LIFESTYLE

เติมสวยหน้าร้อนอย่างปลอดภัย เลือกร้านได้มาตรฐาน ไม่ลืมการบำรุงซ้ำ

ช่วงเดือนเมษายนเป็นช่วงหน้าร้อน ประกอบกับฝุ่น PM2.5 ที่ส่งผลกระทบในหลายภาคทั่วประเทศ เสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพหลายด้าน เรื่องความสวยความงามก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเช่นกัน

The Reporters ได้สอบถามไปยัง พญ.พลอยลดา ธนาไพศาลวรกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเวชศาสตร์ชะลอวัย ผู้ก่อตั้ง “ลลนา คลินิก” (Lollana Clinic) ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพให้ปลอดภัย โดยเฉพาะการเลือกร้านทำผม ที่เลือกใช้อุปกรณ์เสริมความงามที่ปลอดภัย เพื่อช่วยให้การทำสีผม ทำเล็บ หรือเข็ดผิวพรรณเป็นไปอย่างปลอดภัย ไร้สารเคมี หรือแม้แต่ผู้ที่เคยเข้าไปใช้บริการร้านซาลอนแล้ว เกิดอาการแพ้ต่างๆ ก็ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวัง ในการเสริมความงามเพิ่มเป็นสองเท่า หรือเลี่ยงการใช้ยี่ห้อเดิมซ้ำ

พญ.พลอยลดา ให้ข้อมูลว่า “อันที่จริงแล้วไม่มีข้อห้าม สำหรับการเสริมสวยในช่วงหน้าร้อน โดยเฉพาะในช่วงสงกรานต์ที่แม้อากาศร้อนจัด แต่ถ้าเราไม่ได้อยู่กลางแดดจ้าเป็นเวลานานๆ ก็สามารถเข้าร้านเสริมสวยได้ปกติ แต่ทั้งนี้มีข้อควรระวัง เช่น นอกจากการเลือกร้านเสริมสวยที่ปลอดภัยน่าเข้าใช้บริการ และมีการทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ใช้ เช่น หวี ไดร์เป่าผม อุปกรณ์ทำเล็บอยู่เสมอแล้ว ก็จำเป็นต้องจัดร้านเพื่อให้ อากาศถ่ายเทได้สะดวก อีกทั้งมีการจัดเว้นการอี้นั่งทำผม ที่เหมาะสมไม่แออัดจนเกินไปแล้ว นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้กับลูกค้าก็ ต้องปลอดภัย มีอย.ถูกต้อง”

“ในส่วนของผู้บริโภคหรือลูกค้านั้น เมื่อเข้าร้าน “ทำสีผม” ก็ต้องระวังเรื่องของการแพ้น้ำยาย้อมสีผม ซึ่งแต่ละคนนั้นอาจแพ้แตกต่างกัน โดยเฉพาะผู้ที่ไม่เคยใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ที่อาจทำให้เกิดการแสบและคันหนังศีรษะหลังทำสีผม ดังนั้นครั้งต่อไปให้ลองสังเกตการเปลี่ยนแปลง และควรถ่ายรูปความรุนแรงของการแพ้น้ำยาย้อมสีผมเอาไว้ เพื่อเปลี่ยนใช้ผลิตภัณฑ์ย้อมสีผมยี่ห้ออื่น หรือหากพบความผิดปกติ ก็ต้องไม่ใช้ซ้ำตัวเดิม แต่หากผู้ที่มีอาการแพ้รุนแรง เช่น มีอาการแสบและคันหลังการทำสีผมนั้น ก็ควรรีบไปพบแพทย์ ซึ่งหมอเคยเจอเคสในลักษณะดังกล่าว ดังนั้นจึงต้องให้ยาแก้แพ้ชนิดรุนแรง ร่วมกับยาสเตียรอยด์ ที่ช่วยลดอาการอักเสบ อันได้แก่ อาการปวด บวม แดง ร้อน เป็นต้น”

ช่วงสงกรานต์นี้หลายคนที่เลือก “ทาเล็บสีเจล” ก็ต้องระวังเรื่องการที่เล็บไม่ได้หายใจ และเสี่ยงต่อการเป็นเชื้อราได้ง่าย โดยเฉพาะหากเล็บของเรามีความชื้น หรือมีสิ่งสกปรกเกาะอยู่ที่บริเวณเล็บ ดังนั้นจึงต้องมีการทำควรสะอาดอยู่เสมอ และเปลี่ยนสีเล็บเจลบ่อยๆ หรือเปลี่ยนตามกำหนดของการทาเล็บสีเจล ที่สำคัญต้องไม่ทิ้งไว้นานเกินไป เพราะเสี่ยงต่อการที่เล็บจริงของเราไม่ได้หายใจ

ส่วนการ “ขัดผิว” นั้น เป็นการสัมผัสต่อผิวหนังโดยตรง ดังนั้นผิวของเราจะต้องไม่เบิร์นหรือไหม้แสงแดด เพราะถ้าผิวของเรามีภาวะไหม้แดด หรือมีสีแดงอมชมพูถือว่าผิวหนังไม่ปกติ ดังนั้นจึงควรเลี่ยงการขัดผิว เพราะเสี่ยงต่อการแสบและคันผิวหนังได้ ส่วนผู้ที่มีผิวปกติก็สามารถขัดผิวได้ โดยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ขัดผิวสูตรอ่อนโยน ที่สำคัญให้เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์ขัดผิว ตามท้องตลาดที่ไม่ได้มาตรฐาน ที่มีส่วนผสมของสารปรอท และสารไฮโดรควิโนน ที่ใช้แล้วจะทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง แสบร้อน และเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนัง เมื่อใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ พูดง่ายๆหลังใช้ผลิตภัณฑ์ขัดผิว ที่มีอย.ถูกต้องและปลอดภัยแล้ว จะต้องไม่ก่อนให้อาการแสบร้อนที่ผิวหนัง และหลังจากนั้นเราก็แนะนำให้ทาครีมบำรุง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวหลังการขัดผิวด้วยเช่นกัน

Related Posts

Send this to a friend