LIFESTYLE

กระตุ้นเยาวชนไทยกินข้าวแบบสุขภาพดี พ่อแม่ให้ความรู้เด็กอย่างมีเหตุผล

พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสกับข่าวที่ปรากฎผ่านสื่อว่า เด็กและเยาวชนไทย ที่พบว่ารับประทานข้าวน้อยลงเรื่อยๆ เหลือปี 50 กิโลกรัมต่อคน ทั้งนี้ผู้ปกครองและผู้เกี่ยวข้องสามารถหยิบยกไอเดียในการมีสุขภาพดี หรือการที่เด็กโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่หุ่นและรูปดี นับเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยปลูกฝังการบริโภคข้าวไทยไม่ให้สูญหาย ท่ามกลางโลกที่เปลี่ยนแปลงไป โดยใช้หลักของการอธิบายเหตุ และผลที่ได้จากการบริโภคข้าว โดยเฉพาะข้าวกล้องหรือข้าวไรท์เบอร์รี่ ที่เด็กหลายคนมักส่ายหน้า เนื่องจากรับประทานยาก แต่ทว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมหาศาล

เกี่ยวกับเรื่องนี้ The Reporters ได้สอบถามไปยัง คุณครูลิลลี่-อ.กิจมาโนชญ์ โรจนทรัพย์ ครูสอนพิเศษวิชาภาษาไทยที่ “สถาบันกวดวิชาพินนาเคิล” และจิตอาสาทำอาหาร มอบให้บุคลากรทางการแพทย์ในช่วงโควิด-19 และยูทูปเบอร์สอนทำอาหารในโลกออนไลน์ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับไอเดียในการกระตุ้นเด็กไทยหันมาบริโภคข้าว หรือคาร์โบไฮเดรท ที่ถือว่าเป็นแหล่งพลังงานมื้อเช้าที่สำคัญสำหรับเด็กและเยาวชนไทย โดยการเลือกกินแป้งที่มีกากใยอาหาร ที่ได้จากข้าวกล้องหรือข้าวไรท์เบอร์รี่ ด้วยการพลิกแพลงเมนู ที่รับประทานคู่กับข้าวไม่ขัดสีดังกล่าว ผ่านเมนูไข่ที่มีโปรตีนสูง เหมาะสำหรับวัยเรียนรู้ และยังหาได้ง่ายในทุกครัวเรือนไว้น่าสนใจ

อ.กิจมาโนชญ์ ให้ข้อมูลว่า “ ไอเดียในการกระตุ้น ให้เด็กหันมากินข้าวมากขึ้นนั้น สิ่งสำคัญคุณครูว่าต้องเริ่มจากการพลิกแพลงเมนูกับข้าว ที่จะรับประทานคู่กับข้าวสวย คือแนะนำว่าผู้ปกครองต้องปรับเป็นเมนูกับข้าวที่โดนใจวัยรุ่น ทั้งนี้ขอยกตัวอย่างเมนูที่ทำจาก “ไข่” ที่โปรตีนสูง กินง่าย และหาได้ง่ายทุกครัวเรือน ไม่ว่าจะเป็นคนมีเงิน หรือบ้านของผู้ปกครองที่มีฐานะปานกลาง เช่น เปลี่ยนจากเมนูไข่เจียวธรรมดา ให้เป็นเมนู “ไข่เจียวทรงเครื่อง” โดยการใส่พริกหยวก มะเขือเทศไทย หมูสับ ไก่ เบคอน แฮม ที่มีในตู้เย็น ส่วนเด็กคนไหนที่ไม่กินผัก แนะนำว่าให้ผู้ปกครอง ให้ข้อมูลกับลูกว่า การกินผักนั้นทำให้ย่อยง่าย และจะช่วยให้เด็กขับถ่ายดี ซึ่งเด็กที่มีเหตุผลเมื่อผู้ปกครองบอกเช่นนี้ เด็กๆก็จะหันมากินผักในที่สุด นอกจากนี้พ่อแม่ก็ต้องกินผัก เพื่อเป็นตัวอย่างให้ลูกเห็นอยู่บ่อยๆ หรือทำเมนูไข่ดาว ด้วยการใส่สารพัดเครื่องปรุงดังกล่าว ที่อยู่ในรูปแบบของ “ไข่กระทะ” ก็จะกระตุ้นให้เด็กยากรับประทานอาหารมากขึ้น หรือเมนู “แกงจืดไข่เจียวหมูสับ” (เจียวไข่ก่อนและค่อยนำมาปรุงในน้ำซุป ลักษณะคล้ายต้มจืด) เพื่อรับประทานกับข้าวสวยอย่างข้าวกล้องหรือข้าวไรท์เบอร์รี่ ก็จะทำให้เด็กซดน้ำแกงได้คล่องคอมากขึ้น จนกระทั่งลืมและติดเป็นความเคยชิน ในการกินข้าวกล้องโดยไม่รู้ตัว

