POLITICS

“ทวี สอดส่อง” ร่วมกิจกรรม “ปลดอาวุธ คสช.” ดัน สภาฯ ยกเลิกประกาศ คสช. 35 ฉบับ

...ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติร่วมกิจกรรมปลดอาวุธ คสช.” ยืนยันจะผลักดันสภาฯ ให้ยกเลิกประกาศ คสช.35 ฉบับ ตามที่ภาคประชาชน 10,000 รายชื่อเสนอมา ย้ำ! ..โหวตประยุทธ์เป็นนายกฯ ขัดกันแห่งผลประโยชน์ และประจักษ์ชัด ศาลตัดสินประยุทธ์เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ขัดคุณสมบัติเป็นนายกรัฐมนตรี

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ร่วมแถลงจุดยืนของพรรคประชาชาติ ต่อร่างพระราชบัญญัติยกเลิกประกาศและคำสั่ง คสช.และคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ขัดกับหลักสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย ในกิจกรรมปลดอาวุธ คสช. ทวงคืนสถานการณ์ปกติที่จัดโดยกลุ่มไอลอว์ (iLaw) โดยมีตัวแทนพรรคการเมืองต่างๆร่วมแถลงจุดยืนด้วย เช่น พลโทภราดร พัฒนาถาบุตร ตัวแทนพรรคเพื่อไทย, พลโท พงศกร รอดชมพู ตัวแทนพรรคอนาคตใหม่, คุณวิรัตน์ วรศสิริน ตัวแทนพรรคเสรีรวมไทย , ดร.วิโชติ วัณโณ ตัวแทนพรรคเพื่อชาติ และนายอลงกรณ์ พลบุตร ตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ จัดขึ้นที่ห้องประกอบ หุตะสิงห์ อาคารอเนกประสงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง กล่าวว่าวันนี้มีพรรคการเมืองที่ได้นั่งในสภาทั้งหมด 27 พรรค และมีพรรคฝ่ายค้าน 7 พรรค เราต้องยอมรับว่าหลังจากปฏิวัติรัฐประหารมันเป็นการปกครองแบบเผด็จการ แล้วมีการร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาที่ดูเนื้อหาอย่างละเอียดแล้วไม่ได้รับใช้ประชาชน แต่รัฐธรรมนูญฉบับนี้ทำหน้าที่รับใช้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่เปิดโอกาสให้ประชาชน เราจะเห็นว่าหลังการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา มีพรรคที่ประกาศตนว่าสนับสนุนประชาธิปไตย บอกว่าคะแนนรวมชนะ แต่เขาใช้เวลาไม่ถึง 2 เดือนทำให้คะแนนรวมไม่ถึง 250 เสียง และที่เจ็บปวดมากที่สุดที่ประชาชนต้องถือเป็นบทเรียนคือ พรรคการเมืองบางพรรคหาเสียงว่าจะไม่สืบทอดอำนาจ คสช.ประชาชนก็ตัดสินใจเลือก แต่ด้วยกลไกของรัฐธรรมนูญหรือใช้อำนาจอะไรก็แล้วแต่ ได้บีบให้พรรคการเมืองเหล่านั้นลืมประชาชน โดยลืมไปว่าเขาเป็น ส..ได้นั้นมาจากอำนาจของประชาชน เปรียบได้กับการกำเนิด เราต้องไม่ลืมบุญคุณพ่อแม่ แต่วันนี้เขาอกตัญญูต่อพ่อแม่

“7 พรรคการเมืองฝ่ายค้านเราไม่ได้ถูกใครครอบงำ เรามีเอกลักษณ์ของแต่ละพรรค แต่เรามีอุดมการณ์ร่วมกันคือทำให้บ้านเมืองไปสู่ประชาธิปไตย เพราะยังยังแก้ปัญหาบ้านเมืองด้วยเผด็จการ จะมีแต่ความเหลื่อมล้ำ เราเชื่อว่าหลักการประชาธิปไตยเท่านั้นจะเป็นช่องทางจะนำประเทศไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองสู่สังคมไทย ซึ่ง 7 พรรคฝ่ายค้านเรารับปากกับประชาชนแล้วว่าจะนำอำนาจอธิปไตยกลับสู่ประชาชน ซึ่งพรรคประชาชาติมีแนวทางแก้ไข 3 ระดับ คือระดับที่หนึ่ง ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ อาจารย์ประจักษ์ นักวิชาการ พูดว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้จะนำไปสู่ระบอบประยุทธ์ ซึ่งเชื่อว่าประชาชนทั่วประเทศต้องการระบอบประชาธิปไตย สามกลุ่มสำคัญที่จะต้องทำงานร่วมกัน คือสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรขับเคลื่อนในสภา ทำหน้าที่ฝ่ายค้านที่ไม่ใช่ขอเป็นรัฐบาล แต่ค้านเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน สองคือพรรคการเมืองต้องร่วมมือกับสมาชิกและประชาชนเพื่อนำประชาธิปไตยคืนมา อย่างน้อยที่สุดให้ประกาศของ คสช.35 ฉบับที่ภาคประชาชนได้รวบรวมรายชื่อกว่า 10,000 ชื่อให้เสนอยกเลิกนั้น ได้ถูกยกเลิกไป

