ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะกล่าวถ้อยแถลงในนามอาเซียน เป็นโอกาสดีที่ไทยจะได้นำเสนอจุดแข็งพร้อมแสดงบทบาทนำด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนในเวทีระดับโลก ซึ่งสอดคล้องกับหัวข้อหลักของการเป็นประธานอาเซียนของไทย “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน” การกล่าวสุนทรพจน์ที่ Asia Society และ USABC เพื่อแจ้งถึงพัฒนาการต่างๆ ของประเทศไทย วิสัยทัศน์ของรัฐบาล และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน
ตลอด 5 ปีที่ผ่านมารัฐบาลดำเนินนโยบายเพื่อเสริมสร้างความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน โดยดำเนินการปฏิรูปทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม และได้ออกกฎหมายและปรับปรุงกฎหมายรวมกว่า 400 ฉบับ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป และเอื้ออำนวยต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศ
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนซึ่งเป็นรากฐานสำคัญที่สุดให้มีความพร้อมไปสู่ศตวรรษใหม่แห่งการเปลี่ยนแปลง ส่งเสริมให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ กำหนดนโยบายการศึกษาเป็นวาระเร่งด่วนในทุกระดับ ส่งเสริมโอกาสทางเศรษฐกิจของเกษตรกรและแรงงานในภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อลดช่องว่างรายได้ กำหนดมาตรการสนับสนุนเพื่อแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ สำหรับการรับมือกับสถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงรวดเร็วและไม่แน่นอน รวมทั้งสภาวะเศรษฐกิจโลกมีความผันผวนจากความขัดแย้งกีดกันทางการค้าระหว่างชาติมหาอำนาจ รัฐบาลได้เตรียมมาตรการรับมือไว้ในหลายลักษณะ เช่น การเจรจาข้อตกลงทางการค้าอาเซียน+6 หรือที่เรียกว่า RCEP การแสวงหาและร่วมมือกับคู่ค้าคู่ลงทุนใหม่ๆ ในภูมิภาค