ศัลยแพทย์แนะทริค ดูดีท้าฝุ่น PM 2.5 ไม่ละเลยดูแลเส้นผม-หนังศีรษะและผิวพรรณ

นอกจากกระทบสุขภาพ ด้านระบบทางเดินหายใจอย่างปอดแล้ว ทว่ายังส่งผลเสียต่อผมและผิวหนังของเราได้เช่นกัน เนื่องจากฝุ่นพิษจิ๋วนั้นคาดการณ์ ว่าน่าจะส่งผลกระทบต่อสังคมไทยไปอีกระยะหนึ่ง โดยเฉพาะผู้ที่อยู่กทม.และปริมณฑล รวมถึงประชาชนที่อยู่ทางภาคเหนือของบ้านเรา อย่าลืมว่าผมและผิวก็เป็นอวัยวะ ที่ต้องการการดูแลไม่แพ้ระบบหูตาคอจมูก ดังนั้นการดูแลเส้นผมก็เท่ากับ ดูแลสุขภาพหนังศีรษะไปพร้อมๆกัน ที่สำคัญผิวหนังก็จัดเป็นอวัยวะที่อยู่ใกล้เส้นผม ที่จำเป็นต้องดูแลควบคู่กันอีกด้วย เพราะช่วงนี้อาจถูกฝุ่นพิษจิ๋วเล่นงานได้อย่างง่ายๆ

The Reporters ได้สอบถามไปยัง “พญ.เบญจวรรณ บุตรวงศ์” ศัลยแพทย์ปลูกผม เมดิเรนคลินิก และกรรมการสมาคมแพทย์ปลูกผมโลก World FUE 2023 ให้ข้อมูลเกี่ยวกับทริคในการดูแลเส้นผม หนังศีรษะรวมถึงผิวพรรณ เพื่อรับมือกับค่าฝุ่น PM 2.5 ไว้น่าสนใจ เพราะการดูแลอวัยวะดังกล่าว ไม่เพียงทำให้มีสุขภาพที่ดี แต่ยังช่วยสร้างเสน่ห์ให้กับคนรักสุขภาพได้ ที่สำคัญการละเลยภัยจากฝุ่นละอองขนาดเล็กนี้ อาจนำมาซึ่งปัญหาผมร่วงผมบาง ผมแห้งแตกปลาย และเสี่ยงต่อการระคายเคือง ทั้งหนังศีรษะและผิวพรรณ ซึ่งอาจทำให้เกิดแผลและติดเชื้อได้ในที่สุด

พญ.เบญจวรรณ ให้ข้อมูลว่า “ การดูแลสุขภาพเส้นผมในช่วงที่บ้านเรา มีค่าฝุ่น PM 2.5 สูง ซึ่งฝุ่นละอองขนาดเล็กอย่าง ฝุ่น PM 2.5 และฝุ่น PM 10 นั้น มีผลต่อสุขภาพไม่เฉพาะแค่ ระบบทางเดินหายใจอย่างปอดเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบไปยังผม และผิวหนังของเราอีกด้วย ซึ่งน้อยคนที่จะโฟกัสไปที่เรื่องนี้ เพราะอันที่จริงแล้วฝุ่น PM 2.5 และฝุ่น PM 10 (อนุภาคของฝุ่นมีขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน) จะส่งผลโดยตรงต่อเส้นผม ซึ่งจะไปลดโปรตีนที่อยู่ในเส้นผม ที่เป็นส่วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม ทั้งนี้หากเส้นผมสัมผัสฝุ่นพิษจิ๋วดังกล่าวเป็นเวลานานๆ ไม่เพียงทำให้ผมยาวช้าและไม่เงางาม รวมถึงเส้นผมยังหักและแตกปลายอีกด้วย แต่ในรายที่ผมไม่แข็งแรงอยู่ก่อนแล้ว จะทำให้มีปัญหาผมร่วงผมบางมากขึ้นไปอีก ทำให้ขาดความมั่นใจในการใช้ชีวิต

“สำหรับทริคในการดูแลเส้นผม ให้ปราศจากฝุ่น PM 2.5 ที่สามารถทำตามได้อย่างง่ายๆ หมอแนะนำว่าก่อนออกจากบ้านในช่วงนี้ ให้หาผ้าโพกศีรษะหรือ “ผ้าโพกหัวสไตล์แฟชั่น” ที่ช่วยเปลี่ยนลุคของคุณสาวๆให้ดูน่ารักแล้ว ผ้าโพกหัวดังกล่าวยังช่วยปกป้องเส้นผมบางส่วน ไม่ให้สัมผัสกับฝุ่นพิษจิ๋วโดยตรงอีกด้วย ซึ่งถือได้ว่าเป็นปราการด่านแรก ที่ช่วยป้องกันไม่ให้ฝุ่นทำร้ายผมของคุณ นอกจากนี้สาวๆหนุ่มๆสามารถ “ใส่หมวก” ก่อนออกจากบ้าน แต่หมอแนะนำควรเป็นหมวก ที่ใส่แล้วสวยงามน่ารักเหมาะกับบุคลิกของเรา และมีลักษณะใส่สบายไม่แน่นจนเกินไป เพราะประโยชน์ของหมวกนั้น นอกจากป้องกันฝุ่น PM 2.5 ทำร้ายผมแล้ว การใส่หมวกยังป้องกันรังสียูวี ไม่ให้ทำร้ายเส้นผมของเราอีกด้วย รวมถึง “การรวบผมแบบหลวมๆ” ก่อนออกจากบ้าน ก็ช่วยเชฟเส้นผมจากฝุ่นพิษจิ๋วได้ แต่ไม่แนะนำให้ถักเปียแน่น เพราะจะยิ่งเป็นการทำร้ายทั้งเส้นผม และหนังศีรษะไปพร้อมๆกัน จากการดึงผมขณะถักเปีย 