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ

รัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้นเป็นการเขียนโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เขาเขียนว่าคนที่จะเป็น ส.. .. รัฐมนตรี ต้องมีมาตรฐานทางจริยธรรม ต้องมีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ ซึ่งท่านอาจารย์วันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติบอกว่าดูรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่ปรากฏ ท่านไม่เห็นความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์เลย มีแต่ความทุจริตเป็นที่ประจักษ์ หลายคนเข้ามาเป็นรัฐมนตรีได้อย่างไร เมื่อเรามีมาตรฐานทางจริยธรรมแล้ว ต้องเข้ามาทำหน้าที่เพื่อสาธารณประโยชน์ แต่นี่ไม่ใช่ เพราะแต่งตั้ง ส..เพื่อให้ ส..กลับมาเลือกตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี สิ่งสำคัญที่ในรัฐธรรมนูญเขียนไว้คือการขัดกันแห่งผลประโยชน์ มาตรา 113 ..ต้องมีความเป็นกลางทางการเมือง แต่การโหวตนายกรัฐมนตรีกลับปรากฎว่า ส..เลือกพลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีทั้งหมด ถ้าเป็นต่างประเทศเรียกระบบนี้ว่าทาส

ผมเติบโตมากับการบังคับใช้กฎหมายและระบบยุติธรรม เราต้องให้ความยุติธรรมอยู่เหนือกฎหมาย เพราะรากเหง้าของกฎหมายมาจากความยุติธรรม แม้การเมืองจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรก็ตาม แต่ความยุติธรรมต้องอยู่ มนุษย์ต้องมีสิทธิ เสรีภาพ เสมอภาค ต้องมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และมนุษย์ต้องมีความยุติธรรม จะเห็นว่าคำสั่ง คสช.หมวดสิทธิเสรีภาพได้ขยายโอกาสให้ทหาร ผู้ร่างกฎหมายต้องมาจากประชาชนเลือกตั้ง ไม่ใช่มาจากการแต่งตั้ง ทำให้กฎหมายอยู่ในอุ้งมือของคนคนหนึ่ง ทำให้คำสั่ง คสช.ทั้ง 7 ฉบับไม่ยุติธรรมกฎหมายจะเป็นธรรมได้ เมื่อผู้พิพากษายุติธรรมรู้หรือไม่ว่ากฎหมายใหม่ให้อำนาจผู้พากษาประหารชีวิตคนได้ เชื่อหรือไม่ว่าเราไม่เคยมีการตรวจสอบผู้พิพากษา บุคคลในกระบวนการยุติธรรม ผู้บังคับใช้กฎหมาย ซึ่งต้องไปใช้อำนาจตุลาการ วันนี้อำนาจตุลาการสามารถขังคนได้ 7 วัน ดังนั้นคำสั่ง คสช.หมวดสิทธิเสรีภาพที่ไอลอว์เสนอไปคิดว่ายากที่เขาจะให้ผ่าน

คำสั่ง คสช.ที่คิดว่าน่าเสนอผ่านได้คือหมวดสิ่งแวดล้อม สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดคือนโยบายการทวงคืนผืนป่าของ คสช. ประกาศความสำเร็จว่าสามารถบุกยึดที่ดินคืนได้ 600,000 ไร่ แต่ได้ตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศพบว่าผืนป่าหายไป ปีละเกือบแสนไร่ ที่เขาประกาศทวงคืนผืนป่านั้น คือการยึดที่จากชุมชน ยึดจากประชาชนมา ที่จริงทรัพย์สินของประชาชนก็คือทรัพย์สินของชาติ ถึงเวลาที่เราต้องปฏิรูปเรื่องที่ดิน ป่าไม้ และสิ่งแวดล้อมใหม่

