ด้านนายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมาธิการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน กล่าวเพิ่มเติมว่า การต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน นั้นอาจเป็นการเปิดช่องให้ก่อการทุจริตขึ้นมาเยอะ เพราะหลังจากที่มีคณะกรรมาธิการกลั่นกรองขึ้นมา และได้วินิจฉัยข้อขัดแย้งจนนำไปสู่การแก้ไขระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง เพราะโดยปกติ การจัดซื้อจัดจ้างโดยงบประมาณที่มีมูลค่าสูง จะต้องเข้าสู่กระบวนการประมูล หรือ e-bidding แต่ในระหว่างที่บังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่จำเป็นต้องใช้การจัดซื้อจัดจ้างแบบ e-bidding ไม่ว่าจะมูลค่าเท่าใดก็ตาม สิ่งเหล่านี้ชี้ให้เห็นถึงการคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้ตลอด 2-3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งได้อาศัยพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยกเว้นการประมูล
จากข้อสังเกตจะพบว่าเมื่อขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วแต่ยังไม่สามารถจัดซื้อจัดจ้างให้แล้วเสร็จทันเดือนมิถุนายน การจัดซื้อจัดจ้างจึงต้องทอดเวลาไปอีกอย่างน้อย 1 เดือน จึงได้เห็ยการขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปอีก 1 เดือนเช่นกัน โดยเฉพาะภายใต้เงื่อนไขการจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่ต้องประมูล นี่จึงเป็นข้อเท็จจริงที่ประจักษ์ชัด หากรัฐบาลเห็นว่าสิ่งที่พรรคเพื่อไทยได้สะท้อนไม่เป็นความจริงขอให้ชี้แจงว่าสิ่งที่ได้ทำเป็นการเปิดช่องไปสู่การทุจริจหรือไม่