กูรูแนะเทรนด์เมคอัพ ลบจุดด้อยเพิ่มจุดเด่นคุณแม่แต่ละช่วงวัย เทคนิคเติมสีสันบนใบหน้า รับ 12 สิงหาพาแม่เที่ยว
ต้อนรับวันแม่แห่งชาติ ด้วยการอัพลุคคุณแม่ให้ดูดี ด้วยสีสันเมคอัพที่เหมาะกับช่วงวัย ซึ่งไม่ใช่แค่ทำให้อ่อนเยาว์ลง แต่ทว่ายังช่วยสร้างความมั่นใจ ในการออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านกับลูกๆอีกด้วย แม้ว่าแต่ละคนนั้นจะมีสไตล์ การแต่งหน้าในแบบของตัวเอง แต่สิ่งที่ลืมไม่ได้นั้นคือข้อจำกัด เกี่ยวกับปัญหาผิวพรรณบนใบหน้า ทั้งริ้วรอยที่ไม่พึงประสงค์ รวมถึงปัญหาหย่อนคล้อย บริเวณหนังตาและหางคิ้ว ดังนั้นหลักของการโบ๊ะเครื่องสำอางที่ดีของคุณแม่แต่ละช่วงวัย จำเป็นต้องครอบคลุมทุกปัญหาที่กล่าวมา เกี่ยวกับเรื่องนี้
The Reporters ได้สอบถามไปยัง “ฮั้ว-ทศพล สนั่นวงศ์” เมคอัพอาร์ทิส และเมคอัพกูรู ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเทรนด์การแต่งหน้า ของคุณแม่แต่ละช่วงวัยไว้น่าสนใจ เนื่องจากสาวๆแต่ละช่วงอายุ มักจะมีปัญหาผิวที่ต่างกัน โดยเฉพาะริ้วรอยต่างๆ ที่นอกจากทำให้ผิวไม่สดใสแล้ว แต่ความเหี่ยวย่นที่เกิดจากวัยที่มากขึ้น ยังทำให้คนวัยหลัก 5 หลัก 6 ขาดความมั่นใจในการแต่งหน้า แต่ทว่าเทคนิคการลงเมคอัพที่ช่วยกลบจุดบกพร่อง และเติมจุดเด่นให้ดียิ่งขึ้นนั้น สามารถทำให้คุณแม่ๆแต่ละช่วงอายุดูดีได้
ทศพล กล่าวว่า “เทคนิคการแต่งหน้าที่ดี ไม่ว่าจะเป็นคนวัยไหน คือการทำให้ลุคของคนแต่งดูเด็กลง ดังนั้นหากเป็น “คุณแม่วัยรุ่น” จะไม่ค่อยเป็นกังวลมากนั้น เพราะคุณแม่วัยนี้จะยัง อยู่ในโทนของเด็กวัยรุ่นวัยทีนส์อยู่ ดังนั้นสามารถแต่งหน้าได้ทุกสไตล์ทั้งน่ารักสดไส รวมถึงสไตล์สายฝอก็ได้เช่นกัน ที่เน้นลุคเฉี่ยวตาเข้มคิ้วเข้มและทาปากมีสีสัน ทั้งนี้เพื่อสร้างอินเนอร์หรือพลังของคุณแม่วัยสาว ที่บางคนต้องเลี้ยงลูกเล็ก และทำงานควบคู่กันไป ส่วน “คุณแม่วัยกลางคน” อายุ 40-60 ปี นั้น เนื่องจากเป็นวัยที่เริ่มมีอายุมากขึ้น ซึ่งคล้ายๆกับวัยรุ่นตอนปลาย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องแต่งตัวให้ดูทันสมัย แนะนำให้เน้นการแต่งหน้าที่สดใสได้เลย เช่น การปัดแก้มด้วยบลัชออน ที่มีสีสันขึ้นมาเล็กน้อย”
“ส่วนการทาปากนั้นเพื่อไม่ให้ลุค ดูเป็นผู้ใหญ่มากเกินไป ก็สามารถทาปากสีสดใสได้เช่นกัน ส่วนหนึ่งเพื่อสร้างลุคให้ดูชัดเจนดูและมีสีสัน หรือดูเป็นสาวกระดังงารนไฟ ที่ยังคงมีความเซ็กซี่ ในแบบฉบับของคนวัย 40 อัพ ที่สำคัญคนวัยนี้ไม่จำเป็นต้องใช้รองพื้นเยอะ หรือไม่จำเป็นรองพื้นให้แน่น แต่แนะนำว่าให้เน้นการทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ หรือครีมบำรุงเยอะๆ ควบคู่กับครีมกันแดดที่มีรองพื้นเบาๆ และเลือกใช้ลูมิเนเตอร์ หรือ แป้งไฮท์ไลท์ ที่บริเวณหน้าเบาๆ เพื่อทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งเมื่อสัมผัสกับแสงไฟ และแนะนำให้เขียนคิ้วให้ดูเป็นธรรมชาติก็เท่านี้เพียงพอแล้ว ที่สำคัญให้แต่งหน้าโดยโทนสีให้เสมอผิว หรือขาวกว่าผิวได้เล็กน้อย แต่ไม่จำเป็นแต่งหน้าให้ขาวอกมากเกินไป”