ให้เหตุผลบุตรหลานกินข้าวกล้องเท่ากับกินผัก

หลายคนสงสัยว่าจะทำอย่างไร เพื่อให้ลูกกินข้าวกล้องหรือข้าวไรท์เบอร์รี่นั้น เพราะทุกวันนี้เด็กก็กินข้าวยากอยู่แล้ว ผู้ปกครองสามารถใช้เทคนิค โดยการให้ความรู้กับลูกรู้ว่า การกินข้าวกล้องนั้น ก็เท่ากับเป็นการกินผักไปด้วยในตัว เพราะในข้าวกล้องจะมีไฟเบอร์ ที่ช่วยทำให้การขับถ่ายดีเหมือนกับการกินผัก และมีวิตามินมากกว่า 8 ชนิดในข้าวกล้อง ที่ช่วยป้องกันโรคอ้วนโรคเบาหวานความดันโลหิต โรคหลอดเลือดหัวใย ฯลฯ หรือยกเหตุผลที่ทำให้เด็กเห็นประโยชน์และโทษ จากการกินข้าวกล้องและข้าวไรท์เบอร์รี่ เช่น การที่คุณตาคุณยายป่วยเป็นโรคเบาหวาน เพราะการบริโภคข้าวขาว หรือข้าวสารที่ผ่านการขัดสีให้ขาว ซึ่งบริโภคกันอยู่ในปัจจุบัน แต่การกินข้าวกล้องนั้น จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าข้าวขัดสี ทำให้ไม่เป็นโรคเรื้อรังต่างๆ ทั้งนี้เพื่อให้เด็กแยกแยะว่า ประโยชน์ของข้าวกล้อง และข้าวขาวที่ขัดสีนั้นแตกต่างกันอย่างไร เมื่อนั้นเด็กจะค่อยๆเรียนรู้ และคล้อยตามในสิ่งที่ผู้ปกครองสื่อสารกับเขา กระทั่งยอมกินข้าวกล้อง

สอดแทรกข้าวและผักไว้ในทุกเมนู ช่วยเด็กอิ่มท้อง ป้องกันร่างกายได้ไขมันมากเกินไป

ที่สำคัญเด็กยุคใหม่มักจะนิยมรับประทานอาหาร ตามวัฒนธรรมญี่ปุ่น เกาหลี หรือแม้แต่การกินแป้งที่อยู่ในรูปแบบเส้นต่างๆ ที่อาจะไม่ดีเท่ากับการบริโภคแป้ง หรือคาร์โบไฮเดรทที่ได้เมล็ดข้าว เพราะจะมีไฟเบอร์สูง ทั้งนี้ผู้ปกครองสามารถกระตุ้น การบริโภคข้าวหรือคาร์โบไฮเดรท โดยการชวนลูกๆ กิน ชาบู หรือ หมูกระทะ ที่มีผักสดและตามด้วยข้าวสวยอีกเล็กน้อย เพื่อให้เด็กอิ่มท้อง โดยหลักของเหตุและผล เช่น ถ้ากินเนื้อหมูอย่างเดียว ก็จะไม่ดีต่อสุขภาพ เพราะมีไขมันสูง ทำให้เป็นคนอ้วนลงพุงได้ ดังนั้นให้กินผักและข้าวสวยคู่กัน ก็จะทำให้ร่างกายแข็งแรง อีกทั้งเป็นการกินอาหารที่มีความสมดุล มีทั้งเนื้อสัตว์ผักและข้าวสวย ในปริมาณที่ไม่มากเกินไป

