LIFESTYLE

ดูแลตัวเองให้สวยรับปีใหม่ เช็ค 5 สัญญาณเตือนผิวเหี่ยวย่น

แพทย์ผิวหนัง แนะดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ช่วยผิวพรรณผ่องใสร่างกายแข็งแรง คุณสาวๆไม่ลืมเช็ค 5 ปัญหาผิวแก่ก่อนวัย เน้นดูแลผิวพรรณตั้งแต่อายุยังน้อย

เทรนด์สวยโกงอายุไม่ใช่เรื่องเฟ้อฝันอีกต่อไป หากสาวๆที่อยากดูดีผิวอ่อนเยาว์กว่าวัย รู้จักการปรับวิธีคิดใหม่ เพราะอายุมากก็ดูดีได้ ถ้ารู้จักการดูแลผิวพรรณที่ถูกวิธี หรือสาววัยเอ๊าะที่เริ่มดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ รับรองผิวสวยเด้งราวสาวพันปี ก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม ทว่าหนึ่งคำที่ผู้หญิงหลายคนไม่เคยลืมคือ “สวยเปลี่ยนโลก” เพราะคนที่ดูแลตัวเองให้ดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า ย่อมมีความมั่นใจในการใช้ชีวิต และนั่นก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผู้หญิงหลายคน ประสบความสำเร็จในการทำงานหรือด้านครอบครัว ดังนั้นเราจึงได้เห็นเทรนด์ของผู้หญิงยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นวัยนักศึกษา วัยทำงาน หรือผู้หญิงหลัก 4 ต่างให้ความสำคัญกับการดูแลรูปร่างหน้าตามากขึ้น โดยเฉพาะผิวสวยใสเด้งกระชับไม่มีริ้วรอย ต่างจากสมัยก่อนลิบลับ ที่มองว่าความแก่นั้นเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ปัจจุบันเทรนด์สวยโกงอายุ เป็นสิ่งที่คุณสาวๆพูดถึงกันมากขึ้น

The Reporters ได้พูดคุยกับ พญ.รักษ์ฉนา อภิเกษมสันติ์ แพทย์โรคผิวหนัง และผู้บริหาร “ราพีเต้ คลินิก” สถาบันดูแลความงามครบวงจร ทั้ง 2 สาขา ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลผิวพรรณ ให้ดูอ่อนเยาว์กว่าวัย ตามหลักเวชศาสตร์วัยยุวัฒน์ หรือ Aesthetic ที่แตกแขนงออกมา โดยอธิบายให้เข้าใจง่ายคือ การที่คุณสาวๆมักจะสลัดคำว่า “แก่” ออกไปจากความคิด ตรงกันข้ามพวกเธอท่องคำว่า “ฉันยังไม่แก่” ไว้อยู่เสมอ ซึ่งเป็นการปรับวิธีคิดใหม่ เพื่อหันมาดูแลผิวพรรณร่างกายให้ดูดี และแข็งแรงอยู่เสมอ ที่งานนี้คุณสาวๆทำตามได้ พร้อมกับให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีเช็คสัญญาณ 5 สัญญาณความแก่ และการแก้ไขให้ถูกจุดโดยเฉพาะสาวๆที่เลือกดูแลผิวสวย แบบผสมผสานด้วยตัวเองที่บ้าน และเข้าคลินิกเพื่อให้ดูดีมากยิ่งขึ้น

