POLITICS

‘ชญาภา’ ชมรัฐบาลทำงานเร็ว เตรียมคิกออฟ 30 บาทรักษาทุกที่ 7 ม.ค.นี้

‘ชญาภา’ ชมรัฐบาลทำงานเร็ว เตรียมคิกออฟ 30 บาทรักษาทุกที่ 7 ม.ค.นี้ที่จังหวัดร้อยเอ็ด ช่วยคนไทยไม่ให้เป็นผู้ป่วยอนาถา ล้มละลายจากการเจ็บป่วย

วันนี้ (4 ม.ค. 67) นางสาวชญาภา สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย อภิปรายสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยกล่าวถึงงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุข ที่ได้รับจัดสรรถึง 165,726 ล้านบาท เพิ่มจากปีงบประมาณ 2566 13,462 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8.84 % ซึ่งงบประมาณที่เพิ่มขึ้นเป็นการจัดสรรเพื่อรองรับภารกิจของกระทรวงสาธารณสุข โดยเฉพาะนโยบายรัฐบาลที่ต้องการยกระดับ 30 บาท รักษาทุกโรค ที่เกิดขึ้นในรัฐบาลของนายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นนโยบายที่ประสบความสำเร็จพลิกโฉมการบริหารงบประมาณสาธารณสุขของประเทศไทย ทำให้ประชาชนมีหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ส่งผลให้คนไทย เข้าถึงการรักษาพยาบาลที่ได้มาตรฐานโดยไม่ต้องล้มละลายจากการเจ็บป่วย เพราะการเจ็บป่วยต้องไม่มีใครเป็นผู้ป่วยอนาถา จากความสำเร็จในอดีตได้สร้างคุณูปการมาถึงปัจจุบัน เป็นนโยบายที่ได้รับการตอบรับจากประชาชนในประเทศ และได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ เช่น องค์การอนามัยโลก ที่ยกย่องให้ไทยเป็นต้นแบบในการจัดระบบประกันสุขภาพ โดยใช้งบประมาณไม่มาก

การยกระดับนโยบาย 30 บาท ถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของรัฐบาลนี้ โดยเน้นที่ 4 เรื่องหลัก ได้แก่

1.ลดความเหลื่อมล้ำ เน้นให้มีหน่วยบริการมากขึ้นเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของพี่น้องประชาชน

2.ลดความแออัดในโรงพยาบาล

3.เข้าถึงบริการได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

4.เพิ่มคุณภาพการบริการให้ครอบคลุมมากขึ้น

นางสาวชญาภา ไล่ไทม์ไลน์แผนการขับเคลื่อนนโยบายบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ หลังนายเศรษฐา แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566 จากนั้นวันที่ 22 กันยายน 2566 กระทรวงสาธารณสุขประกาศยกระดับนโยบายนี้ให้เป็นนโยบาย Quick Win 100 วัน จากนั้นมีการแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติในวันที่ 3 ตุลาคม 2566 ก่อนที่จะมีการเสนอแผนขับเคลื่อนนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ในวันที่ 24 ตุลาคม 2566 โดยวันที่ 7 มกราคม 2567 นายเศรษฐา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รองประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพปห่งชาติ จะคิกออฟนโยบายบัตรประชาชนใบเดียว รักษาทุกที่ ณ สาเกตนคร หน้าหอโหวต 101 ซึ่งถือเป็นหนึ่งใน 4 จังหวัดนำร่องของประเทศไทยที่มีความพร้อม ใช้ระบบเชื่อมต่อข้อมูลเป็นระบบเดียวกันทั้งจังหวัด มีหน่วยบริการหลากหลาย ทั้งโรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) และเครือข่ายสาธารณสุข โดยจะคิกออฟพร้อมกับจังหวัดแพร่ เพชรบุรี และนราธิวาสด้วย

นโยบายนี้สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของรัฐบาลที่มุ่งมั่นทำงานรวดเร็ว รุดหน้าและเล็งเห็นความสำคัญเรื่องสุขภาพของประชาชน จึงถือเป็นข่าวดี ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดร้อยเอ็ด จึงขอแสดงความยินดีกับพี่น้องชาวร้อยเอ็ด และประชาชนคนไทย พร้อมให้กำลังใจรัฐบาลนายศรษฐา นพ.ชลน่าน และบุคลากรสาธารณสุขที่สามารถดำเนินการตามนโยบายที่รัฐบาลแถลงไว้ต่อรัฐสภาได้อย่างรวดเร็วตรงเป้าหมาย

Related Posts

Send this to a friend