ปลูกฝังลูกหลานรู้จักประโยชน์และโทษ ระหว่างข้างกล้องและข้าวขัดสี

พ่อแม่ควรให้ข้อมูลกับเด็กๆด้วยว่า การบริโภคคาร์โบไฮเดรทในมื้อเช้า และมื้อเที่ยง เป็นสิ่งที่สำคัญมาก โดยเฉพาะมื้อเช้าที่เด็กต้องเน้นรับประทานแป้ง เพราะเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญ เพื่อที่จะนำไปเผาผลาญพลังงาน ตลอดทั้งวันที่ไปโรงเรียน ส่วนมื้อเย็นนั้นเด็กควรจะบริโภคให้น้อย เพราะหลายคนจะเน้นการกินอาหารเย็น หรืออาหารดินเนอร์ ที่เป็นสาเหตุของโรคอ้วน โรคเบาหวานต่างๆ เพราะรับประทานอาหารไม่กี่ชั่วโมง เด็กๆก็ต้องเข้านอนแล้ว หรือปลูกฝังให้ลูกกินอาหารมื้อเย็น เป็นสลัดผัก หรือโจ๊กและข้าวต้ม ที่ทำจากข้าวกล้องหรือข้าวไรท์เบอร์ ตรงนี้ไม่เพียงช่วยทำให้ร่างกายของเด็กแข็งแรง แต่ยังทำให้เด็กไม่ลืมการบริโภคข้าวไทย เพราะอันที่จริงแล้วยังไงข้าวก็ต้องชนะ หรือไม่หายไปจากสังคมไทย แต่สิ่งสำคัญที่สุดนั้น คือผู้ปกครองจำเป็นที่จะต้อง ให้ความรู้กับเด็กด้วยเหตุและผล เกี่ยวกับข้างกล้องและข้าวขัดสี ถึงประโยชน์และโทษของข้าวทั้ง 2 ชนิด เมื่อนั้นเด็กก็จะเข้าใจ และเลือกกินแป้งจากแหล่งคาร์โบไฮเดรท ที่ถูกต้องด้วยตัวเองอย่างไม่เกี่ยงงอน และรู้ด้วยตัวเองว่า อันที่จริงเด็กจะไม่กินข้าวไม่ได้ แต่ต้องเลือกกินข้าวจากแหล่งคาร์โบไฮเดรตที่ดีต่อสุขภาพ

หยิบยกกุศโลบายโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดี เทคนิคลดเด็กกินคาร์โบไฮเดรทจากข้าวขัดขาวน้อยลง และเลือกกินขนมปังโฮวีตแทนขนมกรุ๊บกรอบ

ในอนาคตเราไม่รู้ว่าโลกจะเปลี่ยนไปอย่างไร แต่เนื่องจากเด็กยุคนี้มักจะชอบลดความอ้วน หรือดูแลรูปร่าง โดยเฉพาะเด็กวัยรุ่น จุดนี้เป็นสิ่งที่ผู้ปกครอง สามารถเลือกให้ความรู้กับลูกๆว่า ถ้าลูกๆอยากโตขึ้นมาผอมสวยและหุ่นดี โดยเฉพาะเด็กผู้ชาย ที่ชอบการออกกำลังที่ฝึกกล้ามเนื้อต่างๆ หรือเด็กผู้หญิงที่รักสวยรักงาม ก็ให้กินข้าวกล้อง ซึ่งเป็นข้าวไม่ผ่านการขัดสี ดังนั้นเด็กที่รักตัวเองเพราะอยากเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพแข็งแรง ก็จะทำให้เด็กกินข้าวกล้องมากกว่าข้าวขัดสี

“หรือแม้แต่เด็กที่ไม่กินข้าวแต่มักจะชอบกินขนม ตรงนี้ก็สามารถใช้หลักเหตุผลที่ว่า ในขนมขนมกรุ๊กรอบนั้น มีทั้งน้ำตาลและชูรส รวมถึงเกลือในปริมาณที่สูง มันจะอร่อยแค่ตอนเคี้ยว หรืออร่อยแค่ปลายลิ้น แต่สุดท้ายก็นำมาโรคภัยไข้เจ็บมาให้กับเด็กๆได้ เช่น โรคเบาหวาน โรคไต โรคหลอดเลือดหัวใจ ฯลฯ ดังนั้นการเลือกของหวาน ที่มีส่วนผสมของธัญพืช หรือ เปลี่ยนจากการกินขนมอบกรอบ หรือขนมแบบถุงซอง มาเป็นขนมปังโฮลวีต ซึ่งทำจากแป้งที่ไม่ผ่านการขัดขาว ทาคู่กับเนยถั่ว ก็จะช่วยทำให้มีสุขภาพดีได้ เพียงแค่ปรับวิธีการบริโภคเพียงเล็กน้อย ที่สำคัญในถั่วก็มีโปรตีนสูงเช่นกัน ”

Related Posts

Send this to a friend