‘NTFG’ ยื่นไฟลิ่ง ก.ล.ต. ขายไอพีโอ 60 ล้านหุ้น เทรด mai

บมจ. เอ็นทีเอฟ อินเตอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) ผู้ส่งออกผลไม้สดและแช่แข็ง ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 60 ล้านหุ้น เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า ‘NTFG’ มี บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
นางสาวสุวิมล ศรีโสภาจิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท (หุ้นสามัญ 200 ล้านหุ้น พาร์ 0.50 บาท) เป็นทุนชำระแล้ว 70 ล้านบาท การเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 60 ล้านหุ้น คิดเป็น 30% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลัง IPO โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปลงทุนในเครื่องมือและอุปกรณ์การผลิต ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนขยายการผลิต และชำระคืนเงินกู้ยืมบางส่วน
ผลประกอบการของ NTFG ที่ผ่านมามีการเติบโตต่อเนื่อง โดยมีรายได้จากการขายปี 2565 อยู่ที่ 347 ล้านบาท ปี 2566 อยู่ที่ 563 ล้านบาท และปี 2567 อยู่ที่ 1,115 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ช่วงปี 2565-2567 ที่ 79.3%
นายวิชัย ศิระมานะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NTFG กล่าวว่า การเติบโตมาจากความต้องการทุเรียนและผลไม้ไทยในจีนที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับกลยุทธ์ของบริษัทที่เน้นคุณภาพสินค้า รูปลักษณ์ รสชาติ และการจัดส่งที่ตรงตามความต้องการลูกค้า อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาธุรกิจส่งออกผลไม้ต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนสูง ทำให้ผลิตได้จำกัด การระดมทุนครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทขยายกำลังการผลิตรองรับความต้องการของตลาดหลักในจีนและตลาดใหม่ๆ พัฒนาสินค้าใหม่ และลงทุนเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพื่อสร้างการเติบโตตามเป้าหมายและยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมผลไม้ไทย
ในปี 2567 สัดส่วนการส่งออกสินค้าของ NTFG ไปยังตลาดหลักคือจีน ประกอบด้วย ทุเรียน 91% ลำไFย 5% มะพร้าว ชมพู่ และผลไม้อื่นๆ ประมาณ 2% ส่วนทุเรียนแช่แข็งส่งออกไปสหรัฐอเมริกาประมาณ 2% โดยบริษัทผลิตสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าของตนเอง 6 แบรนด์ และแบรนด์ของลูกค้าพันธมิตร 1 แบรนด์ ซึ่งได้รับความนิยมในตลาดจีน
ด้าน นายอิศรา ภูววิเชียรฉาย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ NTFG กล่าวถึงการควบคุมคุณภาพตลอดห่วงโซ่อุปทานว่า บริษัทใช้ระบบมาตรฐาน 2Q2T (NTF Standard) เป็นแนวทางให้โรงคัดบรรจุ ประกอบด้วย Quality (คุณภาพรสชาติและรูปลักษณ์), Quantity (ปริมาณครบถ้วน), Time (ควบคุมเวลาให้สุกพร้อมทาน) และ Temperature (ควบคุมอุณหภูมิรักษาความสด) โดยเน้นความปลอดภัยด้านอาหาร ปราศจากสารเคมีอันตราย ซึ่งมาตรฐานนี้ยังเป็นข้อมูลให้โรงคัดบรรจุนำไปสื่อสารกับเกษตรกรเพื่อดูแลผลผลิตให้ตรงความต้องการตลาด
นอกจากนี้ NTFG ยังมีแผนพัฒนากระบวนการผลิตร่วมกับโรงคัดบรรจุ โดยนำเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพ ลดขั้นตอนการผลิต คัดกรองและรักษาคุณภาพทุเรียนและผลไม้อื่นๆ ให้ได้มาตรฐานสม่ำเสมอ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลไม้ไทยในตลาดต่างประเทศ