‘กรณ์’ ย้ำไม่ได้ออกเพราะเงิน แต่พรรคเก่าไม่เหมือนเดิม

แนะฟังมุมต่างจากคนเคยศรัทธา ‘ประชาธิปัตย์’ เชื่อเดินมาถูกทาง

เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2566 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เผยแพร่ข้อความผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก ต่อกรณี นายชวน หลีกภัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ออกรายการโทรทัศน์แสดงความคิดเห็นต่อบุคคลที่ย้ายออกจากพรรคประชาธิปัตย์ โดยนายกรณ์ ระบุว่า

“เขียนตอบท่านชวน ด้วยความเคารพ

ผมออกมาจากประชาธิปัตย์ 3 ปี ผมไม่เคยพูดให้ร้ายพรรคเลยแม้แต่ครั้งเดียว ผมออกเพราะอยากไปทำงานตามที่ตั้งใจ และสำหรับผมประชาธิปัตย์เปลี่ยนไป ไม่เหมือนเดิม

การลาออกของคนประชาธิปัตย์มีเหตุผลต่างกัน ผมพูดแทนเขาไม่ได้ แต่ในส่วนของผมนั้น ไม่ใช่ด้วยเหตุผลที่ท่านชวนกล่าวถึงในคลิป https://youtu.be/s0GpJaj7lUw ไม่ว่าจะเรื่องเงินหรือตำแหน่ง ยิ่งประชาธิปัตย์ยุคนี้แล้วเรื่องเงินยิ่งไม่เป็นปัญหา ส่วนตำแหน่งก็มีมากมายเพราะเป็นพรรคฝ่ายรัฐบาล

ผมสัมภาษณ์หลายครั้งว่า ผมได้เคยทำงานให้บ้านเมืองในตำแหน่งรัฐมนตรีคลังมาแล้ว ซึ่งสำหรับผมถือเป็นการทำงานที่ตรงต่อความฝันทางการเมือง ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจผมได้ทำงานอย่างเต็มที่ภายใต้นายกรัฐมนตรี และรองนายกฯเศรษฐกิจ (คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และคุณกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ) ที่ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี ดังนั้นความฝันทางการเมืองของผมวันนี้ไม่ใช่เรื่องตำแหน่ง แต่คือโอกาสสร้างพรรคที่ตรงกับอุดมการณ์ของผม และการส่งเสริมนักการเมืองรุ่นใหม่ให้มีโอกาสได้ทำงาน

ท่านชวนพูดเชิงทวงบุญคุณว่า “คนได้เป็นรมต.คลังจากพรรค พอดีพอร้ายเขาไม่ไปไหนกันหรอก” นอกจากนั้นท่านยังสัมภาษณ์ว่าท่านห้ามผมแล้วไม่ให้ออก แต่ผม ‘ไม่ฟัง’

ท่านมีสิทธิคิด แต่ขอให้ท่านลองฟังในมุมต่าง ของคนที่เคยรัก เคยเลือกและศรัทธาในประชาธิปัตย์มายาวนานแบบพวกเราด้วย เรา “เสียดายและเสียใจ”

วันนี้ผมมีผู้สมัครคนใต้คุณภาพคับแก้วอย่าง เทมส์ ไกรทัศน์, อรทัย เกิดทรัพย์, จูรี นุ่มแก้ว, ทนายลิขิต ศรีชาติ, ธนากร บุญสนิท, และอีกหลายคน รวมไปถึงยีแอ อดีตสส.ปชป.เองที่เลือกที่จะมาลงสมัครพรรคชาติพัฒนากล้า ทั้งๆ ที่เลือกที่จะไปได้แทบทุกพรรค แค่นี้ทำให้ผมรู้สึกว่าเรามาถูกทาง

วันหนึ่งหากมีใครในอนาคตตัดสินใจลาออกไปเพื่อเดินในเส้นทางใหม่ของเขา ผมจะทบทวนสิ่งที่พรรคทำมา และ ผมจะอวยพรให้เขาประสบความสำเร็จในการทำงานเพื่อบ้านเมืองและเพื่อประชาชน พร้อมทั้งหวังว่าเขาจะทุ่มเทในการทำงานให้บ้านเมืองโดยสุจริตต่อไป”