POLITICS

’ชวน‘ บอก ไม่เคยพูด ‘เพื่อไทย’ ไม่ให้ความสำคัญกับภาคใต้ เตือนอย่าประมาทราคายางไม่ได้ดีตลอด

’ชวน‘ ถาม ‘เศรษฐา‘ เอามาจากไหนไม่เคยพูด ‘เพื่อไทย’ ไม่ให้ความสำคัญกับภาคใต้ พร้อมเล่าเรื่องราวชีวิตเด็กสวนยาง เตือนอย่าประมาทราคายางไม่ได้ดีตลอด

วันนี้ (4 เม.ย.67) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 32 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2) ในญัตติการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เริ่มต้นด้วยการอ่านบทบาทหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีให้ฝ่ายรัฐบาลฟังว่า ต้องทำตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อสภาฯ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เสียสละ มีความรอบคอบ ระมัดระวังในการดำเนินกิจการต่าง ๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชนส่วนรวม รักษาวินัยที่เกี่ยวกับการเงินแผ่นดิน ตามกฎหมายว่าด้วยการเงินการคลัง เสริมสร้างให้บ้านเมืองอยู่ด้วยกันอย่างเป็นสุขเป็นธรรม ถือเป็นพื้นฐานของการใช้สิทธิในการตรวจสอบของสภาฯ

นายชวน เล่าเรื่องราวชีวิตตนเองว่าในฐานะที่เป็นเด็กสวนยาง เกิดในสวนยาง ตอนเด็กเป็นนักเรียนก็ต้องเก็บยางพารา ดีใจที่เรายากลำบากมากับยางพารามาก เพราะราคาตกไปหลายปี ตนเองเป็นหนึ่งในคนที่ดิ้นรนเรื่องนี้มากกว่าใคร เห็นได้จากหนังสือร้องเรียนรัฐบาลทุกชุด เพราะขณะนี้พี่น้องชาวสวนยางของเราไม่ได้มีเฉพาะจังหวัดภาคใต้ ภาคตะวันออกเท่านั้น แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องอุปสงค์อุปทาน เป็นเรื่องผลผลิต เมื่อผลผลิตน้อย ความต้องการสูงราคาก็ขึ้น

เมื่อวานนี้นายกฯ ได้พูดเรื่องนี้ เราก็อยากให้ราคายางเป็นแบบนี้ไปตลอด แต่พี่น้องชาวสวนยางอย่าประมาทว่าราคายางจะดีตลอด เพราะในอนาคตข้างหน้ามันจะปรากฏผลออกมา เช่น ในสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ราคายางเคยขึ้นถึง 120 บาท เวลาขึ้นมันไม่ได้ขึ้นเพราะเรา แต่มันขึ้นทุกประเทศ ไม่อยากให้หลงทาง แล้วภายภาคหน้ารัฐบาลจะโดนตำหนิว่าหลอกชาวบ้าน

อยากให้รัฐบาลทำงานถี่ถ้วน อ่านรัฐธรรมนูญเมื่อสักครู่แล้ว อยากให้รัฐบาลทำงานรอบคอบ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชนส่วนรวม ตนเองคิดว่าความรอบคอบจะช่วยได้ เพราะมีเหตุร้ายหลายรอบที่เกิดจากความไม่รอบคอบ จึงอยากถามรัฐบาลว่าท่านคิดว่าราคายางจะดีแบบนี้ต่อไปหรือไม่ โดยความเชื่อส่วนตัวในทางเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น เมื่ออุปสงค์อุปทานเปลี่ยนแปลง ทำให้ความต้องการตกลง รัฐบาลมีแนวการดำเนินการให้ชาวบ้านอยู่ได้ด้วยราคาเท่าไร

นอกจากนี้นานชวน ยังกล่าวถึงปัญหาสามจังหวัดชายแดนใต้ว่ารัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาเรื่องชายแดนใต้ ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดเอาชีวิตของประชาชนเป็นหลัก แม้จะค้าขายขาดทุนแต่ชีวิตของประชาชนสำคัญกว่า ความผิดพลาดของนโยบายในอดีตตัวเลขของผู้เสียชีวิตตั้งแต่ปี 2547-2566 มีทั้ง 7,520 คน ส่วนจำนวนล่าสุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 เพิ่มขึ้น 7,574 คน ปัญหาภาคใต้เป็นปัญหาที่น่าห่วงใย มีเหตุการณ์เกิดขึ้นบ่อยแต่ไม่มีสื่อให้ความสนใจ

อยากให้รัฐบาลเอาใจใส่เพิ่มขึ้น เพราะเป็นเหตุจากรัฐบาลสมัยก่อนใช้นโยบายเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2544 ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาด้วยการปราบปรามอย่างรุนแรง ด้วยความเชื่อว่าหัวหน้าของขบวนการก่อการร้ายจะหมดสิ้นไป ถือเป็นความผิดพลาด แต่มาถึงปัจจุบันเหตุยังคงรุนแรงอยู่อย่างต่อเนื่อง จึงอยากหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาว่าต้องทบทวนนโยบายอย่างละเอียด และมีมาตรการป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้น เพราะภาคใต้เป็นด้ามขวานทอง มีทั้งความอุดมสมบูรณ์ แต่เพราะความไม่สงบทำให้ชาวบ้านทำมาหากินลำบาก รายได้น้อย หากรัฐบาลมีนโยบายชัดเจนในการช่วยเหลือน่าจะทำให้ปัญหาในภาคใต้คลี่คลายลง

