POLITICS

“อนุทิน” ตั้งเป้า หวังพัฒนากัญชาพันธุ์ไทย ไประดับ “เมดิคัลเกรด”

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงนโยบายเกี่ยวกับปากท้องของประชาชนหากมีโอกาสได้ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุขตามโผ ว่า นโยบายกัญชา เป็นนโยบายที่เราจะทิ้งไม่ได้ เราเริ่มนโยบายนี้จากตัวเราเอง และพูดคุยกับประชาชน พบว่าคนไทยจำนวนมาก เมื่อเข้าสู่วัยหนึ่งจะมีอาการปวดหัว ปวดตัว ต่อมาเราศึกษาพบว่าในทางการแพทย์แผนไทย สามารถใช้กัญชารักษาได้ ตรงนั้นคือตัวจุดประกายความคิด ก่อนที่เราจะลองไปพูดคุยกับภาคส่วนต่างๆ ซึ่งล้วนเห็นด้วยว่าควรผลักดันกัญชา ให้เป็นพืชเศรษฐกิจ และพืชทางการแพทย์ แม้กระทั่งทางรัฐบาลเองก็ได้เริ่มต้นเรื่องกัญชาเอาไว้แล้ว แต่กฎหมายบ้านเรายังมีข้อจำกัดมากเกินไป เราจึงตั้งใจจะเข้าไปแก้ไขผ่อนปรน เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์จากกัญชาอย่างเท่าเทียมกันมากที่สุด

ที่สุดแล้ว พรรคจึงบรรจุเรื่องนี้เป็นนโยบายหาเสียง และในอนาคต ตนอยากให้ใครก็ตามที่ปวดหัว นอนไม่หลับ ทานลำบาก เมื่อคุณมีใบรับรองแพทย์ คุณไปซื้อน้ำมันกัญชากับเภสัชกรได้เลย

นายอนุทิน กล่าวต่อไปว่า กัญชาพันธุ์ไทย เป็นหนึ่งในพันธุ์ที่ดีที่สุดในโลก แต่เราต้องพัฒนาสายพันธุ์ให้ดียิ่งขึ้นไป ให้เป็นพันธุ์ที่อยู่ในระดับของ “เมดิคัลเกรด” หรือเป็นพันธุ์ที่เหมาะแก่การใช้งานในทางการแพทย์ ซึ่งตนคิดว่าสมควรให้หน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญไปดูแลรับผิดชอบ จากนั้นจึงค่อยแจกจ่ายให้ชาวบ้านไปปลูก เพื่อเป็นยาประจำบ้าน และเป็นรายได้เสริมของประชาชนอีกช่องทางหนึ่ง

ต่อคำถามว่ากังวลหรือไม่ว่าประชาชนจะติดกัญชา ในลักษณะเป็นยาเสพติด นายอนุทิน ได้กล่าวว่า เราต้องมีกฎหมายมาจัดการเรื่องนี้ให้ชัดเจน การปลูก การแปรรูป การซื้อขายต่างๆ ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐ แต่ไม่ใช่ไปเอื้อประโยชน์ให้บางคนบางกลุ่มเข้ามาผูกขาด

นอกจากนั้น ตนยังมั่นใจว่าคนไทยมีความรู้ผิดชอบ รู้ว่าควรใช้ปริมาณเท่าไร จึงจะเหมาะสม นอกจากนี้ เรายังมองไปถึงเรื่องของการพัฒนาสินค้าจากกัญชงด้วย เนื่องจากมีสรรพคุณทางการแพทย์คล้ายกับกัญชา และยังสามารถใช้เส้นใยมาผลิตสินค้าอื่นได้อีกด้วย โดยในส่วนของกัญชง เราจะสนับสนุนให้เป็นวิสาหกิจชุมชน

“ผมเพิ่งลงพื้นที่ จังหวัดสตูล ไปที่โรงพยาบาลละงู เห็นผู้ป่วยติดเตียง ก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าผู้ป่วยได้ยากัญชา คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยจะดีขึ้นมากแค่ไหน ถ้าประชาชนเข้าถึงกัญชาได้ง่ายขึ้น ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาน่าจะดีขึ้น เพราะมีราคาถูกกว่ายาแผนปัจจุบัน” นายอนุทินกล่าว

นายอนุทินยังได้กล่าวถึงนโยบายการยกระดับ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ว่า ประเทศไทย มี อสม. เป็นหลักแสนคน เราควรจะพัฒนาพวกเขาให้เข้ามาอุดช่องโหว่ในด้านการสาธารณสุข สามารถช่วยดูแลชาวบ้านในระดับเบื้องต้นได้ เป็นทางเลือกแรก ก่อนที่ประชาชนจะต้องเสียเงิน เสียเวลาเข้าไปหาหมอในเมือง นโยบายของตน และของพรรคภูมิใจไทยเป็นนโยบายที่เราศึกษามาอย่างดี โดยยึดหลักของความเป็นไปได้ และทำได้ทันที จึงไม่ใช่การขายฝันอย่างแน่นอน

เมื่อถามถึงเรื่องเสถียรภาพของรัฐบาล นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลทำดี มีผลงาน ไม่มีข่าวเสีย ก็อยู่ได้ หลักการทำงาน ก็ขอให้พูดคุยกัน ประคองกันไป ทำงานให้ประชานถูกใจ ส่วนตัวไม่เน้นเรื่องแตกหัก ขัดแย้งอยู่แล้ว แต่อยากให้ทุกภาคส่วนช่วยกันนำพาบ้านเมืองสู่ความเจริญ ประชาชนอยู่ดี กินดี

Related Posts

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Send this to a friend