POLITICS

‘สุทิน’ พอใจภาพรวมการอภิปรายของฝ่ายค้าน มองซีกรัฐบาลยังตอบไม่ชัดเจน โดยเฉพาะจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค และส่วนต่าง

นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงภาพรวมการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันแรกว่า ฝ่ายค้านกำลังพยายามชี้ให้เห็นถึงคนที่อยู่เบื้องหลัง และคนที่เชื่อมโยงผลประโยชน์ของวัคซีนซิโนแวค แต่กลับถูกห้ามอภิปรายพาดพิงถึงบุคคลภายนอก จากประธานการประชุม ทำให้การอภิปรายมีข้อจำกัด อภิปรายไม่เต็มที่ ไม่สามารถเปิดข้อมูลได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น จึงอยากให้มีการปรับข้อบังคับ เพื่อให้อภิปรายได้เต็มที่ หรือให้สมาชิกฝ่ายค้านปรับวิธีการอภิปรายใหม่

ขณะเดียวกัน พอใจในการทำงานของฝ่ายค้าน แต่เมื่อวานนี้ (31 ส.ค. 64) อาจจะยังไม่เข้มข้น ซึ่งจะเข้มข้นในวันนี้ไปจนถึงวันสุดท้าย และสิ่งที่รัฐบาลปกปิดข้อมูลผู้ติดเชื้อ ซึ่งพรรคฝ่ายค้านมองว่ามีข้อพิรุธ เนื่องจากมีการตรวจที่น้อยลง และมีการแจกชุด ATK ให้ประชาชนตรวจที่บ้าน และพบมีการติดเชื้อจำนวนมาก ซึ่งมองว่ามีผู้ติดเชื้อนอกระบบอีกจำนวนมาก ตัวเลขในระบบจึงน้อยลง เป็นการตกแต่งตัวเลขอำพรางสถานการณ์โควิด

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังตอบคำถามแบบไม่ชัดเจน ยังยืนยันว่า ทำงานได้ดี แก้ปัญหาได้ดี ฐานะการเงินการคลังยังดี เศรษฐกิจแข็งแรงกำลังฟื้นตัว ซึ่งทำให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีไม่ยอมรับความจริง ขณะเดียวกันไม่มีการตอบคำถามเรื่องการซื้อขายวัคซีนซิโนแวค ที่รัฐบาลเคยบอกว่า ซื้อแบบจีทูจี ไม่ต้องเสียภาษี แต่สิ่งที่ฝ่ายค้านอภิปรายมีการเปิดหลักฐานเรื่องการเสียภาษี ซึ่งจากข้อมูลที่ปรากฎทั้งหมดใครเป็นคนโกหกกันแน่ รัฐบาลยังไม่ยอมรับและกลับมากล่าวหาฝ่ายค้านและคนวิจารณ์ด้อยค่าซิโนแวค

จึงอยากถามว่า ทำไมถึงผูกมิตรกับจีน ทำไมไม่ผูกมิตรกับวัคซีนยี่ห้ออื่นๆ และยังมีเรื่องที่ไม่ใส่ใจในการชี้แจง โดยเฉพาะเรื่องส่วนต่างวัคซีน ที่ ครม. อนุมัติ 17 เหรียญต่อโดส และต่อมามีการจัดซื้อที่ลดลงจนถึง 8.5 เหรียญต่อโดส แต่ ครม.ยังอนุมัติเงินเท่าเดิม ซึ่งการตอบคำถามยังไม่มีชัดเจน ตอบเพียงว่า เงินที่เหลือก็เข้าคลังไป ซึ่งฝ่ายค้านจะขอหลักฐานการจ่ายเงิน จะตามใบเสร็จมาแสดงให้ได้ เพราะส่วนต่างเป็นเงินจำนวนมาก แต่มากเท่าไหร่ก็ไม่พอกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น

ส่วนกรณีที่มีการตั้งคำถามว่า ฝ่ายค้านใช้คำรุนแรงไปหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า เป็นการสะท้อนความรู้สึกที่สอดคล้องกับอารมณ์สังคม และระดับของปัญหาที่เกิดขึ้น

นายสุทิน ยังกล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า จะไม่ยุบสภา และไม่ปรับ ครม.ว่า การพูดลักษณะนี้สะท้อนถึงความดื้อ โอหังคลั่งอำนาจ เพราะยังฟังไม่จบ ถือว่าปิดฉากการรับรู้เป็นโรคแพ้ไม่เป็น ซึ่งจุดจบมี 2 ทางคือ ถ้าไม่ออกก็จะมีคนทำให้ออก หรือการฆ่าคนตาย ถ้าไม่ฆ่าคนอื่น คนอื่นก็ไปฆ่าตัวเอง แต่สังหรณ์ใจว่าจะมีคนปลดมากกว่า

Related Posts

Send this to a friend