แกนนำอนาคตใหม่ ‘ธนาธร-ปิยบุตร-พิธา-พรรณิการ์‘ ฟังคำพิพากษา
คดีการชุมนุมแฟลชม็อบ ’ไม่ถอยไม่ทน’ ชัยธวัชมั่นใจ ชนะคดีและบทลงโทษจะไม่รุนแรงถึงขั้นจำคุก
วันนี้ (5 ก.พ. 67) ที่ศาลแขวงดุสิต แกนนำพรรคอนาคตใหม่ ทั้งนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล น.ส.พรรณิการ์ วานิช นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และนายไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร เดินทางมาฟังคำพิพากษาศาลจากกรณีการชุมนุม “ไม่ถอยไม่ทน” เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2562 ที่สกายวอร์คแยกปทุมวัน โดยถูกกล่าวหาข้อหาร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้ง, ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะ โดยกีดขวางทางเข้าออกหรือรบกวนการปฏิบัติงานหรือการใช้บริการสถานีรถไฟ, ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่ดูแลและรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณะไม่ให้เกิดการขัดขวางเกินสมควรต่อประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะฯ, ทำการชุมนุมสาธารณะในระยะไม่เกิน 150 เมตรจากพระราชวัง และร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ถือว่าละเมิดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การชุมชนสาธารณะ พ.ศ. 2558 และ พ.ร.บ. ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. 2493
นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ระบุว่า ทางทีมทนายและจำเลยมั่นใจว่า เราจะชนะคดีในวันนี้ ส่วนรายละเอียดเป็นเรื่องของการต่อสู้ความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ และเรื่องนี้เป็นการต่อสู้สิทธิเสรีภาพของประชาชนโดยสันติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า คดีนี้เกิดตั้งแต่ปี 2562 จากข้อมูลพบว่าในส่วนของชุมนุมไม่ได้มีการขออนุญาตล่วงหน้าจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการแจ้งเตือน จะทำให้จำเลยหลุดคดียากหรือไม่ นายชัยธวัชบอกว่า ต้องรอคำวินิจฉัยทราบพร้อมกัน
ส่วนได้มีการเตรียมแผนรองรับเรื่องนี้ยังไงบ้าง นายชธวัชบอกว่า หากคดีนี้ผลออกมาเป็นลบ ก็เตรียมอุทธรณ์แต่ยังย้ำว่ามั่นใจว่าผลจะออกมาดี มองว่าไม่น่าจะมีผลกระทบทางการเมือง คาดว่าคำวินิจฉัยคดีสามารถชนะคดีได้ ส่วนแกนนำที่มาฟังคำพิพากษา วันนี้ นายชัยธวัช บอกว่า ทุกคนไม่มีความกังวลอะไร ขอให้สบายใจแต่จะมีผลในเรื่องของสิทธิของการแสดงออกทางการเมืองของประชาชน
ในฐานะภาพผู้นำฝ่ายค้านและฝ่ายนิติบัญญัติความเห็นในเรื่องปัญหากฎหมายเกี่ยวกับการชุมนุม จะมีการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมอย่างไรบ้าง นายชัยธวัช กล่าวว่า เรามีข้อเสนอเกี่ยวกับการแก้ไขกฎหมายที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนอยู่แล้วรวมถึงพอรอบอการชุมนุมด้วยและเรื่องนี้ได้มีการพิจารณาในคณะกรรมาธิการการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนตั้งแต่สมัยสภาชุดที่แล้วและในฐานะส.ส. ตนจะให้ความสำคัญกับการพิจารณาว่ามีกฎหมายเรื่องใดบ้างทั้งในแง่เนื้อหาและการบังคับใช้ที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพพื้นฐานของประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้าวันหนึ่งพรรคก้าวไกลได้มีอำนาจเป็นฝ่ายบริหาร ซึ่งเป็นธรรมดาต้องมีมวลชนฝั่งตรงข้ามออกมาต่อต้านและแสดงออกทางการเมือง จะมีนโยบายในการดูแลเรื่องนี้อย่างไร นายชัยธวัช มองว่า ต้องยึดหลักว่าสิทธิการเมืองของพลเมืองเป็นหลักการพื้นฐานทางประชาธิปไตยที่ไม่ควรถูกละเมิด และไม่ควรถูกเลือกปฏิบัติด้วยความคิดความเชื่อทางการเมือง เป็นหลักการขั้นพื้นฐานที่ทำให้สังคมประชาธิปไตยอยู่ร่วมกันได้ แม้เรามีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน
