‘แอลจี’ โชว์ผลงาน Q1/68 รายได้ทุบสถิติ 22.74 ล้านล้านวอน เครื่องใช้ไฟฟ้า-B2B โตเด่น
วันนี้ (25 เม.ย. 68) – บริษัท แอลจี อิเล็กทรอนิกส์ (LG) ประกาศผลประกอบการรวมไตรมาสแรกปี 2568 ด้วยรายได้รวม 22.74 ล้านล้านวอน (ประมาณ 5.27 แสนล้านบาท) ซึ่งเป็นรายได้ไตรมาสแรกที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์บริษัท และมีกำไรจากการดำเนินงาน 1.26 ล้านล้านวอน (ประมาณ 2.92 หมื่นล้านบาท) นับเป็นปีที่ 6 ติดต่อกันที่กำไรจากการดำเนินงานไตรมาสแรกสูงกว่า 1 ล้านล้านวอน (ประมาณ 2.31 หมื่นล้านบาท) ผลประกอบการดังกล่าวมาจากการเติบโตของธุรกิจหลัก โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจองค์กร (B2B), ธุรกิจบริการ (เช่น แพลตฟอร์ม webOS และธุรกิจบอกรับสมาชิก) และช่องทางจำหน่ายตรงถึงผู้บริโภค (D2C)
กลุ่มธุรกิจโซลูชันยานยนต์และระบบทำความร้อน ระบายอากาศ และปรับอากาศ (HVAC) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในกลยุทธ์ B2B ของแอลจี สร้างรายได้และกำไรจากการดำเนินงานรายไตรมาสสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยกำไรจากการดำเนินงานรวมของสองกลุ่มธุรกิจนี้เพิ่มขึ้น 37.2% ขณะที่รายได้เพิ่มขึ้น 12.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
กลุ่มธุรกิจโซลูชันเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน (H&A) ทำรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6.70 ล้านล้านวอน (ประมาณ 1.55 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 9.3% และมีกำไรจากการดำเนินงาน 644.6 พันล้านวอน (ประมาณ 1.49 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้น 9.9% เมื่อเทียบปีก่อน แอลจีระบุว่าธุรกิจนี้กำลังปรับตัวสู่รูปแบบใหม่ เช่น ธุรกิจบอกรับสมาชิก (LG Subscribe) และ D2C สำหรับไตรมาส 2 บริษัทคาดการณ์ความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นจากการแข่งขันและนโยบายการค้า จึงเตรียมขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ เน้นธุรกิจบอกรับสมาชิกและออนไลน์ รวมถึงโอกาสในกลุ่ม B2B เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าบิลท์อินและการขายชิ้นส่วน พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานเพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไร
กลุ่มธุรกิจสื่อและความบันเทิง (HE) มีรายได้ 4.95 ล้านล้านวอน (ประมาณ 1.15 แสนล้านบาท) ใกล้เคียงกับปีก่อน แม้ความต้องการทีวีชะลอตัว แต่ได้แรงหนุนจากการเติบโตของธุรกิจโฆษณาและคอนเทนต์บนแพลตฟอร์ม webOS ส่วนกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 4.9 พันล้านวอน (ประมาณ 113.7 ล้านบาท) ลดลงจากปีก่อนเนื่องจากราคาจอ LCD สูงขึ้นและค่าการตลาดเพิ่มขึ้น ในไตรมาส 2 บริษัทจะเน้นสร้างผลกำไรจากผลิตภัณฑ์พรีเมียม และขยายแพลตฟอร์ม webOS ทั้งฐานผู้ใช้และพันธมิตรด้านคอนเทนต์
กลุ่มธุรกิจโซลูชันยานยนต์ (VS) สร้างสถิติใหม่ทั้งรายได้ที่ 2.84 ล้านล้านวอน (ประมาณ 6.58 หมื่นล้านบาท) และกำไรจากการดำเนินงาน 125.1 พันล้านวอน (ประมาณ 2.9 พันล้านบาท) โดยยังคงมีคำสั่งซื้อคงค้างมูลค่ารวม 100 ล้านล้านวอน (ประมาณ 2.32 ล้านล้านบาท) และมีความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้นจากระบบสาระบันเทิงในรถยนต์ระดับพรีเมียม สำหรับไตรมาส 2 บริษัทตั้งเป้ารักษาการเติบโตและโครงสร้างกำไรที่มั่นคงผ่านการเน้นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงและการบริหารจัดการทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพ
กลุ่มธุรกิจโซลูชันเพื่อสิ่งแวดล้อม (BS) ซึ่งรวมถึงธุรกิจ HVAC ทำสถิติสูงสุดรายไตรมาสเช่นกัน ด้วยรายได้ 3.05 ล้านล้านวอน (ประมาณ 7.07 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้น 18.0% และกำไรจากการดำเนินงาน 406.7 พันล้านวอน (ประมาณ 9.43 พันล้านบาท) เพิ่มขึ้น 21.2% คิดเป็นอัตรากำไร 13.3% ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นส่วนหนึ่งมาจากการแยกธุรกิจ HVAC เป็นหน่วยธุรกิจอิสระตั้งแต่ต้นปีนี้ ในไตรมาส 2 บริษัทจะขยายตลาด HVAC สำหรับที่พักอาศัยและเชิงพาณิชย์ในตลาดเกิดใหม่ รวมถึงเจาะโครงการขนาดใหญ่ในภาคอุตสาหกรรม ศูนย์ข้อมูล AI ด้วยโซลูชันระบบทำความเย็นขนาดใหญ่