POLITICS

ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยร่วมสะท้อนปัญหาที่ดินหมดสัญญา ไม่ได้รับเงินเยียวยา จากนโยบาย ‘การเมืองนำการทหาร’

คณะอนุกรรมาธิการการศึกษาปฏิรูปฯ กฎหมาย เชิญผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยประชุมร่วม กอ.รมน. กองทัพ ผู้แทนกระทรวงทรัพย์ฯ สะท้อนปัญหาที่ดินหมดสัญญา-ไม่ได้รับเงินเยียวยา จากนโยบาย ‘การเมืองนำการทหาร’ สมัย พล.อ.เปรม

วันนี้ (4 ก.พ. 65) เวลา 10:00 น. นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการการศึกษาปฏิรูป ทบทวน และแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย เป็นประธานในการประชุมวาระว่าด้วยประเด็นที่มีประชาชนผู้เคยเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 66/2523 ในสมัยรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ร้องเรียนปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัย และการเยียวยา

นายชวลิต เผยว่า ปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกหน่วยงานต้องช่วยกันแก้ปัญหาให้จบ จากแนวคิดสมัยรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ยุติความขัดแย้ง การสู้รบกับกลุ่มคอมมิวนิสต์ในประเทศไทย เป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย โดยวันนี้ได้เชิญฝ่ายราชการทั้งหน่วยงานความมั่นคง กอ.รมน. ผู้แทนกองทัพภาคต่างๆ ผู้แทนจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้แก่ กรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เข้าร่วมประชุมกับผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ทั้งจากสามจังหวัดชายแดนใต้ จากภูชี้ฟ้าจังหวัดเชียงราย จากจังหวัดขอนแก่น และพื้นที่อื่นๆ

จรูญ แก้ววจีทรัพย์ ตัวแทนจากหมู่บ้านปิยะมิตร ที่ 1 ถึง 5 จังหวัดยะลา กล่าวว่า เป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยตั้งแต่ปี 2530 จากนโยบาย 66/2523 ลงมาช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ ผ่านมา 30 ปี ในช่วงต้นทางกองทัพขอได้จัดพื้นที่ให้อยู่อาศัยและทำกินชั่วคราวด้วยสัญญา 30 ปี เริ่มเมื่อปีพ.ศ.2531 ผ่านมากว่า 35 ปี ยังไม่มีการต่อสัญญาฉบับที่ 2 ตอนนี้รู้สึกไม่มีความมั่นคง จึงมาเรียกร้อง ช่วยต่อสัญญาให้ 5 หมู่บ้านให้แล้วเสร็จ

ที่ผ่านมามีการประชุมกับกองทัพภาคที่ 4 ตั้งแต่ช่วงก่อนหมดอายุสัญญาประมาณ 1-2 ปี จนบัดนี้การต่อสัญญายังไม่เรียบร้อย อยากให้ช่วยดูแล เมื่อ 30 ปีที่แล้วกองทัพใช้นโยบายความมั่นคงในการดูแล เรามาช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ ตอนนี้กฎหมายเล็ก กฎหมายป่าไม้ออกมาเยอะ ทำให้ไม่ทราบว่าจะต่อสัญญาเสร็จเมื่อไร ขอให้กองทัพเหลือด้วย

“…ไม่อยากให้ต่อสัญญา 30 ปี ไปเรื่อยๆ จากนี้ไปขอสิทธิทำกินอย่างมั่นคงเพื่อลูกหลานจะได้หรือไม่ เรียกร้องเรื่องนี่มากว่า 4-5 ปี หวังว่าวันนี้จะสามารถคุยเรื่องนี้ได้สำเร็จ เพื่อให้ประชาชนมีสิทธิทำกินอย่างมั่นคง เคยคุยกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และถามไปยังตัวแทนกองทัพฯ ว่าติดขัดเรื่องอะไรขอให้ช่วยแจ้ง…” จรูญ กล่าว

