‘ดนุพร’ ประธาน กมธ.สมรสเท่าเทียม ย้ำจะทำให้เร็วที่สุดก่อน สว.หมดวาระ
‘ดนุพร’ ขอบคุณ กมธ. เลือกนั่งประธาน ‘สมรสเท่าเทียม’ ย้ำจะทำให้เร็วที่สุด หวังส่ง สว. พิจารณาก่อนหมดวาระ เชื่อเสร็จในรัฐบาลชุดนี้ “ไม่ได้ให้ใครกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้ประโยชน์ แต่คืนสิทธิที่เขาควรจะได้รับ”
วันนี้ (3 ม.ค. 67) นายดนุพร ปุณณกันต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กับ The Reporters ภายหลังได้รับเลือกเป็นประธานกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ …) พ.ศ. … หรือร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม ในที่ประชุม กมธ.ฯ ครั้งที่ 1/2566 ณ อาคารรัฐสภา
นายดนุพร เปิดเผยบรรยากาศจากการประชุมครั้งแรกว่า เป็นไปด้วยดี หลายคนยังไม่ได้รู้จักกัน บางคนรู้จักกันมาบ้างแล้ว ก็เป็นนัดแรกที่ได้นั่งพูดคุยกัน ขอบคุณ กรรมาธิการทุกคนที่ให้เกียรติตนเองนั่งเป็นประธาน จึงได้บอกให้ทุกคนไปพัก แล้วสัปดาห์หน้าจะเริ่มทำงานกันทันที มีการประชุมนัดแรก เพื่อเริ่มพิจารณาแก้ไขกฎหมาย จึงพยายามทำเต็มที่ ฟังเสียงทุกภาคส่วน และทำให้เร็วที่สุด หากประชุมสัปดาห์ละวันไม่พอ ก็อาจนัดประชุมเพิ่มได้ เพราะเรื่องนี้เกี่ยวพันกับกฎหมายหลายฉบับ จะเห็นได้ว่าเอกสารที่เกี่ยวข้องนั้นมีถึง 40 – 50 ฉบับที่ต้องแก้ไข
ส่วนกรณีมีร่างกฎหมายถึง 4 ฉบับ ที่จะนำมาใช้พิจารณาประกอบกันในชั้น กมธ. นั้น นายดนุพร ชี้แจงถึงแนวทางการพิจารณาร่วมกันหลายภาคส่วนว่า กมธ. จะใช้ร่างกฎหมายฉบับของรัฐบาล และฉบับของภาคประชาชน เป็นร่างหลัก เมื่อมีร่างหลักอยู่แล้ว จะต้องพิจารณาต่อไปว่า แต่ละร่างนั้นจะต้องแก้ไขอะไรบ้าง และจะเจออุปสรรคอะไรบ้าง แต่ใน กมธ. ค่อนข้างครบ เนื่องจากมีตัวแทนทั้งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และศาล จึงจะพิจารณาความเห็นของทั้งหน่วยราชการ ภาคประชาชน และสภาฯ ว่าจะแก้ไขอะไรบ้างให้ครอบคลุมมากที่สุด
นายดนุพร ย้ำถึงเจตนารมณ์ว่า นาน ๆ ทีเราจะเห็นว่า นโยบายของรัฐบาล ฝ่ายค้าน และภาคประชาชนจะมีจุดมุ่งหมายเหมือนกัน เสียดายว่า สมัยที่แล้ว สภาฯ หมดชุดไปเสียก่อน กฎหมายจึงหายไปด้วย ครั้งนี้เข้ามาใหม่ โดยการนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ผ่านคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วเสนอเข้าสู่สภาฯ เป็นวาระด่วน แล้วจึงโหวตเสียงผ่านเป็นเอกฉันท์ในวาระแรก ตั้งเป็น กมธ. ในวันนี้ ยืนยันว่าจะทำให้เร็วที่สุด เพราะทราบดีว่า ประชาชนหลายคนรอคอย ไม่ใช่เรื่องจะสามารถสมรสเท่าเทียมกัน แต่บางครั้งเรื่องเหล่านี้ละเอียดอ่อนมาก บางคนต้องการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล และสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนกลุ่มหนึ่งด้วย จึงจะต้องรีบทำอย่างรอบคอบ
สำหรับประเด็นกรอบเวลานั้น นายดนุพร เชื่อว่า จะทำให้เสร็จในรัฐบาลชุดนี้ ไม่อยากบอกว่าจะมีระยะเวลานานมากน้อยแค่ไหน กฎหมายแต่ละขั้นตอนก็มีเวลาของมัน พอผ่านสภาฯ วาระ 2-3 แล้ว จึงต้องส่งไปให้วุฒิสภาด้วย เราจึงกังวลว่า สมาชิกวุฒิสภา (สว.) จะหมดวาระในเดือนพฤษภาคม 2567 จึงต้องพยายามทำให้เร็วที่สุด ก่อนที่ สว. จะหมดวาระ
“เราไม่ได้ให้ใครกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้ประโยชน์ แต่คืนสิทธิที่เขาควรจะได้รับให้กับคนกลุ่มนี้เท่านั้นเอง” ประธาน กมธ. วิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม กล่าว