พญ.รักษ์ฉนา ให้ข้อมูลว่า “ปัจจุบันเทรนด์สวยผิวเด้งเป็นสิ่งที่ผู้หญิงไทย ให้ความสำคัญมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวัยนักศึกษา วัยทำงาน หรือคุณสาวๆที่อายุเข้าเลข 4 ต่างหันมาสนใจดูแลผิวพรรณมากขึ้น เพราะทุกคนอยากดูเด็กกว่าวัยนั่นเอง ยกตัวอย่างตอนนี้ผู้หญิงอายุ 40 ปี ก็หันมาใส่ใจรูปร่างหน้าตากันแล้ว ต่างจากสมัยก่อนที่เรามักจะคิดว่า “แก่” เป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ทุกวันนี้ผู้หญิงปรับแนวคิดใหม่ ว่าถ้าเมื่อไรตัวเองแก่นั่นแปลว่าผิวจะต้องเหี่ยวย่น นั่นจึงทำให้สาวๆยุคนี้มองตัวเองว่า “ฉันแก่แล้วนะต้องดูแลผิวแล้ว” ทั้งนี้สิ่งที่หมอกล่าวทั้งหมด มันคือคำว่า Aesthetic หรือภาษาไทยคือ “เวชศาสตร์วัยยุวัฒน์” หรือการดูแลตัวเองไม่ให้แก่และเพื่อให้ผู้หญิงมีสุขภาพที่ดี ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจว่าเหตุใด ผู้หญิงยุคใหม่จึงมีวิธีคิดใหม่ ว่าพวกเธอยังไม่แก่และพวกเธอต้องมีสุขภาพดี ดังนั้นต่อให้อายุ 60 ปีแล้ว เป้าหมายของผู้หญิงยุคนี้ จะต้องมีสุขภาพดี เหมือนคนอายุไม่ถึง 40 ปีนั่นเอง ดังนั้นจะอยู่แบบแก่ และปล่อยให้ร่างกายเสื่อมสภาพไม่ได้ ถึงแม้บางคนจะอายุมาก แต่ก็ต้องมีสุขภาพที่ดี หรือมีริ้วรอยเหี่ยวย่นไม่มาก ดังนั้นการดูแลสุขภาพก็เหมือนกับการฝากเงินในธนาคาร ถ้าเริ่มฝากตั้งแต่วันนี้วันหน้าเราจะมีเงินเยอะ หรือถ้าดูแลตัวเองไม่ไหวเราก็สามารถกินดอกเบี้ยจากเงินฝากได้ การดูแลสุขภาพผิวก็เช่นเดียวกัน ถ้าเริ่มดูแลผิวตั้งแต่อายุน้อย เราก็จะมีผิวพรรณและสุขภาพที่แข็งแรงเมื่ออายุมากขึ้น

“โฮลิสติก” (Holistic) หรือธรรมชาติบำบัด เทรนด์สวยแบบองค์รวม จากการซ่อมแซมร่างกายขณะพักผ่อน ช่วยผิวสวยร่างกายแข็งแรง

