‘อี้ แทนคุณ‘ พาผู้เสียหาย ร้องประธานสภาฯ ถูกหลอกเอาเงินในเรือนจำ

‘อี้ แทนคุณ‘ พาผู้เสียหาย ร้องประธานสภาฯ ถูกหลอกเอาเงินในเรือนจำ อ้างมี อธิบดี-รัฐมนตรีหนุนหลัง

วันนี้ (3 ธ.ค. 67) นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม และนายปัญญา กาลเศรษฐี ผู้เสียหาย ยื่นหนังสือตรวจสอบทุจริตหลอกลวงผู้เสียหายในเรือนจำต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านนายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร

นายแทนคุณ เปิดเผยว่านายปัญญา เคยเป็นผู้ต้องขังในคดีอาญาและถูกจําขังที่เรือนจําพิเศษกรุงเทพ แดน 3 ภายหลังพบว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพ โดยมีนาย ท. กับพวกหลอกลวงขณะอยู่ในเรือนจำ หลอกผู้ถูกจําขังในเรือนจําให้มีการโอนเงิน อ้างว่าสามารถดําเนินการช่วยเหลือผู้ต้องขังในเรือนจําให้ออกมาได้เร็วขึ้นจนมีผู้หลงเชื่อ โดยนายปัญญาถูกหลอกเงินไปกว่า 10,500,000 บาท และยังมีการหลอกลวงคนอื่นอีกประมาณ 86 ล้านบาท ทําให้ได้รับความเสียหายอย่างมาก คาดว่าอาจร่วมมือกันเป็นขบวนการ และอาจโยงไปถึงผู้มีอิทธิพลทั้งในและนอกเรือนจํา ทั้งข้าราชการ และพลเรือน

โดยที่ผ่านมาได้ยื่นเรื่องต่อกระทรวงยุติธรรม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ป.ป.ช.และ ป.ป.ง. ซึ่งได้มีการดําเนินคดีอาญาที่ 79/2566 ไว้ที่ สน.ประชาชื่นแล้ว แต่คดีไม่มีความคืบหน้า แล้วยังถูกเจ้าหน้าที่ตํารวจหลอกลงทุนอีก โดยพบว่านาย ท.มีคดีเกี่ยวกับการหลอกลวงกว่า 25 คดี และเกี่ยวข้องในฐานะตัวการร่วมหลอกลวงอีกกว่า 60 คดี จึงเป็นการก่ออาชญากรรมทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

ตนเองจึงขอความกรุณาต่อประธานสภาฯ ให้ช่วยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือด้านคดีความเพื่ออํานวยความยุติธรรมให้กับนายปัญญา และผู้เสียหายรายอื่น พร้อมทั้งตรวจสอบพยานหลักฐานที่ตนเองนํามา เพื่อหาทางป้องกันแก้ไขปัญหาการทุจริตเชิงโครงสร้าง

นายปัญญา กล่าวว่าเรามีหลักฐานว่ากลุ่มนาย ท.มีการเรียกรับเงินในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครประมาณ 86 ล้านบาท ในทุกเช้าหลังเคารพธงชาติจะมีนักโทษคนหนึ่งที่สามารถเดินไปได้ทุกแดน และช่วงบ่ายนักโทษคนดังกล่าวก็จะไปกินข้าวร่วมกับผู้ต้องขังใหม่ เป็นระยะเวลา 3 เดือนเพื่อล้วงข้อมูลเกี่ยวกับญาติและทรัพย์สิน พร้อมทั้งขอให้เขียนจดหมายพร้อมเบอร์ญาติ เพื่อเรียกเก็บค่าเรียกเข้า และค่าดูแล คาดว่าหลอกลวงได้ราว 200-300 คน ทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 500 ครั้ง มูลค่าความเสียหายรวมน่าจะเกิน 100 ล้านบาท

กลุ่มของนาย ท.มีความเป็นมืออาชีพ จะเลือกผู้ต้องขังที่มีฐานะ พร้อมกล่าวอ้างว่ามีอธิบดี รัฐมนตรี และผู้มีอำนาจหลายคนคอยช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามกลุ่มนาย ท. มีทั้งหมดประมาณ 20 คน มีทนายความที่คอยแก้คดีอาญากว่า 60 คดี เป็นคดีแพ่ง เชื่อได้ว่าติดสินบนเจ้าพนักงานทั้งระบบ

นายคัมภีร์ เปิดเผยภายหลังรับหนังสือว่า จะส่งเรื่องร้องเรียนต่อไปยังนายวันมูหะมัดนอร์ เพื่อส่งเรื่องไปยังคณะกรรมาธิการฯ ให้ตรวจสอบ คืนความเป็นอิสระให้กับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนทั้งทรัพย์สินและการถูกจองจำในทัณฑสถาน