“นพดล” ตั้งคำถาม นโยบายแก้รัฐธรรมนูญเป็นแค่วาทกรรม หรือวาระที่จะทำ
นพดล ชี้ไทยมีความรู้ในการแก้รัฐธรรมนูญมากเพราะสั่งสมประสบการณ์มาเยอะ แต่จะรอดูว่านโยบายเร่งด่วนแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลจะเปลี่ยนจากนโยบายในกระดาษมาเป็นวาระแห่งชาติได้หรือไม่
นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว. ต่างประเทศ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการแก้รัฐธรรมนูญว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีประสบการณ์การร่าง รัฐธรรมนูญมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก เราได้ศึกษารัฐธรรมนูญของหลายประเทศ และนำแนวคิดของเขามาใช้ แต่ก็ใช้แบบถูกบ้าง ผิดบ้าง ซึ่งตนเชื่อว่าเราไม่ขาดแคลนองค์ความรู้ในการทำให้กติกาดีขึ้น แต่ที่ยากคืออาจยังไม่ตระหนักว่ากติกาที่เป็นธรรมจะนำความรุ่งเรืองมาสู่ประเทศไทยได้อย่างไร
นายนพดลระบุว่าความท้ายทายในการแก้รัฐธรรมนูญ ประกอบด้วย
1. ทำอย่างไรจะมีการเสียสละความได้เปรียบทางการเมืองของตนเพื่อทำให้ประเทศไทยได้เปรียบและมีกติกาที่เอื้อให้เกิดการเมืองสุจริตและมีประสิทธิภาพ การเลือกตั้งที่เป็นธรรมและมีความหมาย ทำให้การเข้าสู่อำนาจบริหารและนิติบัญญัติยึดโยงกับประชาชน
2. ทำอย่างไรจะมีกระบวนการรับฟังความต้องการของประชาชนว่าต้องการเห็นการแก้ไขในเรื่องใดบ้าง
3. ทำอย่างไรจะไม่กล่าวหาใส่ร้ายกันในเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ เนื่องจากมนุษย์สามารถใช้เหตุผลและแลกเปลี่ยนความเห็นโดยใช้ ปัญญาและลดการกล่าวหาได้ เพราะท้ายที่สุดการแก้จะสำเร็จหรือไม่ต้องใช้เสียงจากทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และวุฒิสมาชิกในรัฐสภา
“ส่วนตัวเห็นว่าความจริงใจและความพร้อมที่จะร่วมทำกติกาให้เป็นธรรม และบรรลุเป้าประสงค์ข้างต้นสำคัญกว่าตัวผู้จะมานั่งเป็นประธานกรรมาธิการ พี่น้องประชาชนคงจะติดตามท่าทีของแต่ละพรรคการเมืองต่อไปว่า การแก้รัฐธรรมนูญนั้นบรรจุในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลเป็นเพียงวาทกรรม หรือเป็นวาระที่จะทำ และจะเปลี่ยนวาระในกระดาษ เป็นวาระแห่งชาติหรือไม่”