อีกคำหนึ่งที่ผู้หญิงยุคใหม่ ใช้เป็นคีย์เวิร์ดในการดูแลสุขภาพ คือ “โฮลิสติก” (Holistic) หรือธรรมชาติบำบัด ซึ่งเป็นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เช่น การกินอาหารให้เป็นยา ไม่ใช่กินอาหารประทังชีวิตไปวันๆ และ ต้องออกกำลังกาย รวมถึงนอนพักผ่อนให้เพียงพอ และเราอาจเคยได้ยินว่าคนยุคนี้ จะกินอาหารเช้าเหมือนพระราชา กินอาหารกลางวันแบบอิ่มพอดี ส่วนมื้อเย็นให้กินอาหารแบบยาจกหรือกินน้อยลง พักผ่อนให้เพียงพอหรือเข้านอนเร็ว เพื่อให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง ในขณะที่เรากำลังนอนหลับ ส่วนการออกกำลังกายให้ได้ผลนั้น ก็เป็นสิ่งที่ผู้หญิงยุคใหม่ให้ความสนใจ เพราะเราอาจเคยได้ยินคำว่า “ยิ่งออกกำลังกายมากยิ่งแก่” ซึ่งที่อเมริกานั้นได้มีการเจาะเลือด เพื่อตรวจดูฮอร์โมนแห่งความสุขขณะออกกำลังกาย พบว่าผู้ที่ออกกำลังกายมากเกินไป จะทำให้ร่างกายของเราแก่ ดังนั้นการออกกำลังกายที่พอดีคือ หลังออกกำลังกายแล้ว จะรู้สึกปวดเมื่อยและมีอาการเจ็บกล้ามเนื้อ ซึ่งถ้ามีอาการดังกล่าว ถือว่าเป็นปกติเพราะนั่นจะทำให้เรามีกล้ามเนื้อภายหลัง พูดง่ายๆว่าการออกกำลังกายที่พอดี ต้องอยู่ในระยะเวลา 25 นาที ซึ่งถือว่าเป็นการออกกำลังกายในระดับปานกลาง ซึ่งจะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขออกมา ดังนั้นเวลาที่เรานอนหลับ ร่างกายจะดึงฮอร์โมนแห่งความสุข มาช่วยซ่อมแซมร่างกายของเราทุกส่วน รวมถึงผิวพรรณ ภายในระยะเวลา 36-72 ชั่วโมง “ทั้งนี้การออกกำลังกายสามารถทำได้ทุกประเภท เช่น วิ่ง เดิน ยกน้ำหนัก พูดง่ายว่าเป็นการออกกำลังกายให้หัวใจเต้นอยู่ที่ระดับ 50% หรือชีพจรตัวบนนั้นอยู่ที่ประมาณ 120 (สังเกตว่าหัวใจเต้นปกติ) แต่ถ้าชีพจรเต้นอยู่ที่ 160 ก็ถือว่าเราออกกำลังกายหนักเกินไป จริงอยู่ที่เราต้องออกกำลังกายให้ได้สัปดาห์ละ 180 นาที หรือวันละประมาณ 30 นาที แต่การออกกำลังกายที่พอดี เพื่อป้องกันร่างกายแก่เร็วนั้น แนะนำให้ออกกำลังกายแบบแบ่งย่อย เช่น แทนจะออกกำลังกายวันละ 1 ชั่วโมงติดต่อกัน 3-4 วัน เพื่อให้ได้ 180 นาทีต่อหนึ่งสัปดาห์นั้น แต่ให้ออกกำลังแบบพัก คือ ออกกำลังกายแบบวันเว้นวัน หากต้องการออกกำลังกายวันละ 1 ชั่วโมง เป็นต้น ส่วนผู้ที่ออกกำลังกายทุกวัน ไม่ควรเกินวันละ 15-20 นาที”

ผิวสวยสุขภาพดี ต้องมาพร้อมโครงสร้างร่างกายที่แข็งแรง และการเข้าสังคมมีเพื่อนฝูง

การรักษาโครงสร้างร่างกายให้แข็งแรงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเมื่ออายุมากขึ้นมวลกระดูก หรือแคลเซียมในร่างกายจะเริ่มลดลง ดังนั้นจึงแนะนำให้กินวิตามินซี และแร่ธาตุแมกนีเซียม รวมถึงวิตามินดี เพราะถ้าแคลเซียมในร่างกายลดลง ก็จะทำให้โครงกระดูกสันหลังผุกร่อน และทำให้กล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกายย้วย หรือหย่อนยาน และทำให้อวัยวะอื่นถูกทำลายลงไปด้วย หรือใช้งานได้ไม่เต็มที่ เช่น ฟันไม่แข็งแรง ฟันหัก ฟันกร่อน ฟันผุต่างๆ และทำให้บดเคี้ยวอาหารไม่ได้ ก็จะทำให้ลำไส้ดูดซึมสารอาหารจำเป็นในร่างกายได้น้อยลง นำมาซึ่งการขาดสารอาหารเป็นต้น ดังนั้นเมื่ออายุมากจึงควรกินวิตามินเสริมที่บอกมา

“นอกจากนี้คนที่เริ่มมีอายุมากที่อยู่คนเดียว มักเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ หรือทำให้แก่ง่ายตายเร็วนั่นเอง ดังนั้นจึงต้องรู้จักออกไปหาเพื่อน อย่าอยู่ในที่จำเจตลอดเวลา เช่น ตอนเช้ากินข้าวผัดกะเพรา ตอนเย็นรดน้ำต้นไม้ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จำเจ ดังนั้นแนะนำให้ออกไปเที่ยว หรือไปเจอเพื่อนฝูงบ้าง ก็จะทำให้ชีวิตสดชื่นมีชีวิตชีวา ทำให้ไม่เหงาและไม่รู้สึกเบื่อโลก ซึ่งจะทำให้อายุยืนยาวขึ้น”

ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม อย่าละเลยการเช็คสุขภาพผิว หาสัญญาณปัญหาผิวแก่

