 กรรมาธิการทางเทคโนโลยีสารสนเทศการสื่อสารการโทรคมนาคมและการแก้ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
และเสนอปรับเพิ่มกรรมาธิการข้อที่ 22 เป็นคณะกรรมการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมการป้องกันการบรรเทาภัยพิบัติและสาธารณภัย
ส่วน พลตำรวจโทยุทธนา ไทยภักดี สมาชิกวุฒิสภา เสนอญัตติ ให้คณะกรรมาธิการ ลดลงเหลือ 21 คณะ และคณะหนึ่งไม่เกิน 3 อนุ เพื่อไม่ให้เกิด การไม่ซ้ำซ้อนของงานและมีเอกภาพ และสามารถลดค่าใช้จ่ายในงบประมาณแต่ละคณะได้มากพอสมควร และถ้าทุกคนช่วยกันบริหาร ไม่ว่าจะเป็นประธานหรือรองประธานกรรมาธิการ ก็จะทำให้งานของสภาเดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการปรับลดเพื่อนำไปรวมกับคณะที่สามารถอยู่ร่วมกันได้ เพราะมีเนื้องานที่ใกล้เคียงกัน
ประกอบด้วย คณะกรรมาธิการด้านกฎหมาย ยุติธรรมและตำรวจ , คณะกรรมาธิการด้านเกษตรและสหกรณ์
,คณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและการกีฬา , คณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน และสิทธิมนุษยชนเสรีภาพในการคุ้มครองผู้บริโภค ,คณะกรรมาธิการด้านการศึกษาและอุดมศึกษา , คณะกรรมาธิการด้านเศรษฐกิจการเงินการคลังและการแก้ปัญหาความยากจน, คณะกรรมาธิการคณะกรรมการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ และการตรวจสอบการทุจริตการประพฤติมิชอบ
โดยภายหลังจากที่ประชุมได้เปิดให้สมาชิกวุฒิสภาร่วมอภิปรายสนับสนุนทั้ง 5 ญัตติ อย่างกว้างขวาง ที่ประชุมจึงมีมติ
รับร่างข้อบังคับการประชุมฉบับที่พ.ศ…ของพลตำรวจโทยุทธนา ด้วยคะแนนเห็นด้วย 148 ไม่เห็นด้วย 39 งดออกเสียง 13 ไว้เพียงร่างเดียว
ขณะที่อีก 4 มีมติไม่รับร่างประกอบด้วยของ นพ.เปรมศักดิ์ มีสมาชิกเห็นด้วย 48 ไม่เห็นด้วย 134 งดออกเสียง 11 , ไม่รับร่างของ นายประภาส มีสมาชิกเห็นด้วย 42 ไม่เห็นด้วย 140 งดออกเสียง 11 , ไม่รับร่างของนายเทวฤทธิ์ มีสมาชิกเห็นด้วย 38 ไม่เห็นด้วย 144 งดออกเสียง 12 ไม่ลงคะแนน 1
,ไม่รับร่างของนายเอกชัย มีสมาชิกเห็นด้วย 42 ไม่เห็นด้วย 139 งดออกเสียง 13
อย่างไรก็ตาม มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมจำนวน 21 คน พิจารณา 30 วัน และแปรญัตติภายใน 7 วัน