ไทยสร้างไทย จี้รัฐเสนอ 9 ข้อเรียกร้องเร่งด่วน เพื่อช่วยไทยพ้นวิกฤติการระบาดใน 14 วัน
ดร.สุวดี พันธุ์พานิช รองโฆษกพรรรคไทยสร้างไทย กล่างถึงกรณีที่ ศบค.มีมติล็อคดาวน์ ว่า “ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตมีอัตราสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีท่าทีว่าจะลดลง สะท้อนให้เห็นว่า นายกรัฐมนตรีมีอำนาจสูงสุดใน บริหารจัดการโควิดแต่กลับล้มเหลว ในวันนี้หลังจากนายกประชุมกับ ศบค.ชุดเล็ก ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่ายินดีจะบริจาคเงินเดือนของตนเองทั้งหมดเพื่อช่วยเหลือประชาชน เหมือนเป็นการยอมรับว่าที่ผ่านมานายกจัดการโควิดได้ล้มเหลว”
ความจริงวันนี้ มีผู้ป่วยจำนวนมากไม่ได้รับเตียงและเสียชีวิตคาบ้าน รวมทั้งผู้ที่ไปต่อแถวเพื่อตรวจโควิดหลายร้อยชีวิต นอนรอตรวจข้ามคืน เป็นภาพที่ประชาชนคนไทยรู้สึกหดหู่ใจเป็นอย่างมาก
ข่าวลือเรื่องการล็อคดาวน์และการให้ข่าวที่สับสนของคนในรัฐบาลส่งผลให้เกิดความตระหนกในกลุ่มพี่น้องประชาชน และยังส่งผลไปถึงเศรษฐกิจของประเทศ นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น ถอนการลงทุนทำหุ้นตกอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ รัฐบาลได้ออกประกาศล็อคดาวน์ 10 จังหวัด เริ่มวันที่ 12 ก.ค. โดยไม่ได้สร้างความมั่นใจว่าแผนการของรัฐบาลจะสยบเชื้อที่ระบาดรุ่นแรงได้อย่างไร
พรรคไทยสร้างไทยขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล 9 ข้อดังต่อไปนี้
1.ให้รัฐบาล อนุมัติแจกชุดตรวจโควิดเบื้องต้นด้วยตนเอง (rapid test) ให้ทุกบ้าน ใน 10 จังหวัด ซึ่งระบาดหนัก พร้อมคู่มือการใช้งาน โดยให้คนที่มีผลตรวจ positive มาตรวจหาเชื้อด้วย RT-PCR เพื่อยืนยันผลเป็นการแยกผู้ป่วยออกจาก คนทั่วไปได้เร็วที่สุด ซึ่งต้องจัดให้มีสถานที่รอผลแยกจากครอบครัวและชุมชน
2.เพิ่มโรงพยาบาลสนามเขียว -เหลือง-แดง (ICU) ให้มากที่สุด สนับสนุนงบประมาณไม่จำกัดให้ทุกโรงพยาบาลเพิ่มความสามารถในการให้บริการ รวมถึงสนับสนุนให้เช่าโรงแรมเพื่อทำ Hospitel ช่วยชีวิตคนไข้ และยังช่วยต่อชีวิตพนักงานโรงแรม
3.จัดกำลังบุคลากรทางการแพทย์เสริมจาก ต่างจังหวัด จับคู่โรงพยาบาลพี่-น้องให้เข้ามาช่วยโรงพยาบาลในพื้นที่ระบาด เพื่อลดภาระงานที่อยู่ในขั้นสาหัส
4.การล็อคดาวน์ต้องมาพร้อมกับเยียวยา แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นมาตรการเยียวยาพี่น้องที่ลำบากในการทำกิน
5.ประกาศทวีคูณอายุราชการให้บุคคลทางการแพทย์ ให้สมกับการทำหน้าที่เสี่ยงภัย เนื่องจากวัคซีนที่ได้รับไม่ใช่วัคซีนที่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ดี
6.ตั้ง CI : Community Isolation แยกกักในชุมชน ทั้ง 50 เขต กทม. และในต่างจังหวัดทุกตำบลทั่วประเทศ โดยร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในต่างจังหวัดเพื่อแยกผู้ติดเชื้อและผู้ที่ต้องกักตัวออกจากชุมชนโดยสนับสนุนให้มีการจ่ายยาต้านไวรัส เช่น ฟาวิพิราเวียให้ประชาชนทันที
7.สำหรับประชาชนที่กักตนเองอยู่บ้าน HI : Home Isolation รัฐบาลจะต้องจัดทำคู่มือเพื่อให้ประชาชนกักตัวได้อย่างถูกต้อง โดยให้โรงพยาบาลว่าจ้าง อสม อสส ช่วยดูแลผู้ติดเชื้อในชุมชน
8.ปรับแผนการฉีดวัคซีนเชิงรุกในทุกคลัสเตอร์ เพื่อป้องกันการระบาด โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และกลุ่มโรคประจำตัว โรคเรื้อรัง ด่วน
9.จัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพให้แก่พี่น้องประชาชนเนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสมีหลายสายพันธุ์แต่มติของคณะรัฐมนตรีสัปดาห์ที่ผ่านมาจะจัดซื้อวัคซีนชิโนแว็กซ์ที่หลายฝ่ายได้ออกมาให้ความเห็น รวมทั้งงานวิจัย ว่าเป็นวัคซีนที่ไม่มีประสิทธิภาพโดยรัฐบาลจะอนุมัติงบประมาณกว่า 6111 ล้านบาท
ขณะนี้ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่สภาวะวิกฤตที่รัฐบาลล้มเหลวในการบริหารจัดการโควิดแล้วยังซ้ำเติมพี่น้องประชาชนด้วยการนำเข้าวัคซีนที่ไม่มีประสิทธิภาพจึงถือโอกาสนี้ขอเชิญชวนพี่น้องคนไทยร่วมลงชื่อเพื่อสนับสนุนให้ภาคไทยสร้างไทย ฟ้องรัฐบาล กรณีอนุมัติวัคซีน ที่ไม่มีประสิทธิภาพเข้าข่ายผิดกฏหมายอาญามาตรา 157 และขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 47 และมาตรา 55 ท่านสามารถลงชื่อฟ้องรัฐบาลได้ที่ https://www.thaisangthai.org/page/CnM74da7 ดร.สุวดีกล่าว