กรณีนี้อยากแนะนำให้รัฐบาลสืบทราบอยากให้รัฐบาลหาต้นตอที่แท้จริง และศึกษาให้ถ่องแท้ บางเรื่องต้องให้เกียรติคนที่หวังดี เตือนว่าหากใช้การจัดการขั้นเด็ดขาด ถ้าทบทวนดี ๆ แล้วไม่ทำเช่นนั้น คงเป็นเรื่องดีและไม่เกิดเหตุซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหมือนปัจจุบัน ขอรัฐบาลอย่าดูดายเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนใต้ พร้อมขอให้กำลังใจผู้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ด้วย

ส่วนเรื่องที่นายกรัฐมนตรีนินทาตนเอง โดยไปบรรยายกับนักธุรกิจรุ่นใหม่ในกลุ่มอสังริมทรัพย์ ว่า “ตนเป็นนายกฯ คนแรกที่ลงพื้นที่ภาคใต้ 3 วัน 2 คืน ไม่เห็นมีใครใส่เสื้อเกราะหรือทหารใส่รถถังตามมา เพราะมั่นใจว่าไปด้วยเจตนารมณ์ดี ไปด้วยความตั้งใจจริง เพราะพรรคเพื่อไทยไม่มี สส.ที่นั่น ขออย่าไปเชื่อวาทกรรมที่ผู้นำบางคนพูดว่าเพื่อไทยไม่เคยให้ความสำคัญกับภาคใต้ สนามบินภูเก็ต พรรคเพื่อไทยไม่มี สส. แต่ลงทุนไปหลายหมื่นล้านบาท” จึงขอฝากไปถึงนายกฯ ว่า เมื่อเป็นนายกฯ อย่าไปคิดว่ามี สส.เพื่อไทยอยู่หรือไม่ เป็นหน้าที่ที่ต้องไป อย่าทวงบุญคุณ นายกฯ ไปก่อนแล้วด้วยเพราะมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่นั่น ภูเก็ตเป็นเมืองที่ทำรายได้ท่องเที่ยวอันดับ 1 รองจากกรุงเทพมหานคร ต้องช่วยพัฒนา ที่บอกว่าผู้นำบางคนไม่เคยให้ความสำคัญภาคใต้นั้น ไปเอามาจากไหน ที่พูดตอนแถลงนโยบาย ตนเองบอกว่าภาคใต้ถูกเลือกปฏิบัติ คนที่เลือกปฏิบัติไม่ได้ทำโดยแอบทำ พูดตรงไปตรงมาว่าจะพัฒนาจังหวัดที่เลือกเราก่อน จังหวัดอื่นไว้ที่หลัง หากไม่รู้ว่าเป็นใคร จะบอกให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นคนพูดประกาศกับประชาชนตรง ๆ

ทำให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงว่าการกล่าวถึงบุคคลภายนอกที่ไม่ได้อยู่ในห้องประชุมของนายชวน ไม่ถูกต้องเพราะคนนอกไม่มีสิทธิมาแก้ต่าง การกล่าวถึงอดีตนายกรัฐมนตรีก็เป็นเรื่องที่ไม่เป็นความจริง เพราะงบประมาณที่ลงไป จะเห็นว่าการพัฒนาเกิดขึ้นในช่วงใด และขอให้ละเว้นการเอ่ยชื่ออดีตนายกรัฐมนตรี และบุคคลภายนอก

นายชวน กล่าวต่อว่าคำพูดที่ว่า ขออย่าไปเชื่อวาทกรรมบางคนที่บอกว่าเพื่อไทยไม่เคยให้ความสำคัญกับภาคใต้ ตนเองไม่ได้พูด ตนเองพูดแค่การเสียโอกาสของคนภาคใต้ และขอให้ชดเชยการเสียโอกาสจากการเลือกปฏิบัติ แต่การชดเชยกลับไม่มี ขอนายกฯ อย่าไปคิด หรือพูด และขอให้บอกนักธุรกิจกลุ่มนั้นว่าสิ่งที่พูดไปไม่จริง และกลับคำว่านายชวนพูดว่าคนใต้ถูกเลือกปฏิบัติ และขอความเป็นธรรม โดยชดเชยให้ ตนเองไม่ใช่คนพูดพล่อย ๆ ชีวิตการเมืองมาจากการเลือกตั้ง ไม่ใช่คนที่พูดบ่อยพูดพล่อย บ้าน้ำลายรายวัน พูดแต่เรื่องจริงและรับผิดชอบ ไม่เคยพูดอะไรกระทบกับนายกรัฐมนตรี ขอให้เข้าใจว่าไม่ได้โกรธเคือง

Related Posts

Send this to a friend