สิ่งสำคัญอีกประการ เราได้เลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม แต่วันที่ 27 มีนาคม คสช.ได้อนุมัติรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สถานี ระยะทางเพียง 226 กม. เท่านั้น ปกติเราจะเห็นรถไฟความเร็วสูงจะวิ่งในเส้นทางเชื่อมระหว่างเมืองหรือประเทศ แต่นี่เชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิสนามบินดอนเมืองสนามบินอู่ตะเภา ซึ่งมีสถานีย่อยๆ 39 สถานี แล้วจะเป็นรถไฟความเร็วสูงได้อย่างไร เมื่อจะตรวจสอบ TOR ปรากฎว่าไม่มี! นี่คือสิ่งที่อันตรายที่สุด นำงบประมาณของรัฐ 119,000 ล้านบาท แล้วเชื่อมกับแอร์พอร์ตลิงค์ 140,000 ล้านบาท ซึ่งผู้ที่ได้ประโยชน์มากที่สุดคือบริษัทที่เป็นที่ปรึกษา นั่นคือคนที่รวยที่สุดในประเทศไทย! มีสิทธิ์เช่าได้ 50 ปี และต่อสัญญาได้อีก 49 ปี และยังประเคนให้เช่าที่ดินบริเวณมักกะสันให้เช่าในราคาถูก ที่สำคัญคือไม่มีการทำ TOR เรื่องสิ่งแวดล้อม แต่เชื่อมั่นว่า เมื่อความจริงปรากฏความชั่วร้ายจะหายไป

ทำไม คสช.ถึงไม่รอรัฐบาลใหม่ในการอนุมัติรถไฟความเร็วสูง น่าตกใจที่มีคนพูดกันว่าคนไทยเราจะตกเป็นทาสจีน ภายใต้บริษัทไชน่าอะไรสักอย่าง อดีตที่ผ่านมาเราเคยมีประวัติศาสตร์เรื่องโฮปเวลแล้ว แต่ครั้งนี้เหมือนเราเสียเอกราชเลย!”

คำสั่ง คสช.ด้านสิ่งแวดล้อม 13 ฉบับนี้ เห็นควรที่จะให้ประชาชนหรือไอลอว์เข้าไปเป็นกรรมาธิการด้วย

ส่วนเรื่องสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนมั่นใจว่าสื่อมวลชนเข้าใจดีว่าเป็นอย่างไร เพราะสิทธิของสื่อมวลชนคือสิทธิเสรีภาพของประชาชน

คุณสมบัติ บุญอนงค์ (บก.ลายจุด) ได้สู้คดีว่าพลเอกประยุทธ์ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (15) การเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเป็นคุณสมบัติต้องห้าม ซึ่งได้มีการสู้คดีจนถึงศาลฎีกา  ซึ่งศาลได้ตัดสินแล้วว่าพลเอกประยุทธ์เป็นเจ้าหน้าที่รัฐตามกฎหมายอาญา! สังคมไทยต้องเคารพศาล และยังมีคดีทางแพ่งอีกหลายคดี ก็มีการตีความว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ดังนั้นพลเอกประยุทธ์มีคุณสมบัติต้องห้ามเป็นนายกรัฐมนตรี

จากนั้นตัวแทนพรรคการเมืองได้ถ่ายรูปร่วมกัน ก่อนที่ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง จะร่วมเข้าชื่อปลดอาวุธ คสช. เพื่อเสนอยกเลิกประกาศและคำสั่ง คสช.ต่อไป

โดยกิจกรรมนี้ได้จัดขึ้นสืบเนื่องจาก 5 ปีที่ผ่านมา ที่อยู่ภายใต้การปกครองของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ใช้อำนาจพิเศษออกประกาศและคำสั่งรวมกันแล้วอย่างน้อย 537 ฉบับ บังคับใช้ควบคู่กับกฎหมายในระบบปกติ ปัจจุบันได้มีการเลือกตั้งแล้ว ถือว่า คสช.​ ได้สิ้นสุดอำนาจแล้ว ประกาศและคำสั่งเหล่านี้จึงควรสิ้นสภาพไปด้วย แต่รัฐธรรมนูญมาตรา 279 กลับรับรองให้มีผลบังคับใช้ต่อไปได้จนกว่าจะมีการออกกฎหมายยกเลิก

กลุ่มภาคประชาชน 23 เครือข่ายจึงใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 133(3) เข้าชื่อจำนวนมากกว่า 10,000 คน เพื่อเสนอยกเลิกประกาศและคำสั่ง คสช. รวม 35 ฉบับ ที่เกี่ยวข้องกับ 4 ประเด็น ได้แก่ ประเด็นเสรีภาพการแสดงออกของประชาชน เสรีภาพสื่อมวลชน สิทธิในกระบวนการยุติธรรม และสิทธิในการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เพื่อเสนอร่างพ... ฉบับนี้ต่อรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้งซึ่งมีความชอบธรรมในการพิจารณาและออกกฎหมาย

Related Posts

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Send this to a friend