LIFESTYLE

เบบี้บอท (Babybotte) แบรนด์รองเท้าสำหรับเด็ก เปิดตัวคอลเลคชั่น “แฮปปี้ ซันไชน์” รองเท้าแฟชั่นเพื่อสุขภาพ

อรนิดา จุลเสน ผู้บริหารแบรนด์ “เบบี้บอท” (Babybotte) แบรนด์รองเท้าที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านการเดินสำหรับเด็ก เปิดตัวคอลเลคชั่น “แฮปปี้ ซันไชน์” (Happy Sunshine) รองเท้าแฟชั่นเพื่อสุขภาพที่ได้รับแรงบันดาลใจ จากสีสันอันสดใสของธรรมชาติ พร้อมด้วย แพทย์หญิงขวัญเมือง ณ ตะกั่วทุ่ง กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ และพัฒนาการเด็ก แนะเทคนิคการเลือกรองเท้า เพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็กในทุกก้าวเดิน พร้อมเหล่าเซเลบริตี้พาลูกๆ มาร่วมงาน อาทิ อรชุมา ดุรงค์เดช และปิติพัฒน์ ปรีดานนท์ พร้อมด้วยน้องโคลเอ้และน้องคอลิน,จริยดีและเจย์ สเปนเซอร์พร้อมด้วยน้องเจคและน้องจาญา ฯลฯ โดยรองเท้า “เบบี้บอท” (Babybotte) มีทั้งหมด 4 รุ่น สำหรับเด็กแรกเกิด ไปจนถึงอายุ 15 ปี อาทิ รุ่นออล โฟร์ (All Fours) รองเท้าสำหรับเด็กแรกเกิด หรือช่วงกำลังคลาน,รุ่นท็อดเลอร์ (Toddler) เป็นรุ่นสำหรับเด็กเริ่มหัดเดิน-อายุ 2 ปี,รุ่นเฟิร์ส สเต็ป (First Step) รองเท้าสำหรับเด็กช่วงเริ่มเดิน และเริ่มวิ่ง ตั้งแต่อายุ 1-5 ปี,และรุ่นอินเตอร์พิต (Intrepides) รองเท้าสำหรับเด็กอายุ 4-15 ปี

อรนิดา กล่าวว่า “เบบี้บอท(Babybotte) เป็นรองเท้าเด็กสำหรับเด็กแรกเกิด ไปจนถึงอายุ 15 ปี ที่แพทย์แนะนำว่า มีคุณสมบัติตรงตามคำแนะนำจากแพทย์ เพราะเป็นรองเท้าที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านการเดิน สำหรับเด็กโดยเฉพาะ ซึ่งที่ผ่านมาเราได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ ในการผลิตรองเท้าให้ได้มาตรฐาน เพื่อช่วยลดปัญหาด้านการเดินของเด็ก รองเท้าที่ดีจะช่วยให้เด็กได้ฝึกการทรงตัวและเดินได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมบุคลิคภาพในระยะยาวได้อีกด้วย สำหรับในคอลเลคชั่นนี้ที่ชื่อว่าแฮปปี้ซันไชน์ เป็นการนำสีสันของธรรมชาติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสีของท้องฟ้า ต้นไม้ ดอกไม้รอบๆตัว มาแต่งแต้มลงบนรองเท้า ให้เด็กๆให้เลือกสีสัน ลวดลายที่ชื่นชอบ ถือเป็นการกระตุ้นให้เด็กๆ อยากสวมใส่รองเท้าเพื่อทำกิจกรรมที่ชื่นชอบในทุกๆวัน”

ด้านแพทย์หญิงขวัญเมือง กล่าวว่า “นอกจากการดูแลเท้าของเด็กให้แข็งแรง และถูกสุขลักษณะแล้ว สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรต้องใส่ใจ และให้ความสำคัญมากๆ นั่นคือการเลือกรองเท้าให้เหมาะกับลูก เพราะเด็กแต่ละช่วงวัยจะมีการพัฒนากระดูกเท้าที่แตกต่างกัน รวมถึงกิจกรรมที่ต้องใช้เท้าแต่ละช่วงอายุก็แตกต่างกันด้วย ซึ่งเท้าเด็กจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว พ่อแม่จึงควรตรวจเช็คความคับหรือหลวมของรองเท้าอยู่เสมอ บางครั้งอาจต้องเปลี่ยนรองเท้าถึง 3 ไซส์ ในช่วง 1 ปี เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า การใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสม จะส่งผลกระทบต่อท่าทางการเดินของเด็ก อาจจะทำให้เกิดภาวะเท้าแบนถาวร เท้าบิดเสียรูป ท่าทางการเดินที่ไม่สวย ดังนั้นการหารองเท้าที่เหมาะสมกับสรีระเท้าของลูกจึงมีความสำคัญ และมีประโยชน์มากต่อการเดินของลูก เพราะรองเท้าที่ดี จะเป็นตัวช่วยในการให้ลูกมีความมั่นใจในก้าวเดินแต่ละก้าว เปรียบเสมือนเป็นการลงทุนด้านบุคลิกภาพในระยะยาว