“ถัดมาที่ “คุณแม่วัย 60 ปี” ขึ้นไปนั้นก็สามารถใช้เทคนิคการแต่งหน้า ในแบบคุณแม่วัยกลางคน (40-60 ปี) มาใช้ได้เช่นกัน โดยเฉพาะการเน้นใช้คำบำรุง เพื่อควบคู่กับการใช้ครีมกันแดด ที่มีผสมรองพื้นบางๆ และเลือกใช้แป้งฟัฟที่ไม่หนาจนเกินไป แต่เนื่องจากคุณแม่วัยนี้ จะมีปัญหาเรื่องหนังตาตก ดังนั้นจึงจำเป็นเน้นการยกกระชับที่ดวงตาเช่นกัน โดยสามารถใช้ตัวช่วย อย่างสติ๊กเกอร์ตาข่าย เพื่อติดและกระชับหนังตาให้ยกขึ้น ก็ช่วยทำให้คนวัยหลัก 6 ดูอ่อนเยาว์มากขึ้น ที่สำคัญการเขียนคิ้ว ควรเขียนในลักษณะของปัดขึ้น 3 ครั้ง หรือเขียนคิ้วชี้ขึ้นแบบคนไทยเชื้อสายจีน เพื่อเสริมโหวงเฮ้ง หรือแก้ปัญหาไม่ให้หนังตาตก ส่วนสีสันของปากนั้น สามารถทาปากให้สีสดใส เพื่อเสริมบุคลิกภาพของคุณแม่ให้เด่นชัดมากยิ่งขึ้น”
คุณแม่วัย 50 อัพ เลี่ยงลงเมคอัพปกปิดริ้วรอยบนหน้า-หนังตา เน้นตัวช่วยสติ๊กเกอร์ตาข่าย เทคนิคแก้ปัญหาหนังตาตกได้
“สำหรับเทคนิคเล็กน้อยๆ ที่ช่วยให้การแต่งหน้าดูดีขึ้นนั้น สิ่งที่ต้องระวังสำหรับคุณแม่ ที่อายุ 50 ปีขึ้นไปนั้น คือการลงชิมเมอร์ (shimmer) หรือประกายวิบวับที่ทำให้ผิวหน้าดูมีเงา และมีมิติเวลาที่ถูกแสงไฟกระทบ นอกจากนี้ชิมเมอร์ยังช่วยปกปิดริ้วรอยแห่งวัยต่างๆ แต่ในคุณแม่วัยนี้มักจะมีปัญหา ทั้งริ้วรอย ฝ้า กระต่างๆ ดังนั้นถ้าลงชิมเมอร์เพื่อปกปิดริ้วรอย ก็จะยิ่งทำให้การแต่งหน้าไม่สม่ำเสมอ และยังทำให้ปัญหาผิวดังกล่าวเห็นชัดมากขึ้น หรือแม้แต่การลงชิมเมอร์ ที่บริเวณเปลือกตาผู้ใหญ่ ก็ทำให้หนังตาดูหย่อนคล้อยลงได้เช่นกัน ดังนั้นการใช้เทคนิคการติดตาข่าย หรือสติ๊กเกอร์ตาข่ายสำหรับดวงตา ก็จะช่วยยกกระชับชั้นตาคนวัยนี้ได้ดีกว่า และทำให้ชั้นตาชัดขึ้น และแก้ปัญหาหนังตาตกได้ดี ที่สำคัญสามารถเพิ่มสีสันบนชั้นตาที่ชัดขึ้น ด้วยการลงอายแชร์โดว์โทนสีน้ำตาลเบจ ก็สามารถช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้ดี และทำให้ลุคดูอ่อนเยาว์ลง หรือคุณแม่ที่มีปัญหาชั้นตาบวม ก็สามารถใช้เทคนิคติดสติ๊กเกอร์พลาสติก ช่วยยกกระชับและอำพรางชั้นตาที่บวมได้เช่นกัน”
สักคิ้วถาวรเลี่ยงได้เลี่ยง หรือเลือกสักคิ้วถาวรแบบสีฝุ่น ช่วยดูเป็นธรรมชาติ และป้องกันหนังตาตกเมื่อคุณแม่อายุมากขึ้น