ทูลสวัสดิ์ ยอดมณีบรรพต หรือ หมอแดง อดีตหมอชาวม้ง หนึ่งในแกนนำ พคท.ในเขตภูชี้ฟ้า อ.เทิง จ.เชียงราย กล่าวว่า เมื่อสมัยก่อนทางกองทัพ รัฐบาลพล.อ.เปรม และในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาให้พื้นที่ดอยยาว ผาหม่น ผาจิต เกิดโครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคงและโครงการในพระราชดำริ ให้คนอยู่ร่วมกับป่า ผ่านมาแล้ว 40 ปี หลังนโยบาย 66/2523 พื้นที่ 145,000 ไร่ ส่วนชายแดนให้เป็นป่าชุมชน สร้างรั้วของชาติมีอาสาสมัครคอยดูแล ทำกินตามพระราชดำริ

ปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ 2 ไม่มาจัดพื้นที่ให้ชุมชน ป่าไม้ 15 พยายามมาประกาศพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ประกาศป่าทับ ปฏิบัติไม่เสมอภาค การชดเชยไม่เสมอภาค ไม่เป็นธรรม เสนอให้มีผู้พัฒนาชาติไทยตัวจริงอยู่ในคณะกรรมการแก้ปัญหาเพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างตรงจุดและไม่ฉวยโอกาสเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มใด

ด้าน พล.ต.ศานติ ศกุนตนาค รองแม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า สัญญาของ 5 หมู่บ้าน อ.เบตง จ.ยะลา ระยะเวลาตามสัญญาคือ ปี 2531-2561 เมื่อใกล้จะหมดระยะสัญญามีการทำเรื่องขอต่อสัญญา แต่เนื่องจากเกี่ยวของกับหลายหน่วยงาน เช่น กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพย์ฯ กระทรวงมหาดไทย จึงทำให้ล่าช้า โดยล่าสุดมีการทำหนังสือจากกองทัพภาคที่ 4 ส่งมาที่กองทัพบกพิจารณา เมื่อวันที่ 31 มกราคม ส่งเอกสารมาแล้ว รอหน่วยงานต่างๆดำเนินการ ทั้งนี้ยืนยันว่าทางกองทัพไม่ได้ละเลยปัญหาดังกล่าวและพร้อมจะช่วยเหลือให้ประชาชนได้อยู่อาศัยอย่างมั่นคงด้วย

ทั้งนี้ทางผู้แทนของกรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวในที่ประชุมว่า พร้อมจะนำเรื่องร้องเรียนทั้งหมดไปดำเนินการต่อ มีการแนะนำให้นำเสนอเรื่องถึงผู้ว่าราชการจังหวัดตั้งคณะกรรมการป่าชุมชนเพื่อให้มีการดูแลพัฒนาอย่างยั่งยืน พร้อมยืนยันว่าแม้ยังไม่มีการต่อสัญญาแต่ในเบื้องต้นจะไม่มีการขับไล่ประชาชนออกจากพื้นที่ตามพันธะสัญญาที่ 66/2523 อย่างแน่นอน และได้รับฟังปัญหาเรื่องกฎเกณฑ์ที่สร้างความไม่เป็นธรรมในบางพื้นที่ เช่น การให้กำนันลงนามรับรองการเป็นผู้พัฒนาชาติ มีกำนันในบางพื้นที่ใช้อคติส่วนตัวไม่รับรองให้ ซึ่งจะรับไปพิจารณา

ทั้งนี้ นายศักดิ์ณรงค์ ศิริพร ณ ราชสีมา อนุกรรมาธิการ ได้สรุปก่อนปิดประชุมด้วยว่า อยากให้ทุกหน่วยงานได้ตระหนักถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 66/2523 ว่ามีจุดประสงค์เพื่ออะไร เช่น เรื่องพื้นที่ทำกินที่อยู่อาศัย มีปัญหาอยู่ทุกพื้นที่ ในยุคเก่า เจตนารมณ์คือการให้พี่น้องมีพื้นที่ยุทธพัฒนา จัดตั้งถิ่นฐานถาวร ดังนั้นยุทธศาสตร์ต้องทำให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างถาวร ปัญหาที่เกิดจะทำให้เขาไม่เป็นฝ่ายของเรา จำเป็นต้องหาข้อสรุปที่ชัดเจน ส่วนเรื่องการจ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือ จำเป็นต้องมีการชี้แจงและยืนยันตัวตนอีกครั้งด้วย

Related Posts

Send this to a friend