ด้านนางสาวกานต์กนิษฐ์ เปิดเผยว่าอยากให้มีการเยียวยาฟื้นฟูผู้เสียหายให้ได้รับการชดเชย สนับสนุนเงินทุนในการศึกษาหรือประกอบอาชีพเพื่อสามารถกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติ และผู้เสียหายต้องสามารถเข้าถึงกองทุนยุติธรรมได้โดยง่าย เพื่อให้การเยียวยาเป็นไปโดยเร็วจึงจะเป็นการเยียวยาอย่างแท้จริง
ขณะที่ นายฐนันดร์ศักดิ์ ยังระบุว่าอยากให้มีระบบติดตามผู้ต้องขังคดีทางเพศหลังการปล่อย โดยการนำระบบลงทะเบียนผู้กระทำผิดคดีทางเพศมาใช้ในประเทศไทย ซึ่งเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพและใช้ได้ในหลายประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และมาเลเซีย เป็นต้น นอกจากนี้ยังอยากให้การลงโทษผู้กระทำผิดในลักษณะนี้มีโทษ แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน เช่น การฉีดยาทำให้อวัยวะเพศฝ่อ ไม่ตื่นตัว เพื่อลดความต้องการทางเพศ การรับประทานยาและฮอร์โมนที่มีผลทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ การมีโทษจำคุกและห้ามประกอบอาชีพ จำคุกตลอดชีวิตไม่มีการลดโทษ เป็นต้น
จากนั้นนายสมศักดิ์ จึงพาคณะเดินทางไปยังชั้น 6 กระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นที่ทำการของศูนย์เฉพาะกิจเฝ้าระวังความปลอดภัยของประชาชน ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อติดตามผู้ต้องขังคดีรุนแรง เช่น ฆ่าต่อเนื่อง ฆ่าข่มขืน ซึ่งเวลานี้กำลังพัฒนาระบบ รวมถึงจัดทำกฎหมาย ในการติดตามตัวกลุ่มคนเหล่านี้ ส่วนประเด็นที่ยื่นข้อเสนอมา เช่น การคุ้มครองพยาน การเยียวยา การช่วยเหลือทางกฎหมาย ทางกระทรวงดำเนินการอย่างต่อเนื่องและเป็นเรื่องสำคัญที่ตนให้ความสำคัญเพราะเป็นเรื่องการช่วยเหลือประชาชน แต่ในข้อเสนอแนวทางการลงโทษที่เป็นประเด็นใหม่ก็ขอศึกษาก่อนว่าจะดำเนินการได้หรือไม่