สำหรับเทคนิคในการเลือกซื้อรองเท้าเด็กนั้น ถ้าเป็นเด็กเล็กเด็กอาจจะไม่สามารถบอกเราได้ว่ารองเท้าที่ใส่เริ่มคับไปแล้ว ไม่พอดีหรือหลวมไป จนกว่าจะเห็นแผลรองเท้ากัด หรือเจอผื่นแดงที่อาจเกิดจากการเสียดสี แต่หากเราหมั่นเช็ครองเท้าลูกเป็นประจำ เช่นมีจุดตรงไหนสึกหรอมากกว่าปกติ หรือสึกหรอตรงพื้นรองเท้าจุดใดจุดหนึ่งเร็วกว่าจุดอื่นๆ หรือหากเป็นเด็กเล็กมาก เด็กอาจมีอาการไม่อยากใส่รองเท้าเดิน นั่นถือเป็นสัญญาณที่บอกว่า ควรเปลี่ยนรองเท้าคู่ใหม่ได้แล้ว สำหรับช่วงเวลาในการซื้อรองเท้าเด็กนั้น ควรจะทำการซื้อในช่วงเที่ยงถึงเย็นเท่านั้น เพราะโดยมากแล้วช่วงนี้เท้าจะขยายตัวมากที่สุด เมื่อถึงร้านควรให้เด็กลองใส่รองเท้าทั้งสองข้าง เมื่อลองแล้วหัวแม่โป้งเท้าของเด็ก ควรห่างจากผนังปลายสุดประมาณครึ่งนิ้ว หรือ 1 เซนติเมตร หากเป็นรองเท้าหุ้มส้นตรงหลังเท้า ควรแค่แตะกับตัวรองเท้า แต่ไม่ควรให้รัดมากจนเกินไป และการเลือกรองเท้าไม่ควรเกิน 1 ไซส์ เช่น วัดได้ ไซส์ 5 ไม่ควรซื้อเกิน ไซส์ 6

การเลือกซื้อรองเท้าให้เด็ก ควรคำนึงถึงความใส่สบายเป็นหลัก ทำจากวัสดุที่ดีและมีคุณภาพ โดยรองเท้าที่ทำจากวัสดุที่ดี จะสามารถระบายอากาศได้ดี ทำให้ไม่เกิดการอับชื้น อีกทั้งยังต้องมีน้ำหนักเบา พื้นรองเท้าควรเลือกแบบนิ่มไม่มีส้น พื้นรองเท้าต้องเสมอกัน และพื้นรองเท้าควรจะมีรอยหยัก เพื่อป้องกันการลื่นล้มขณะเดินหรือวิ่ง นอกจากนี้อย่าลืมใส่ใจในความประณีตของการตัดเย็บ โดยด้านในต้องไม่มีรอยต่อตะเข็บหรือขอบแข็ง เพราะจะไปเสียดสีกับเนื้ออ่อนๆ ทำให้เท้าเจ็บหรือเป็นแผลถลอกได้ นอกจากนี้การเลือกรองเท้าแบบผ้าใบหุ้มข้อ จะช่วยประคองข้อเท้าของเด็กขณะเดินหรือวิ่งไม่ให้หกล้มได้ง่าย การเลือกรองเท้าที่ดีจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการที่สำคัญของเด็ก ทำให้การเดินมีความมั่นคง ปลอดภัย และยังช่วยดูแลปกป้องอวัยวะสำคัญอย่างเท้าอีกด้วย ด้านลวดลายและสีสัน ควรเลือกลายรูปแบบและสีที่เด็กๆโปรดปราน เพราะจะทำให้เด็กอยากสวมใส่รองเท้าและก้าวย่างได้อย่างมีความสุข”

Related Posts

Send this to a friend