‘ชัยธวัช’ มองต้นแบบนายกฯ ที่ดี ต้องฟังเสียงประชาชนเป็นหลัก
เมิน ส.ว. บางคนบอกทำบ้านเมืองลุกเป็นไฟ เพราะไม่ใช่ความเห็น ส.ว.ทั้งหมด
วันนี้ (2 มิ.ย.66) นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แนะนำ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้ดู พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นแบบอย่างที่ดี โดยประเด็นดังกล่าวเห็นว่า นายกรัฐมนตรีที่ดีต้องเป็นคนที่ฟังเสียงประชาชนเป็นหลักมากกว่า
ส่วนกรณีที่ นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว.ให้สัมภาษณ์ว่าหากนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี บ้านเมืองจะลุกเป็นไฟ นายชัยธวัช ระบุว่า ขออย่าเพิ่งสรุปว่าเป็นความเห็นของ ส.ว.ส่วนใหญ่ เท่าที่หารือส่วนใหญ่มีเจตนาดี เห็นตรงกันว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโอกาสที่จะออกจากความขัดแย้งทางการเมืองเกือบ 20 ปี เริ่มต้นปฏิรูปเรื่องต่าง ๆ อย่างเป็นรูปธรรม ส.ว.ส่วนใหญ่อยากเห็นการปฏิรูปราชการ การกระจายอำนาจ แก้คอรัปชั่น ปฏิรูปการศึกษาและระบบเศรษฐกิจ
ส่วนที่ระบุว่ากลุ่มคนจงรักภักดีพร้อมที่จะเข้ากรุงฯ นั้น จะเป็นการปลุกปั่นหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า เป็นมุมมองส่วนตัว แต่พรรคก้าวไกลและ ส.ว.หลายท่านไม่ได้มองเช่นนั้น เป็นเรื่องละเอียดอ่อน สังคมไทยไม่อยากเห็นความขัดแย้งทางการเมืองแบบเดิม ดึงสถาบันพระมหากษัตริย์มาปะทะกับผลการเลือกตั้ง มองว่าสถานการณ์ไม่น่าจะเดินไปตามนั้น ทั้งนี้ประเด็นรัฐบาลแห่งชาติของนายจเด็จ อินสว่าง ส.ว. คงไม่ใช่หนทางยุติความขัดแย้ง อาจกลายเป็นชนวนทำให้เกิดความขัดแย้ง
สำหรับการประชุมความคืบหน้าจัดตั้งรัฐบาลในวันที่ 6 มิ.ย.66 ที่พรรคเพื่อไทย เป็นการประชุมของคณะกรรมหารประสานงานการเปลี่ยนผ่าน ยังไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องประธานสภาฯ โดยหลังจากนี้แกนนำพรรคน่าจะได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจนภายในเดือน มิ.ย. โดยเบื้องต้นได้มีการพูดคุยเรื่องรายชื่อผู้ที่เหมาะสมอยู่บ้าง ส่วนบุคคลในพรรคก้าวไกลที่ปรากฏเป็นข่าว เป็นเพียงการคาดเดาของสื่อมวลชน หลังจากนี้จะต้องมีการพูดคุยกันระหว่าง 2 พรรคอีกครั้ง และหากจะต้องมีการเสนอชื่อก็ต้องได้รับความเห็นชอบในที่ประชุมจากทั้งหมด 8 พรรคร่วมด้วย
ส่วนการพิจารณา ของ กกต. เรื่องการถือหุ้นสื่อไอทีวีของนายพิธา ขณะนี้ยังไม่มีการเรียกเข้าไปให้ข้อมูลกับทาง กกต. และไม่ได้มีความกังวลใด ๆ พร้อมชี้แจงข้อเท็จจริง และมั่นใจจะไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้นจากเรื่องนี้ คาดว่ากระบวนการจะเริ่มหลังจาก กกต.รับรอง ส.ส ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนและระเบียบกฎหมาย