INVESTMENT

SHR ในเครือสิงห์ เอสเตท โชว์ผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 65 ธุรกิจโตขึ้น 2 เท่าตัว ทำกำไรสุทธิ 108 ล้านบาท

นายเดิร์ก อังเดร ลีน่า เดอ คุยเปอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ ‘SHR’ บริษัทในเครือสิงห์ เอสเตท ล่าสุดโชว์ผลการดำเนินงานเพิ่ม 93% กวาดรายได้ 8,693 ล้านบาทในปี 2565 เติบโตทะลุเป้าหมาย เนื่องจากการฟื้นตัวภาคการท่องเที่ยว ดันรายได้ในไตรมาสที่ 4 เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ทำรายได้สู่ 2,570 ล้านบาท และจากการพลิกบวกสองไตรมาส ติดต่อกันสร้างกำไรสุทธิ 108 ล้านบาท พร้อมกันนี้ตั้งเป้าปี 2566 โดยผลักดันรายได้ให้ทะลุ 10,000 ล้านบาท โดยใช้กลยุทธ์ในการบริหาร RevPAR ที่มีประสิทธิภาพ ต่อยอดด้วยการเข้าลงทุนใหม่ และการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง โดยการปั้นแบรนด์ SAii

นายเดิร์ก กล่าวว่า “สำหรับรายได้จากการขาย และการให้บริการในปี 2565 ที่ 8,693 ล้านบาท ของบริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ ‘SHR’ บริษัทในเครือสิงห์ เอสเตท เติบโตขึ้นเกือบ 2 เท่าตัว เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งผลักดันจากการเติบโต ของผลประกอบการของโรงแรมที่บริษัทฯ ลงทุนเติบโตขึ้นทั้ง 4 พอร์ตโฟลิโอ”

ทั้งนี้ผลประกอบการที่โดดเด่น ในโครงการ CROSSROADS มัลดีฟส์ และพอร์ตโรงแรมสหราชอาณาจักร ที่ได้พิสูจน์ศักยภาพในการฟื้นตัว ที่แข็งแกร่งมาตลอดในปี 2565 โดยโรงแรมทั้ง 2 แห่งในโครงการ CROSSROADS มีความโดดเด่นและมีความแตกต่างแบบเฉพาะตัว ทำให้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้หลากหลายกลุ่ม หนุนให้อัตราการเข้าพักเฉลี่ย (Occupancy rate) เติบโตสู่ 66% พร้อมปรับอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยรายวัน (Average Daily Rate: ADR) ได้เพิ่มขึ้นกว่า 28% จากปีก่อนหน้า สูงที่สุดตั้งแต่เปิดดำเนินงานโครงการมา จากการมุ่งเน้นปรับกลยุทธ์ในการบริหารพอร์ตโฟลิโอให้มีประสิทธิภาพ ร่วมกับการพัฒนาและปรับปรุงห้องพักอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองกระแสนิยมในการท่องเที่ยว และสำหรับกลุ่มโรงแรมสหราชอาณาจักร สามารถเพิ่ม Occupancy rate ได้ 10% และ ADR เพิ่มขึ้น 8% จากปี 2564 ทำให้มีรายได้ต่อห้องพักต่อคืน (RevPAR) ที่ 48 ปอนด์ ฟื้นตัวขึ้นไปสูงกว่าปี 2562 ซึ่งถือเป็นปีก่อนเกิดโควิด-19 ได้สำเร็จ เสริมทัพด้วยผลประกอบการ ที่ดีกว่าคาดการณ์ของโรงแรมในพอร์ต Outrigger สอดคล้องกับ Pent up Demand ระดับสูง ส่งผลให้อัตราการเข้าพัก เฉลี่ยปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่ 64% พร้อมปรับอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยรายวันได้เพิ่มขึ้น 48% จากปี 2564 ส่งผลให้รายได้และกำไรจากผลการดำเนินงานของพอร์ตโรงแรม Outrigger เติบโตขึ้นกว่าปีก่อนเกิดโควิด-19

สำหรับในไตรมาสที่ 4 เป็นไตรมาสที่เราสร้างรายได้ได้ที่สุดของปี โดยการผลักดันรายได้ได้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2565 ตอกย้ำการฟื้นตัวอย่างชัดเจน ของภาคการท่องเที่ยว และการเข้าสู่ช่วง Peak seasons ของการท่องเที่ยวของพอร์ตโรงแรมในประเทศไทย และสาธารณรัฐมัลดีฟส์ ที่สะท้อนภาพการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากการเดินทางเพื่อการพักผ่อน เสริมแกร่งด้วยประสิทธิภาพในการบริหารจัดการโรงแรมในประเทศไทยของบริษัทฯ

