POLITICS

‘เศรษฐา’ ปราศรัยใหญ่ฝั่งธน ชูนโยบายด้านเศรษฐกิจ อ้อนขอคะแนนให้คนรุ่นใหม่

วันนี้ (24 เม.ย. 66) ที่สะพานพระราม 8 พรรคเพื่อไทยจัดเวทีปราศรัยในสโลแกน “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อคนกรุงเทพฯ” โดยนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศรัยกล่าวว่า เมื่อสักครู่ขณะเดินขึ้นเวทีมา มีพี่น้องหลายคนเดินเข้ามาฝากฝังถึงปัญหาที่หยั่งรากลึกในสังคมไทย

นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า ปัญหาแรกคือเรื่องของยาเสพติด ซึ่งวันนี้มีผู้บริหารพรรคระดับสูง โดยเป็นถึงอดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านการปราบปรามยาเสพติดอย่าง ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง ซึ่งตนเองในฐานะคนหน้าใหม่ทางการเมือง จึงจะยกให้ท่านจะเป็นผู้แถลงนโยบาย เพราะเป็นผู้ที่คิด และทำสำเร็จมาในอดีต และขอให้มั่นใจว่าพรรคเพื่อไทย คิดใหญ่ทำเป็น เรื่องของการปราบปรามยาเสพติดของประชาชนมั่นใจ

นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า เมื่อครู่ที่เดินเข้ามา ก็มีคนมาบอกเรื่องปัญหาราคาค่าไฟ และราคาน้ำมันแพง ที่เป็นปัญหาใหญ่ในปัจจุบันนี้ พร้อมตั้งคำถามถึงพรรคพวกรัฐบาลที่มาหาเสียงกับประชาชนว่า มาหาเสียงเกี่ยวกับการแก้ไขราคาพลังงานต่างๆ แต่ทำไมถึงต้องรอให้เป็นรัฐบาลใหม่หรือรอให้ถึงการเลือกตั้งถึงที่จะแก้ไข ซึ่งนายเศรษฐา กล่าวว่า หากพวกเขาแก้ไขได้ คงทำไปนานแล้ว

“พรรคพวกรัฐบาลที่มาหาเสียงแถวๆ นี้ ก็สัญญาต่างๆ นาๆ ว่าค่าไฟจะลด จะลดราคาพลังงานยังไง แต่ท่านอย่าไปเออออตามเขา ลองเอ๊ะบ้างว่า เขาเป็นรัฐบาลในยุคปัจจุบัน ถ้าทำได้ ทำไมเขาไม่ทำไปเลย ทำไมต้องมาคอยให้เป็นรัฐบาลใหม่ ทำไมต้องรอให้ถึงวันที่ 14 พ.ค. ที่ต้องไปเลือกตั้ง ไม่ต้องคอย ถ้าทำได้ทำไปนานแล้ว” นายเศรษฐา กล่าว

นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า ถ้าหากพรรคเพื่อไทยได้รับเลือกให้เป็นรัฐบาล การประชุมคณะรัฐมนตรีค่าไฟจะลดลงอย่างแน่นอน และขอให้ประชาชนเชื่อในพรรคเพื่อไทยว่า “คิดใหญ่ ทำเป็น”

นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงเรื่องการเดินทางในด้านคมนาคมของประชาชน โดยระบุว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน รถไฟฟ้าจะ 20 บาทตลอดทั้งสาย และสามารถต่อรถรถโดยสารสาธารณะจบที่ราคา 30 บาททั้งหมดซึ่งเราคำนึงถึงความเดือดร้อน และความสะดวกสบายของประชาชนเป็นหลัก ฉะนั้นขอให้ไว้ใจพรรคเพื่อไทย

นายเศรษฐา ยังพูดถึงเรื่องการเพิ่มรายได้ของเกษตรกรรม 3 เท่าตัวภายใน 4 ปีที่เป็นรัฐบาล รวมถึงเรื่องรายได้ค่าแรงขั้นต่ำ ตามนโยบายพรรค ที่จะต้องมีอย่างน้อย 600 บาท ซึ่งนายเศรษฐากล่าวว่า ภายในปีแรกจะได้รับ 400 บาทอย่างแน่นอน

นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงนโยบายบุตรหลานที่เรียนจบปริญญาตรีรับ 25,000 บาท รวมทั้งการรับประกันรายได้ครอบครัวละ 2 หมื่นบาท ซึ่งนายเศรษฐา กล่าวว่าทีมงานของเพื่อไทยจะไปสำรวจว่าครอบครัวไหนมีรายได้ ไม่ถึง 2 หมื่น เราจะเติมเงินให้ไปเลย 2 หมื่นบาท

อีกทั้งยังมีนโยบายเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ซึ่งนายเศรษฐากล่าวว่า “ถ้าท่านมี 5 คน รับไป 5 หมื่น ถ้าท่านมี 10 คน ก็รับไปเลย 1 แสนบาท ซึ่งจะไม่มีอีกแล้วกับการหยอดน้ำข้าวต้มครั้งละ 500 -1,200 บาท ซึ่งพรรคเพื่อไทยให้ 1 หมื่นบาทสำหรับการตั้งตัว ทั้งนี้เงินที่ได้จะไม่ได้สร้างประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนเพียงอย่างเดียว เพราะถ้าเศรษฐกิจดี พี่น้องมีเงินเยอะ มีรายได้ในกระเป๋าเพิ่มมากขึ้นร้านค้าก็สามารถค้าขายได้ดีเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน

นายเศรษฐา ยังกล่าวอีกว่า ไม่ต้องกลัวรัฐบาลไม่มีเงิน พรรคเพื่อไทยคิดใหญ่ทำเป็น เรามีวินัยทางด้านการเงินการคลัง เราจัดสรรหางบประมาณส่วนนี้มาได้อย่างแน่นอน ซึ่งนายเศรษฐาขอให้ประชาชนเชื่อมั่นใจพรรคเพื่อไทย ถึงแม้จะมีบางพรรคที่คอยวิจารณ์ก็ตาม

“มีบางพรรคพูดเหน็บเหลือเกิน กระแนะกระแหนแดกดันเราว่าจะทำไม่ได้ อย่าไปเชื่อ เพราะพรรคเพื่อไทยคิดใหญ่ทำเป็น ถ้าท่านเชื่อมั่น ว่าพรรคเพื่อไทยทำได้ก็ทำได้” นายเศรษฐากล่าว

นายเศรษฐา กล่าวทิ้งท้ายว่า นโยบายดีๆ เหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ทุกท่านให้ความไว้วางใจกับ ส.ส. ทั้ง 33 คน ในกทม. ซึ่งใน 25 คน เป็นคนรุ่นใหม่ เป็นครั้งแรกที่มาสมัครขอคะแนนจากพี่น้องประชาชน เป็นคนที่พรรคเพื่อไทยคัดสรรมาอย่างดี รู้ซึ้งถึงความต้องการของพี่น้องประชาชน

“วันที่ 14 พ.ค. กระผมในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มาวันนี้ที่นี่ มาวิงวอนขอร้องขอคะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชน เพื่อขอให้เลือก ส.ส.รุ่นใหม่ที่ขยันทำงาน มีความตั้งใจจริง มารับใช้พี่น้องประชาชน ขอรบกวนให้เลือกทั้งคนทั้งเขตของพรรคเพื่อไทยเข้าสู่สภา” นายเศรษฐากล่าว

Related Posts

Send this to a friend