พลเอกณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก แถลงหลังประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกว่า ที่ประชุม (4 ก.พ. 64) ได้สรุปผลการดำเนินการที่ผ่านมา โดยเฉพาะมาตรการและการบริหารจัดการเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 การตั้งโรงพยาบาลสนามในแต่ละพื้นที่ รวมถึงการบริจาคโลหิต
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังพูดคุยเรื่องการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ของแต่ละหน่วย โดยสั่งการให้ช่วยเหลือประชาชนและร้านค้าด้วยการจับจ่ายซื้อของ รวมถึงรับซื้อพืชผลการเกษตรของชาวบ้าน ส่วนเตียงสนามในส่วนของกองทัพ ขณะนี้มีคงคลังไว้ 6,000 เตียง สนับสนุนเฉพาะที่จังหวัดสมุทรสาครไปแล้ว 3,000 กว่าเตียง ส่วนที่อื่นๆ ใช้จากหน่วยในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม หากถึงจุดที่เตียงไม่เพียงพอจริงๆ ทหารก็พร้อมนอนพื้น และสละเตียงให้ประชาชน
สำหรับการคัดเลือกกำลังพลเข้าร่วมกองทัพ กองทัพบกพยายามปรับให้ทันสมัยต่อสถานการณ์และเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้น ด้วยการปรับรูปแบบการสมัครทางออนไลน์ ขณะในส่วนของนักเรียนเตรียมทหาร ก็จะคัดเลือกตัวแทนของแต่ละจังหวัด เพื่อให้ทุกคนได้มีโอกาส ซึ่งจะเป็นการลดความแออัดและลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ไปในตัวด้วย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากเมียนมาเกิดการรัฐประหาร จะป้องกันชายแดนเพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองอย่างไร ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ แต่มาตรการคุมเข้มชายแดนด้านตะวันตกเราคุมเข้มมาตลอดอยู่แล้ว เหตุจากสถานการณ์โควิด-19 การป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ประกอบกับรัฐบาลผ่อนปรนเรื่องแรงงาน และกังวลว่าจะมีคนฉวยโอกาส จึงได้คุมเข้มอย่างเต็มที่ และกองกำลังชายแดนสามารถสกัดผู้ลักลอบเข้าชายแดนไตั้งแต่เดือนตุลาคม 63 ได้หลายร้อยคน
ส่วนจะเพิ่มกองกำลังเข้าไปดูแลอีกหรือไม่นั้น ผู้บัญชาการทหารบกกล่าวว่า สถานการณ์ยังคงที่ และเราสามารถดูแลและรับมือได้จากการประสานหน่วยราชการต่างๆ และได้รับความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ ทำให้สถานการณ์ลดน้อยลง และคนไทยที่อยู่ฝั่งเมียนมา แม้บางส่วนลักลอบเข้าไปผิดกฎหมาย แต่จากการประสานงานและความสัมพันธ์แนวชายแดนระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายเมียนมา จึงสามารถทำความเข้าใจให้กลับมาไทยโดยผ่านช่องทางปกติ เพื่อให้ควบคุมได้
เมื่อถามว่าได้ติดต่อไปยังทางการเมียนมาเพื่อสอบถามถึงสาเหตุและข้อเท็จจริงของการทำรัฐประหารหรือไม่ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ไม่มี เพราะเป็นเรื่องภายใน และทหารคุยกันแต่เรื่องทหารเพียงอย่างเดียว
เมื่อถามว่าความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพไทยและเมียมาที่ใกล้ชิดกัน จุดยืนของกองทัพไทยต่อเหตุการณ์ที่เมียนมาเป็นอย่างไรบ้าง พลเอกณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ไม่มี เราอาศัยหลักการของอาเซียน เหมือนกับรัฐบาล เพราะเราเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล เป็นส่วนราชการของรัฐบาล เรื่องภายในของเขา เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะคุยกัน แต่ความสัมพันธ์ทางทหารเรายังเหมือนเดิม และมีความสัมพันธ์ที่ดีร่วมมือกันมาตลอดประชาชนแนวชายแดนอยู่ร่วมกันดี ผ่านหมู่บ้านคู่ขนาน
เมื่อถามย้ำว่าในแง่ความรู้สึกประเทศไทยมีการรัฐประหารเป็นครั้งคราว พอมีเหตุการณ์รัฐประหารที่เมียนมา มีความรู้สึกอย่างไร พลเอกณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ผมไม่มีความรู้สึก ผมบอกแล้ว คำนี้ไม่มีในหัวผม ไม่มีมานานแล้ว จะเห็นว่ามันหายไปนานแล้ว เพียงแต่พวกเราไปอยู่ในวอร์ตรงนู้น แล้วเอาพูดคำนี้ขึ้นมา ผมไม่มีอยู่แล้ว
เมื่อถามว่ามีการมองว่าเหตุการณ์ที่เมียนมา ใช้รูปแบบของไทย พลเอกณรงค์พันธ์ กล่าวว่า “ผมไม่มีความเห็นครับ”
เมื่อถามว่าเหตุการณ์ในเมียนมาสะเทือนถึงไทย เพราะกลุ่มเคลื่อนไหวในไทยหยิบเหตุการณ์ในเมียนมา เปรียบเป็นการตีวัวกระทบคราด พลเอกณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ไม่ๆ ก็คือเราตกลงกันแล้ว คือนักข่าวสายทหารควรถามเรื่องทหาร เมื่อไหร่ถามเรื่องการเมืองก็ถือว่าจบข่าว