LIFESTYLE

พระพยอม แนะ รับมือคนนินทา ต้องให้อภัย เมตตา วางเฉย ช่วยสร้างสังคมปลอดการริษยา

จากกรณี “เมาท์แรง” ที่กำลังเป็นที่พูดถึงอยู่ในสังคมขณะนี้ กับวิธีรับมือคนนินทาที่ดูเหมือนจะยาก เพราะเราไม่สามารถห้ามความคิดหรือห้ามไม่ให้ผู้อื่นพูดถึงเราในทางที่ไม่ดีได้ แต่แม้จะยากก็ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ โดยจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดคือ การเริ่มต้นที่ตัว และใจของเราเอง

พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กลฺยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ได้ให้ข้อคิดในเรื่องนี้ไว้น่าสนใจ โดยเฉพาะการหยุดสังคมแห่งการนินทา ที่เริ่มจากตัวเราเอง โดยเฉพาะความเมตตาสงสารผู้ที่นินทาผู้อื่น ปล่อยวาง และที่สำคัญคือให้อภัย ไม่โต้ตอบผู้ที่ว่าร้าย ส่วนคนที่ริษยาผู้อื่นโดยใช้คำพูดปทุษร้าย สุดท้ายแล้วผลกรรมย่อมกลับมาทำร้ายตัวเองไม่ช้าก็เร็ว

“สำหรับผู้ที่นินทาผู้อื่นนั้น คือคนที่อยู่ไม่ได้ เพราะเห็นคนอื่นได้ดีกว่า จึงได้ริษยาว่าร้ายเขา ซึ่งตรงกับสิ่งที่พระพุทธเจ้าได้เคยตรัสไว้ว่า ความริษยานั้นทำลายโลก ที่สำคัญผู้ที่นินทากาเลผู้อื่นนั้น ย่อมทำให้ตัวเองเสียเวลาไปวันๆหนึ่ง โดยเปล่าประโยชน์ เพราะพูดถึงเรื่องของผู้อื่น ที่สำคัญยังมีนิสัยที่ฝักใฝ่เรื่องของผู้อื่น และไม่ยอมทำหน้าที่ของตัวเอง ในการสร้างประโยชน์ให้สังคม ที่สำคัญความอิจฉานั้น จะทำให้ตัวเองทำงานไม่ดี อีกทั้งทำให้สติปัญญา ในการคิดไตร่ตรองสิ่งต่างๆ ก็ไม่ดีเช่นกัน เพราะเขาคิดถึงแต่เรื่องร้ายๆ ของคนอื่นอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นจึงทำให้การคิดหรือตัดสินใจต่างๆ ก็ทำได้ไม่เต็มที่เช่นกัน ที่สำคัญยังเป็นการปลูกฝัง การคิดลบอยู่ในหัวอยู่ตลอดเวลา” พระพยอม กล่าว

เมื่อถามท่านว่า หากเราถูกนินทาต้องทำอย่างไร พระพะยอม กล่าวว่า “เราห้ามความคิดของผู้อื่น หรือห้ามไม่ให้ผู้อื่นไม่นินทาเราไม่ได้ แต่เราสามารถห้ามใจตัวเอง หรือเราต้องรู้เท่าทันกับสิ่งที่เกิดขึ้น เช่นเสียงเม้าท์ต่างๆ ด้วยการสงเขา เมตเขา เพราะคนที่ชอบนินทากาเลผู้อื่นนั้น จริงๆแล้วเป็นเขาริษยาผู้อื่น เพราะเห็นว่าผู้อื่นได้ดีกว่าตัวเอง หรือไม่เช่นนั้นก็แนะนำให้วางอุเบกขา หรือรู้จักการปล่อยวาง เพราะการที่เราไม่รับพลังงานด้านลบ หรือคำนินทาร้ายๆโดยเก็บมาคิด สุดท้ายแล้วเราจะผ่านคำนินทาต่างๆไปได้”

“ส่วนผู้ที่นินทาว่าร้ายผู้อื่นนั้น ควรจะปรับปรุงตัวเองหรือไม่นั้น เราต้องมองว่า การนินทามันเข้าเส้นหรืออยู่ในสัญชาตญาณไปแล้ว ที่สำคัญการนินทาไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่วันเดียว แต่มันเกิดขึ้นได้เป็นเดือนเป็นปี กับการที่เขาชอบจับผิดเรื่องของผู้อื่น พูดง่ายๆว่าเป็นสันดานดิบ อันเกิดจากการไม่ได้รับการอบรมบ่มเพาะ ในเรื่องของความสงบเสงี่ยม ดังเช่นตอนต้นที่บอกไว้ว่าความริษยานั้นทำลายโลก และสุดท้ายความริษยาก็จะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง หากว่าเรายังไม่ปรับปรุงตัวเองเสียใหม่ โดยเฉพาะการงดว่าร้ายผู้อื่น”

Related Posts

Send this to a friend