POLITICS

‘เพื่อไทย’ โชว์ผลงานอดีตรัฐบาล ปราบสแกมเมอร์ลดลง 40%

‘เพื่อไทย’ โชว์ผลงานอดีตรัฐบาล ปราบสแกมเมอร์ลดลง 40% ยัน ไม่ละเลยตรวจสอบรัฐบาลแบบไม่ละเว้นใคร ชี้ ‘อนุทิน’ ต้องรับผิดชอบสูงสุด เหตุ ตั้งรัฐมนตรีมีตำหนิ ย้ำ เก็บข้อมูลเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจ หวัง ปชน. ให้ความร่วมมือ

นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ โฆษกพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยไม่เคยละเลยการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล โดยเฉพาะการตรวจสอบนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้มีความรับผิดชอบสูงสุด และเป็นผู้แต่งตั้งรัฐมนตรีมาทำหน้าที่ ซึ่งล่าสุดรัฐมนตรีหนึ่งรายต้องลาออกเพราะกรณีเกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์

“เราทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างเต็มที่ ไม่มีการจงใจละเว้นใครให้พ้นจากคำถาม แต่สิ่งที่น่าสังเกตกว่าคือ พรรคที่เคยโหวตมอบอำนาจให้คุณอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี และถึงขั้นชื่นชมว่านายกรัฐมนตรีทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบ นั่นต่างหากที่ควรถามว่า เป็นพฤติกรรมที่เหมาะสมของฝ่ายค้านหรือไม่” โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าว

ศึกษิษฏ์ กล่าวต่อว่า สมัยที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ได้พยายามแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์อย่างจริงจังถึงขั้นดำเนินมาตรการตัดน้ำตัดไฟในพื้นที่ต้องสงสัย แต่กลับติดขัดจากการดำเนินงานของกระทรวงมหาดไทยที่ล่าช้า ซึ่ง รมว.มหาดไทยเวลานั้น ปัจจุบันเป็นนายกรัฐมนตรี และยังถูกตั้งคำถามเรื่องความล่าช้า และการหันรีหันขวางในการจัดการปัญหานี้เช่นเดิม

นายศึกษิษฏ์ ระบุว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยมีนโยบายปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างเป็นระบบ โดยข้อมูลจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมชี้ชัดว่า ช่วงรัฐบาลเพื่อไทย ความเสียหายจากคอลเซ็นเตอร์ลดลงกว่า 40% ป้องกันความสูญเสียทางเศรษฐกิจได้กว่า 14,500 ล้านบาทต่อปี ปิดเว็บไซต์ผิดกฎหมายกว่า 400,000 เว็บไซต์ และได้รับรางวัลชนะเลิศ WSIS Prizes 2025 จากสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) จากโครงการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านอาชญากรรมออนไลน์

พรรคเพื่อไทยยังได้ผลักดันการปรับปรุงพระราชกำหนดว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 เพิ่มความรับผิดชอบของสถาบันการเงิน และผู้ให้บริการโทรคมนาคม รวมถึงเพิ่มโทษผู้กระทำผิดให้มีผลบังคับใช้จริงจังมากขึ้น

หลังจากพรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นรัฐบาล ขบวนการสแกมเมอร์กลับมาแพร่ระบาดอีกครั้ง ต่างจากหลายประเทศที่เข้มงวดด้วยการยึดทรัพย์และดำเนินคดีจริงจัง ขณะที่ประเทศไทยกลับยังไม่มีการอายัดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้องแม้แต่รายเดียว จนเริ่มมีความกังวลว่าความล่าช้า และการเพิกเฉยของรัฐบาลชุดนี้ อาจทำให้ต่างชาติมองว่าไทยเป็นพวกเดียวกับแก๊งสแกมเมอร์

พรรคเพื่อไทยยังคงใช้ตำแหน่งหน้าที่ ทั้งใน และนอกสภาฯ เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจง และอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลเพื่อเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ถึงตอนนั้นหวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากพรรคประชาชนช่วยกันตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้นและจริงจัง เพื่อให้ประชาชนเห็นว่าใครทำงานเพื่อใครกันแน่

Related Posts

Send this to a friend