ญาติพอใจหารือ ‘กลาโหม’ เร่งรัดคดีปี 53 ‘พล.อ.คงชีพ’ เชื่อการพูดคุยช่วยจบทุกปัญหา
ญาติพอใจหารือ ‘กลาโหม’ เร่งรัดคดีปี 53 ‘พล.อ.คงชีพ’ เชื่อการพูดคุยช่วยจบทุกปัญหา-ก้าวพ้นความขัดแย้ง-สร้างความสามัคคีในชาติ
วันนี้ (5 ก.ค. 65) เวลา 17:04 น. ญาติผู้สูญเสียจากเหตุการณ์การสลายการชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พร้อมด้วย พลเอก คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมประชุมหารือตามแนวคิดโฆษกกระทรวงที่ให้ประชาชนเข้าพูดคุยเรียกร้องได้โดยตรง
นางพะเยาว์ อัคฮาด มารดาของ นางสาวกมนเกด อัคฮาด พยาบาลอาสาผู้ถูกยิงเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในวัดปทุมวนาราม กล่าวว่าวันนี้มีการพูดคุยกันด้วยดี ทางท่านรับฟังและมีแนวโน้มหลายเรื่องที่น่าจะได้รับการแก้ไขต่อไป
ส่วนข้อเรียกร้องเรื่องคดีความที่หยุดอยู่กับที่ไปนั้น นางพะเยาว์ กล่าวว่า เรามาพูดคุยในเรื่องนี้เพื่อให้กระบวนการที่หยุดไปตรงอัยการศาลทหารให้ท่านได้พิจารณาดำเนินการต่อ โดยให้มีการรื้อฟื้นคดีมาพิจารณาใหม่ เอาความจริงมาให้เป็นที่ปรากฏ อย่าปิดบังและซุกใต้พรม
“ถือว่าบรรยากาศเป็นที่พอใจมาก เป็นครั้งแรกที่เราเริ่มพูดคุยกัน บอกเผื่อเลยว่ากลุ่มใดคิดต่าง อยากเข้าพูดคุย คิดว่าก็ควรเข้ามาพูดคุยกัน” นางพะเยาว์ กล่าว
ด้าน พลเอก คงชีพ กล่าวถึงการหารือกันในวันนี้ว่า ถือเป็นประตูที่เปิดให้เข้ามาพูดคุยกัน ซึ่งก่อให้เกิดความรู้สึกที่เข้าอกเข้าใจกันมากขึ้น ทางกระทรวงกลาโหมก็จะนำเอาข้อมูลเหล่านี้มาพิจารณาว่าอะไรที่เดินหน้าต่อไปได้ก็จะดูกันต่อไป เพราะความรู้สึกเราก็สะเทือนใจ
“ถือเป็นการเข้าหารือกันครั้งแรก เชื่อว่าทุกปัญหาจบได้ด้วยการพูดคุย เมื่อข้อมูลมากขึ้นก็จะเข้าใจกันมากขึ้น แต่หากเราพูดกันผ่านสื่อ โพสต์กันไปมา ก็ทำให้เราห่างและไม่เข้าใจกัน” พลเอก คงชีพ กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ทางคดีความจะรับปากว่าพร้อม ดำเนินการตามข้อเรียกร้องหรือไม่ พลเอก คงชีพ ตอบว่า ดูเป็นกรณีไปว่าอะไรบ้างที่ขับเคลื่อนกันต่อได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีข้อเรียกร้องที่ไม่เกี่ยวข้องกับทางกระทรวงกลาโหม จะประสานให้หรือไม่ พลเอก คงชีพ ตอบว่า เบื้องต้นอยากให้หารือตามกรอบภารกิจของกระทรวงกลาโหมก่อน หน่วยงานอื่นเราจะไม่ก้าวล่วง แต่คิดว่าน่าจะประสานให้ได้
พลเอก คงชีพ เน้นย้ำเจตนารมณ์ของแนวคิดนี้ว่า ถือเป็นอีกช่องทางที่เราพูดคุยกับกลุ่มที่มีปัญหาหรือข้อเรียกร้องกับกระทรวงกลาโหม ถือว่ารับฟังปัญหาแบบภายนอกสู่ภายใน (outside in) เชื่อว่าจะเกิดการพัฒนาที่รอบด้านมากขึ้น ก้าวพ้นความขัดแย้ง และเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะสร้างความรัก ความสมัครสมานสามัคคีร่วมกันกับทุกฝ่ายต่อไป