ผนวกกับความสำเร็จในการปรับโครงสร้างธุรกิจ และผลตอบรับที่ดีในการปรับใช้แนวคิดแบรนด์ SAii มาสู่โรงแรมที่เราบริหารงานเอง ส่งผลให้ ADR เฉลี่ยของโรงแรมในประเทศไทย ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 เติบโตขึ้น 17% จากไตรมาส 4 ของปี 2562 และผลักดันให้ระดับ RevPAR สูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิด-19 ได้สำเร็จ โดยเราเห็นผลการดำเนินงาน ที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง ของโรงแรมในประเทศไทย และสาธารณรัฐมัลดีฟส์ ที่มีอัตราการเข้าพักสูงกว่า 90% ในเดือนมกราคม 2566 และคาดว่าจะรักษาโมเมนตัมที่ดี ได้ตลอดในไตรมาสที่ 1 ปีนี้ ซึ่งจะหนุนให้รายได้รวม ของทั้งสองพอร์ตโฟลิโอหลักนี้เติบโตราว 30% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยแรงส่งของทั้งสองพอร์ตโฟลิโอสำคัญนี้ จะเป็นปัจจัยหนุนสำคัญที่จะผลักดัน การเติบโตของรายได้และกำไรในปี 2566

สำหรับการขับเคลื่อนธุรกิจในปี 2566 ภาคการท่องเที่ยวทั่วโลกจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการยกเลิกข้อจำกัดในการเดินทางของประเทศในเอเชีย โดยเฉพาะประเทศจีน ซึ่งครองส่วนแบ่งการตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2562 โดยส่งผลกระทบในเชิงบวก ที่จะมีต่อธุรกิจที่ SHR มีการบริหารงานอยู่อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีน ครองส่วนแบ่งตลาดในโรงแรมมัลดีฟส์และประเทศไทยประมาณ 20% และ 10% ตามลำดับ นอกจากนั้นแล้ว การเปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้ของเรา ก็จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการผลักดัน ผลประกอบการของบริษัทในปีถัดๆไป ให้เติบโตขึ้น โดยการพัฒนารีสอร์ทแห่งที่ 3 ของโครงการ CROSSROADS คืบหน้าไปตามแผนการ และพร้อมเปิดให้บริการในปี 2566 โดยโรงแรม SO/ Maldives ถือเป็นอัญมณีล่าสุดแห่งมงกุฎการท่องเที่ยวมัลดีฟส์ ที่จะยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวในหมู่เกาะ และเติมเต็มตลาดลักซ์ชัวรี่ให้กับโครงการ CROSSROADS

บริษัทฯได้กำหนดกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจในปี 2566 เพื่อให้องค์กรบรรลุวิสัยทัศน์ โดยมุ่งเน้นการบริหารจัดการความสามารถ ในการสร้างรายได้ และกำไรให้กับสินทรัพย์อย่างสูงสุด โดยเราตั้งเป้าหมายเพิ่มรายได้ขึ้น 20% ควบคู่ไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพ ในการทำกำไรและสร้างฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง รวมถึงการใช้เครื่องมือทางการเงิน เพื่อลดต้นทุนดอกเบี้ยของบริษัทฯ เพื่อโอกาสในการขยายการลงทุนผ่านการเข้าซื้อ และเข้าบริหารจัดการสินทรัพย์ใหม่ในอนาคต และการสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว

“ทิศทางการดำเนินงานในปี 2566 เราจะผลักดันรายได้ให้ทะลุ 10,000 ล้านบาท โดยใช้กลยุทธ์ในการบริหาร RevPAR ที่มีประสิทธิภาพ ต่อยอดด้วยการเข้าลงทุนใหม่ และการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง โดยการปั้นแบรนด์ SAii ควบคู่ไปกับการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ จะมีบทบาทสำคัญที่จะทำให้เราบรรลุเป้าหมาย ในการเป็นผู้ให้บริการ ด้านการบริหารจัดการโรงแรมชั้นนำ ที่สามารถสร้างการเติบโตแบบยั่งยืนได้”

Related Posts

Send this to a friend