สาเหตุที่ทำให้ผิวแก่เหี่ยวย่นนั้น เนื่องจากน้ำในผิวน้อยลงเมื่อเราอายุมากขึ้น ดังนั้นเพื่อป้องกันผิวแต่เนิ่นๆ การทาครีมบำรุง ทาครีมกันแดด และอยู่ให้ห่างจากรังสียูวี ก็เป็นวิธีการหนึ่งในการดูแลผิว ให้คงความอ่อนเยาว์ แต่ทั้งนี้การเช็คว่าผิวของเราแก่หรือไม่นั้น มีด้วยกัน 5 วิธี คือ

1.มีริ้วรอย

2.มีจุดด่างดำ มีฝ้า ซึ่งเกิดจากเม็ดสีของเราทำงานไม่สม่ำเสมอกัน โดยเฉพาะผู้หญิงที่อายุเกินเลข 4 จะเริ่มมีฝ้าและจุดกระด่างดำ ซึ่งจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการป้องกัน

3.ความหย่อนคล้อย อันเนื่องจากไขมันใต้ผิวทำงานเปลี่ยนไป เช่น หากเราอายุน้อยใบหน้าของเราจะมีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมหัวกลับ หรือมีใบหน้าแบบวีเชฟ แต่เมื่ออายุมากขึ้นหรืออายุเลย 35 ปี ใบหน้าของเราจะมีลักษณะเป็นหัวตั้ง คือทุกอย่างบนใบหน้าจะห้อยลง ตามแนวดึงดูดของโลก นั่นจึงทำให้หน้าของเราห้อยลง จึงต้องปรับแก้ไข

4.การละลายของกระดูกที่ใบหน้าเริ่มเปลี่ยนไป สังเกตได้จากการที่ใบหน้าของเราห้อยลง ขมับและแก้มตอบลง ดังนั้นจึงต้องกระตุ้นการเสริมสร้างกระดูกบนใบหน้า ด้วยเครื่องกระตุ้นกระดูก ที่ปล่อยคลื่นให้กระดูกที่หักหรือเสื่อมสลายเชื่อมต่อกัน เพื่อป้องกันการละลายของกระดูกที่ใบหน้า รวมถึงบริเวณขมับและเบ้าตอบและรอบปาก เพื่อคืนความเต่งตึงให้กับบริเวณดังกล่าว 5.วอลลุมลอฟท์ ที่ควรมีเริ่มหายไป เช่น น้ำ และไขมันในผิวหน้าที่เริ่มบางลง นั่นจึงทำให้เราต้องฉีดฟีลเลอร์ หรือสเต็มเซลล์ เพื่อให้ใบหน้ากลับมาเต่งตึง และมีน้ำมีนวลไม่โบ๋ตอบ

ทั้งนี้แก้ไขปัญหาผิวพรรณเหี่ยวย่น ก็ต้องแก้ให้ครบปัญหาผิวทั้ง 5 ข้อที่บอกมา โดยสรุปแล้วการดูแลผิวพื้นฐาน ก็ให้เริ่มที่การบำรุงผิวปกติที่บอกมา หรือแม้แต่การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ทั้งนี้การฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดริ้วรอยแห่งวัย เช่น รอยตีนกา อันเนื่องจากอายุมากขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อที่หน้าผากย่นขึ้นเวลาที่เราขยับใบหน้า ก็สามารถช่วยลดเลือดริ้วรอยได้ในระดับหนึ่ง แต่อย่าลืมทุกอย่างจะต้องทำควบคู่กัน ดังเช่น 5 ขั้นตอนข้างต้น ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดให้กันไว้ดีกว่าแก้ หรือให้เริ่มดูแลผิวพรรณ และสุขภาพตั้งแต่อายุยังน้อยจะดีที่สุด เพื่อว่าเราจะได้เป็นสาวสวยผิวอ่อนเยาว์ และสุขภาพดีรับปีใหม่ในทุกๆปีค่ะ

/////////////////////////////

อายุมากก็ดูดีได้หากรู้จักการดูแลผิวพรรณที่ถูกวิธี หรือ

Related Posts

Send this to a friend