HUMANITY

‘อนุชา’ จ่อชงนายกฯ ตั้ง ‘บิ๊กโจ๊ก’ เป็นประธานแก้ปัญหาที่ดินชาวเลเกาะหลีเป๊ะ

‘อนุชา’ จ่อชงนายกฯ ตั้ง ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ เป็นประธานแก้ปัญหาที่ดินชาวเลเกาะหลีเป๊ะ ให้กระทรวงยุติธรรมอำนวยความสะดวกชาวเลเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มที่ บอกภาคเอกชนจะทำอะไร “ขอให้นึกหนักๆ” ชาวเลยังหวั่นเหตุเผชิญหน้าเอกชน

วันนี้ (15 ธ.ค. 65) นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเลและกะเหรี่ยง แถลงข่าวหลังประชุมร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ภาคประชาสังคม และตัวแทนชาวเลเกาะหลีเป๊ะ อ.เมือง จ.สตูล หลังลงพื้นที่รับฟังและสำรวจปัญหาที่ดินที่มีข้อพิพาทกับเอกชน ปิดทางสัญจรสาธารณะ เข้าโรงเรียนบ้านเกาะหลีเป๊ะ ทำให้เกิดภาพนักเรียนต้องปีนรั้วเข้าโรงเรียนตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

นายอนุชา ระบุว่า ที่ประชุมมีข้อสรุปจะทำการตรวจสอบสิทธิ์ในที่ดินที่มีบนเกาะหลีเป๊ะ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องในอนาคต และในระยะเร่งด่วนได้มอบหมายทางอำเภอและจังหวัด พูดคุยกับผู้ที่เป็นข้อพิพาท เพื่อประนีประนอมในการอยู่ร่วมกัน เพื่อให้สังคมเดินหน้าต่อไปได้

จากการพูดคุยวันนี้ ได้รับฟังประเด็นการแก้ปัญหาเรื่องที่ดินจากหลายภาคส่วน ยอมรับว่าเป็นปัญหาที่มีมาอย่างยาวนาน ประเด็นการได้มาซึ่งที่ดิน ขั้นตอนการพิสูจน์สิทธิในอดีต จะนำมาเป็นข้อมูล ในการตั้งคณะกรรมการเพื่อดำเนินการเรื่องนี้โดยเฉพาะ โดยจะเสนอให้นายกรัฐมนตรีลงนามตั้งคณะกรรมการ ให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. เป็นประธานคณะกรรมการ และให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กระทรวงยุติธรรม เป็นเลขานุการ และมีหน่วยงานของกระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพย์ฯ เป็นกรรมการ เพื่อตรวจสอบเอกสารสิทธิบนเกาะหลีเป๊ะและกรณีพิพาทดังกล่าว

นายอนุชา ยืนยัน จะใช้ข้อมูลทุกส่วนมาประกอบการพิจารณาทางข้อมูลที่ทำสำเร็จแล้วจากทั้ง กรมที่ดิน กรมสอบสวนคดีพิเศษ นักวิชาการอิสระ ข้อมูลจากชุมชนชาวเลเกาะหลีเป๊ะ ข้อมูลจากจังหวัด เพื่อหาข้อยุติ และให้กระทรวงยุติธรรมอำนวจความสะดวก เป็นแม่งานให้พี่น้องประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้อย่างเต็มรูปแบบ และจะดำเนินการโดย “เร็วที่สุด”

ผู้สื่อข่าวถามถึงแนวทางการคุ้มครองสวัสดิภาพและความปลอดภัยของชาวบ้านขณะการทำงานของคณะทำงาน นายอนุชา กล่าวว่า “ไม่มีใครกล้าหรอกครับ ผมยืนยัน ผมไม่อยากให้เกิดการเผชิญหน้า ได้ฝากทางจังหวัดให้ช่วยดูในเรื่องนี้ และฝากถึงประชาชนและเอกชนให้ดำเนินการอยู่ภายใต้กฎหมาย ภาคเอกชนจะทำอะไร ขอให้นึกให้หนักๆ”

ผู้สื่อข่าวถามถึงการสั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่ดูแลบรรเทาทุกข์ประชาชนอย่างไรบ้าง นายอนุชา เชื่อว่าข้าราชการทุกคนตั้งใจบรรเทาทุกข์ให้ชาวบ้านอยู่แล้ว เชื่อว่าข้าราชการไม่เข้าข้างใคร ออกข้างใคร เพียงแค่ข้าราชการมีกฎหมายตีกรอบให้จำเป็นต้องดำเนินการตาม จะทำนอกจากนั้นไม่ได้ ต้องเห็นใจข้าราชการด้วย

ในการประชุมวันนี้ไม่ได้เชิญภาคเอกชนคู่พิพาทมาร่วมด้วย เพราะต้องการรับทราบข้อเท็จจริงจากการลงพื้นที่ แต่หากหลังจากนี้เอกชนต้องการเข้ามาชี้แจงให้ข้อมูล ก็ยินดีเพราะจะเป็นวิธีการหาทางออกร่วมกันอย่างสันติที่สุด

“ผมอยากเห็นอยู่แล้ว(การพูดคุยกับเอกชนคู่พิพาท) หากเขาต้องการให้สังคมเดินไปด้วยความสงบสุข เขาต้องเจียดอะไรบางอย่างเพื่อเยียวยา ให้ประชาชนที่เป็นคนที่ไม่มีโอกาสต่อสู้หรือมีกำลังน้อยกว่า มีโอกาสยืนขึ้นมา มีโอกาสแบ่งสรรปันส่วนประโยชน์จากทรัพยากรของประเทศ ได้อย่างมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ หากทำได้ผมเชื่อว่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้เกาะหลีเป๊ะเจริญ ให้พวกเขาเดินไปกับท่าน… เขาอยู่มาเป็นร้อยปีแล้ว ถ้าท่านจะทอดทิ้งเขา ผมก็ไม่รู้ว่าจะว่าอย่างไร”

ด้าน แสงโสม หาญทะเล ครูโรงเรียนบ้านเกาะหลีเป๊ะ เผยถึงความพึงพอใจหลังการประชุมในวันนี้ ว่าความต้องการที่แท้จริงคืออยากให้เอกชนเปิดทางสัญจรหลักให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ เพราะโรงเรียนเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมของทุกคนในชุมชน เชื่อว่าคณะทำงานที่จะมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เป็นประธานจะแก้ปัญหาได้ แต่เรียกร้องขอให้แก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการเปิดเส้นทางเข้าโรงเรียน การขอให้ศาลคุ้มครองชั่วคราวระหว่างพิสูจน์สิทธิที่ดิน

ส่วนประเด็นการเผชิญหน้าของคนในชุมชนกับกลุ่มเอกชน ผู้รับเหมาที่เข้ามาก่อสร้าง แสงโสม ยอมรับว่า ตนยังไม่มั่นใจว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก เพราะที่ผ่านมาในระดับพื้นที่ก็เคยรับปากว่าจะไม่มีการปิดกั้น แต่ให้หลัง 1-2 วันก็มีการเข้ามาก่อสร้างอีก จึงยังคงการเฝ้าระวังของพี่น้องชาวเลอยู่

เรื่อง/ภาพ : ทศ ลิ้มสดใส

Related Posts

Send this to a friend