POLITICS

‘กัณวีร์’ เตือนสติรัฐ 19 ปีไฟใต้ ใช้งบกว่า 5 แสนล้านยังแก้ไม่ได้ ต้องลดเงื่อนไข สร้างสันติภาพที่กินได้

‘กัณวีร์’ เตือนสติรัฐ 19 ปีไฟใต้ ใช้งบกว่า 5 แสนล้านบาทยังแก้ไม่ได้ ถึงเวลาต้องลดเงื่อนไข สร้างสันติภาพที่กินได้ ด้วยแนวทางจังหวัดจัดการตนเอง

วันนี้ (4 ม.ค. 66) นายกัณวีร์ สืบแสง ประธานยุทธศาสตร์และรองหัวหน้าพรรคเป็นธรรม ได้กล่าวถึงการครบรอบ 19 ปี เหตุการณ์การปล้นปืน 413 กระบอก จากค่ายปิเหล็ง ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส โดยระบุว่า หากย้อนเวลาได้ ตนเองยังยืนยันว่าการวิเคราะห์ฝ่ายความมั่นคงถึงสถานการณ์ในขณะนั้นไม่ถูกจุด

นายกัณวีร์ เห็นว่า ปัญหาการปล้นปืนถูกมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นของสถานการณ์ความไม่สงบครั้งใหม่ในรอบหลายสิบปี และการแก้ไขปัญหาต้องให้ฝ่ายความมั่นคงลงมาแก้ไขปัญหา โดยการ “ลดเงื่อนไขในพื้นที่ โดยทำให้คนเห็นต่าง ต้องกลับมาเห็นตรง” ที่ผ่านมาข้อเสนอ 7 ข้อของท่านหะยีสุหลง อับดุลกาเดร์ ถูกนำขึ้นมาสู่การพูดคุยระหว่างหน่วยนโยบายด้านความมั่นคง ว่าเป็นเชื้อประทุสำคัญของความไม่สงบในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทั้งๆที่แท้จริงแล้ว ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นี้จำเป็นต้องแก้ไขด้วยหลักคิดที่ต้องชนะใจและความคิด (win heart and mind) ของคนในพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มเคลื่อนไหวต่างๆ

“กลุ่มขบวนการ นักการเมือง นักเคลื่อนไหว และนักกิจกรรม ถูกหมายหัวและนำชื่อมาใส่บัญชีที่ต้องติดตาม และทำเป็นเครือข่ายโยงใยเป็นบ้านใยแมงมุมที่แสดงถึงความสัมพันธ์กันอย่างแยบยล และหากเกิดเหตุการณ์ใดๆ ขึ้น บัญชีนี้ก็จะถูกใช้ไปเพื่องานความมั่นคงเป็นหลัก”

นายกัณวีร์ ขยายความให้เห็นวิธีคิดของรัฐต่อกลุ่มเคลื่อนไหวต่างๆ โดยเห็นว่า หากเมื่อ 19 ปีที่แล้วหลังเหตุการณ์ปล้นปืนฯ ได้มีนักวิเคราะห์ที่รู้แก่นแท้แห่งปัญหา และวิเคราะห์อย่างถูกต้องว่า จริงๆ แล้ว ไม่ใช่ปัญหาความมั่นคงเลย หากแต่มันเป็นปัญหาที่มีรากแท้หยั่งลึกลงบนแก่นแห่งการเมือง โดยที่นักการเมืองยอมรับมันอย่างจริงจัง และร่วมกันผลักดันให้ปัญหามันหมดไป ปัญหามันคงคลี่คลายหากแต่แท้จริงแล้ว มีคนอีกหลากหลายคนที่หัวเราะเยาะกับการวิเคราะห์ที่ผิดจุดของภาครัฐ และยังคงให้ปัญหามันคาราคาซัง เพื่อผลประโยชน์สีเทาและดำในพื้นที่

นายกัณวร์ เห็นว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงมาจากการกลัดกระดุมผิดตั้งแต่เม็ดแรก เมื่อภาครัฐต้องการให้คนคิดต่าง “ต้องคิดเหมือน” การจะชนะใจและความคิดของคน ไม่จำเป็นต้องให้คนทุกคนเหมือนกัน หากแต่ต้องยอมรับในความแตกต่าง ดังความคิด เรื่อง “ความหลากหลาย จะสร้างเอกภาพ”

และสอง การที่หน่วยงานความมั่นคงเอาข้อเสนอ 7 ข้อ ของท่านหะยีสุหลงฯ มาเป็นสารตั้งต้นในกระบวนการวิเคราะห์นั้น ถือว่าถูก หากแต่การวิเคราะห์นั้น ไม่มีสมมติฐานที่ถูกต้อง เพราะมองแต่งานความมั่นคง ซึ่งไม่อิงการเมือง

นายกัณวีร์ ย้ำว่า ประเทศไทยต้องเรียนรู้ถึงเม็ดเงินที่นำไปแก้ไขปัญหามามากกว่า 5 แสนล้านบาทที่มาจากภาษีประชาชน ซึ่งเงินขนาดนี้ ยังไม่สามารถทำให้เหตุการณ์คลี่คลายได้แต่อย่างใด ปัญหาเหตุร้ายมากกว่า 20,000 เหตุการณ์ที่คร่าชีวิตคนเกือบ 10,000 คน ไปแล้วนั้น มาจากการวิเคราะห์และแก้ปัญหาที่ผิดจุด

“ยอมรับเถอะครับ เรื่อง ความหลากหลายจะสร้างเอกภาพ เรื่องปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้เป็นเรื่องการเมือง จำเป็นต้องแก้ไขด้วยการเมือง นำข้อเสนอ เรื่อง “จังหวัดจัดการตนเอง” ของพรรคเป็นธรรม ไปนำเพื่อกระจายอำนาจ ให้เจ้าของอำนาจมาแก้ไขปัญหาเสีย ปัญหาจะเริ่มคลี่คลาย รวมถึงแนวนโยบาย สันติภาพที่กินได้ ภายใต้หลักมนุษยธรรมนำการเมือง ผมเชื่อเสมอว่า เมื่อเรากลัดกระดุมเม็ดแรกที่ถูกเม็ดแล้ว เม็ดอื่นๆ จะตามมาอย่างถูกต้องเองครับ”

นายกัณวีร์ กล่าวย้ำ พร้อมระบุว่า พรรคเป็นธรรมกำลังทำงานการเมืองร่วมกับนักกิจกรรมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อคาดหวังให้เกิดแนวทางการทำงานตามหลักมนุษยธรรมนำการเมือง เพื่อสร้างการเมืองใหม่ ที่มาจากการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการ ชะตากรรมของตนเองได้อย่างแท้จริง โดยเตรียมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เป็นคนรุ่นใหม่ มาจากกลุ่มปาตานีบารู ที่จะลงสู่สนามการเมือง ในวันที่ 21 มกราคมนี้

Related Posts

Send this to a friend