“ถ้าเป็นไปได้แนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงการสักคิ้วถาวร ทั้งคุณแม่วัยรุ่นและคนแม่วัยกลางคน แต่หากคุณแม่วัยรุ่นต้องการสักคิ้วถาวรจริงๆ แนะนำให้สักแบบสีฝุ่น ที่ทั้งโครงคิ้วและสีจะอยู่ไม่นาน ที่สำคัญการสักคิ้วถาวรในคุณแม่อายุมาก เช่น วัย 60 ปี ไม่เพียงทำให้โครงคิ้วยังคงอยู่ แต่จะทำให้เส้นที่บริเวณปลายคิ้วตก เพราะหนังบริเวณคิ้วเหี่ยวย่น ซึ่งจะยิ่งทำให้หนังตาของคุณแม่วัยนี้ ตกมากขึ้นไปอีก ซึ่งการแต่งหน้าช่วยจะค่อนข้างยาก หรือจำเป็นต้องใช้เมคอัพกูรูแต่งหน้าช่วยแก้ไขให้”
ก่อนแต่หน้าเลือกครีมบำรุงและครีมกันแดด ปราศจากสารปนเปื้อนอันตราย-ไม่ลืมล้างทำความสะอาดผิวอย่างถูกวิธี
“นอกจากนี้การเลือกครีมบำรุง และการทาครีมกันแดดนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นยี่ฮ้อดังหรือราคาแพง แต่ขอให้ไม่มีสารที่เป็นอันตรายกับผิวหน้าของเรา หรือพยายามหลีกเลี่ยงครีมบำรุง และครีมกันแดดที่มีสารเคมีเยอะนั่นเอง เพราะเป็นเมคอัพที่แนบสัมผัส อยู่กับผิวของเรามากที่สุด ที่สำคัญหากรู้ว่าแพ้เครื่องสำอาง ไม่ว่าจะชิ้นใดก็แล้วแต่ ควรทิ้งทันทีไม่ควรใช้ต่อเพราะสายดาย ซึ่งอาจจะทำให้ผิวของเราไหม้และบางลงได้”
“ส่วนการทำความสะอาดผิวหน้า ของคุณแม่ทุกเพศทุกวัย รวมถึงผู้ชายนั้น แนะนำว่าควรใช้คลีนซิ่ง หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ทั้งรูปแบบของคลีนซิ่งออยส์ หรือคลีนซิ่งบาล์ม ก่อนล้างทุกครั้ง เพราะแม้แต่ในครีมกันแดดนั้น ก็สามารถตกค้างบนผิวของเราได้ หากไม่เช็ดด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ทั้งนี้เมื่อเช็ดคลีนซิ่งออยส์ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบออยส์ หรือ เนื้อบาล์ม แนะว่าให้นวดเบาๆให้ทั่วหน้า ตามด้วยหยดน้ำหรือโปรยน้ำเล็กน้อยลงบนผิวหน้าของ ทั้งนี้เพื่อให้น้ำไปเปลี่ยนคุณสมบัติของเนื้อคลีนซิ่งทั้งออยส์และบาล์ม ดึงเครื่องสำอางออกจากผิวของเราให้สะอาดหมดจด ตามด้วยการเช็ดคลีนซิ่งน้ำ H2O หรือ คลีนซิ่งไมเซล่า (Micellar Cleansing) เพื่อทำความสะอาดอีกรอบ ก่อนล้างด้วยน้ำเปล่า และจึงตามด้วยโฟมล้างหน้า”
“เพราะการที่เราไม่ใช้คลีนซิ่ง เช็ดทำความสะอาดหน้าก่อน หรือพูดง่ายว่าการล้างหน้าทันที โดยโฟมหรือสบู่ล้างหน้า นอกจากเป็นการชะผิวของเราให้บางลง ด้วยสบู่หรือโฟมล้างหน้า ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้องแล้ว แต่ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดดังกล่าว ยังไม่ได้ทำให้เครื่องสำอาง ที่ติดอยู่บนผิวของเราหลุดออกแต่อย่างใด นั่นอาจทำให้ผิวหน้ามองคล้ำ และมีปัญหาสิวฟ้าจากการแต่งหน้า และล้างทำความสะอาดไม่หมดจดได้เช่นกันครับ”
นอกจากการแต่งหน้าสวย ให้เหมาะกับคุณแม่แต่ละช่วงอายุแล้ว แต่การใช้เทคนิคเล็กน้อยๆเพื่อช่วยลดปัญหาผิวพรรณ อันเนื่องจากหย่อนคล้ายให้กระชับขึ้น ก็ช่วยกระชากวัยคุณแม่ได้เช่นกัน รวมถึงการล้างทำความสะอาดหลังแต่งหน้า ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรข้าม…จริงไหมคะ