“ที่ลืมไม่ได้นั้นให้เลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ สำหรับจัดแต่งทรงผมและบำรุง ที่มีความเหนียวหนืด หรือมีความเข้มข้นสูง เพราะจะเป็นตัวที่ดึงอนุภาคของฝุ่น PM 2.5 มาเกาะที่ผมของเรา แนะนำว่าให้เปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมและบำรุงผม หลังสระผมเป็นจำในช่วงนี้ โดยให้เลือกใช้สูตรที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักมากกว่าน้ำมัน หรือ Water-Based แทน เพราะผลิตภัณฑ์บำรุงผมสูตรนี้ จะดูดอนุภาคของฝุ่นละอองมาสู่ผมได้น้อยลง ที่สำคัญผลิตภัณฑ์กลุ่มดูแลเส้นผมและทรงผมนั้น จะต้องช่วยคงความชุ่มชื่นให้หนังศีรษะและเส้นผมด้วยเช่นกัน ส่วนการเป่าผมหรือไดร์ผม แนะนำให้ลมเย็นหรือไดร์ลมอุ่น และใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องเส้นผมจากความร้อน ก่อนเป่าไดร์ผมก็จะช่วยเส้นผมได้ แต่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ปกป้องเส้นผมที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก อย่างที่ได้กล่าวไป ดังนั้นในช่วงที่ฝุ่น PM 2.5 สูงนั้น หมอแนะนำให้เลี่ยงการใช้น้ำมันจากธรรมชาติบำรุงผิวก่อน เช่น น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันมะกอก เนื่องจากเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่มีความเข้มข้นสูง มีความหนืด และมักจะดึงฝุ่นมาเกาะที่เส้นผมเราได้ง่าย แต่ถ้าต้องการใช้จริงๆก็แนะนำให้ผ่านช่วงที่ PM 2.5 สูงไปก่อน และจึงค่อยกลับมาใช้บำรุงผมได้ ”

หนังศีรษะอวัยวะที่อ่อนไหวกับฝุ่นอันตรายไม่ควรมองข้าม

นอกจากฝุ่น PM 2.5 จะส่งผลเสียกับเส้นผม โดยไปขัดขวางโปรตีน ของการเจริญเติบโตเส้นผม และนำมาซึ่งปัญหาผมที่หลากหลายแล้ว หนังศีรษะที่ได้รับฝุ่นพิษเป็นเวลานานๆ ก็จะทำให้มีอาการคันและเกา กระทั่งเป็นแผลที่หนังศีรษะและปล่อยแผลทิ้งไว้ ก็จะเกิดการติดเชื้อที่หนังศีรษะ และอาจลามไปติดเชื้อที่อวัยวะอื่นๆได้ หรือทำให้เกิดผลข้างเคียงต่ออวัยวะที่อยู่ใกล้ศีรษะ เป็นต้น

ผิวเสียเพราะภัยร้ายจากฝุ่น PM 2.5

เนื่องจากหนังศีรษะอยู่ใกล้ผม และผมอยู่ใกล้กับผิวหนัง เช่น ผิวหนังบริเวณบ่าคอไหล่ เป็นต้น ดังนั้นอันตรายที่ฝุ่น PM 2.5 กระทำกับผิวหนังของเรานั้น คือการระคายเคืองเป็นผื่นแดงและคัน กระทั่งนำมาสู่การเกา และการติดเชื้อราที่ผิวได้ ดังนั้นการปกป้องผิวหนังที่ดีสุด คือการใช้มอยซ์เจอร์ไรเซอร์เพื่อบำรุงผิว และเป็นตัวต้านอนุมูลอิสระ หรือต้านปัจจัยที่ทำให้ผิวแห้งและระคายเคือง ทั้งนี้ยังเน้นย้ำว่าควรเป็นครีมบำรุงผิวที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก Water-Based เพราะหากเป็นมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ที่มีความข้นหนืด ก็จะเป็นตัวดึงฝุ่นพิษมาทำร้ายผิวได้เช่นกัน

อาหารบำรุงผมและผิวรับมือฝุ่น PM 2.5

การบริโภควิตามินชนิดเม็ด ที่มีสารแอนติออกซิแดนท์ หรือสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ระบุข้างกล่องว่าสำหรับผม ผิว และเล็บ (For Hair Skin and Nails) ก็เป็นตัวช่วยบำรุงผมและผิวได้ และให้เลือกกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ แต่เน้นโปรตีนจากเนื้อสัตว์ (ปลา ไก่ เนื้อหมูไม่ติดมัน ตับหมู) และถั่วชนิดต่างๆและดื่มนม รวมถึงบริโภควิตามินและเกลือแร่จากผักผลไม้ ที่ช่วยสำหรับบำรุงเส้นผม และผิวพรรณให้แข็งแรง”