อนามัยโพล พบ ปชช.ป้องกันตนเองมากขึ้น หลังผ่อนคลายมาตรการ
ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่รวม ATK วันนี้ กว่า 7 พันคน
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยข้อมูลการสำรวจอนามัยโพลของกรมอนามัย เรื่อง “แนวโน้มพฤติกรรมการปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันโรค” ระหว่างวันที่ 24 – 27 มิถุนายน 2565 หลังจากการประกาศราชกิจจานุเบกษา พบว่า ประชาชนสวมหน้ากากเมื่อเข้าสถานที่ปิด เมื่อใกล้ชิดผู้ป่วย ผู้มีความเสี่ยงสูง หรือร่วมกิจกรรมที่มีคนรวมตัวกันหนาแน่น เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 89.7 เป็นร้อยละ 91
ส่วนการล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์ทุกครั้ง เมื่อสัมผัสวัตถุหรือสิ่งของที่ใช้ร่วมกัน เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 89.8 เป็นร้อยละ 91 และคัดกรองตนเองเมื่อมีอาการ หรือเมื่อมีความเสี่ยงด้วย ATK เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 81.4 เป็น 83.5
“แม้จะมีการผ่อนคลายมาตรการให้สวมและถอดหน้ากากตามความสมัครใจได้ แต่ขอแนะนำ ให้ประชาชนยังคงป้องกันตนเองอย่างเหมาะสม โดยให้สวมหน้ากากเมื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่นในสถานที่ที่มีความแออัด มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก และไม่สามารถเว้นระยะห่างได้ รวมทั้งสถานที่ที่มีการระบายอากาศไม่ดี ส่วนในกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะกลุ่มที่หากติดเชื้อแล้วมีอาการรุนแรง ได้แก่ กลุ่ม 608 และผู้ที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ควรสวมหน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีตลอดเวลา เมื่อต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่น เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการแพร่ของโรค” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
ด้าน พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า ในประเด็นการถอดหน้ากากอนามัย ศบค.ชุดเล็กได้ติดตามและประเมินสถานการณ์ตลอด แต่มาตรการดังกล่าวไม่ใช่ให้ทุกคนถอดหน้ากากอนามัยได้ ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ยังขอให้ใส่หน้ากากตลอดเวลา และขอให้ประชาชนฟังมาตรการแต่ละพื้นที่ที่อาจแตกต่างจากคำสั่งส่วนกลางได้ เช่นเดียวกับผู้ให้บริการต่างๆ ที่สามารถออกประกาศเฉพาะส่วนที่รับผิดชอบได้
ส่วนสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 วันนี้ (1 ก.ค. 65) ศบค. รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 2,354 คน เป็นผู้ป่วยในประเทศ 2,350 คน ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 4 คน ติดเชื้อเข้าข่าย/ตรวจด้วย ATK 4,814 คน เสียชีวิต 16 คน
สำหรับตัวเลขผู้ป่วยกำลังรักษา อยู่ที่ 24,115 คน แบ่งเป็นอยู่ในโรงพยาบาลหลัก 10,415 คน โรงพยาบาลสนามและอื่นๆ 13,700 คน มีผู้ป่วยอาการหนัก (ปอดอักเสบ) รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล เพิ่มเป็น 690 คน ต้องใช้ท่อช่วยหายใจ 286 คน